รีวิว Realme C1 น้องเล็กจอใหญ่ แบตอึด กล้องคู่ ราคาเพียง 3,990 บาท หาซื้อง่ายที่ 7-Eleven พร้อมโปรจุใจที่ใครๆ ก็ต้องหยุด!!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทยสำหรับ Realme C1 (เรียลมี ซีวัน) สมาร์ทโฟนน้องเล็กสเปคคุ้ม ดีไซน์ทันสมัย ภายใต้สโลแกน “Proud To Be Young” ที่เปิดตัวมาพร้อมโปรโมชั่นจัดเต็มเอาใจคนรุ่นใหม่ และตอบสนองทุกการใช้งานในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้
สำหรับ Realme C1 โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรูสีดำ มีสเปคการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยหน้าจอใหญ่ Notch Full Screen ขนาด 6.2 นิ้ว แบตเตอรี่สุดอึด 4230 mAh ใช้ชิป Snapdragon 450 และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด บนเครือข่าย 4G ถ่ายรูปสวยด้วยกล้องหลังเลนส์คู่ กับกล้องหน้าเซลฟี่ AI ที่มาพร้อมโหมดหน้าชัดหลังเบลอ รวมถึงมีสเปคการใช้งานอื่นๆ ที่ครบครันคุ้มค่าคุ้มราคา
Realme C1 วางจำหน่ายในราคาเพียง 3,990 บาทเท่านั้น เพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้ที่ 7-Eleven ทุกสาขาใกล้บ้านตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมาพร้อมกับซิมแบบเติมเงินจาก TrueMove H จุใจไปกับสิทธิพิเศษของโปรสุดคุ้ม ได้ทั้งเครื่อง ได้ทั้งโปร โทรฟรีในเครือข่าย TrueMove H เล่นเน็ตและ Wi-Fi ได้แบบไม่อั้นนาน 1 ปี ที่ความเร็ว 1 Mbps เพียงแค่เติมเงินสะสมครบ 100 บาทต่อเดือน โปรโมชั่นตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2562 เท่านั้น
และต้องบอกเลยว่า Realme C1 ที่วางจำหน่ายใน 7-Eleven ไม่ใช่เครื่องล็อคซิมนะคะ สามารถใช้งานได้ทุกเครือข่ายเลย เพียงแต่ว่าหากเปิดใช้งานซิมเติมเงินของ TrueMove H ที่มาในแพ็กเกจก็จะยิ่งทวีคูณความคุ้มเข้าไปอีก โดยสามารถโทรในเครือข่าย เล่นเน็ต และ Wi-Fi ได้ไม่อั้นนาน 1 ปีนั่นเองค่ะ
และในวันนี้ทาง ninethaiphone จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมรีวิวเจ้า Realme C1 เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนที่จะซื้อกันค่ะ และหากเพื่อนๆ เห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้ทีมงาน และบอกต่อเพื่อนๆ คนอื่นด้วยนะคะ ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปติดตามกันเลย
ข้อมูลสเปค Realme C1
Features | Realme C1 |
วันเปิดตัว : | – พฤศจิกายน 2561 |
ราคา : | – 3,990.- (ณ วันที่ 18 ธ.ค. 61) |
OS : | – Android 8.1 Oreo ครอบทับ Color OS 5.1 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.2 นิ้ว | |
– อัตราส่วน 19:9 | |
– สัดส่วนพื้นที่การแสดงผล 88.8% | |
– ความละเอียด 1520×720 พิกเซล (HD+) | |
– Corning Gorilla Glass 3 | |
– Multitouch | |
CPU : | – Snapdragon 450 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz |
GPU : | – Adreno 506 |
RAM : | – 2GB |
ROM : | – 16GB |
– microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 13MP + 2MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 และ f/2.4 | |
– LED flash | |
– PDAF | |
– Bokeh Mode | |
– AI Beauty 2.0 | |
– HDR | |
กล้องหน้า : | – 5MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– AI Beauty 2.0 | |
Video : | – 720p@30fps, 1080p@30fps |
Battery : | – 4230 mAh |
ขนาด : | – 156.2×75.6×8.2 มม. |
น้ำหนัก : | – 168 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900MHz |
– 3G : WCDMA 850/900/2100MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 b/g/n 2.4G |
– Bluetooth 4.2 | |
– microUSB 2.0 | |
– OTG | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS |
– A-GPS | |
Sensor : | – AI Facial Unlock |
– Accelerometer | |
– Proximity | |
– E-Compass | |
– Light Sensor | |
– Gravity Sensor | |
สี : | – ดำ (Mirror Black) |
แกะกล่อง Realme C1
Realme C1 บรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดโทนสีขาวแดง หน้ากล่องระบุชื่อรุ่นและชื่อแบรนด์ไว้เด่นชัด หยิบไม่มีผิดแน่นอนค่ะ
ด้านหลังกล่องบรรจุภัณฑ์มีรายละเอียดสเปคเด่นแบบคร่าวๆ ระบุเอาไว้ค่ะ
อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย
– Realme C1 ตัวเครื่องสีดำ
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ (5V2A)
– สาย micro USB
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– ใบรับประกันสินค้า
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด (Ejection pin)
– ฟิล์มกันรอยแบบใส (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
สำหรับ Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ Realme C1 มีโลโก้แบรนด์ OPPO สกรีนไว้ด้วย
ทำความรู้จัก Realme C1
ด้านหน้า Realme C1 มาพร้อมจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.2 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 ความละเอียด 1520×720 พิกเซล (HD+) สัดส่วนพื้นที่การแสดงผลอยู่ที่ 88.8% ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3 โดยหน้าจอมีขนาดใหญ่เต็มตา ใช้งานได้อย่างเต็มอรรถรส และระบบทัชสกรีนลื่นไหลดีค่ะ
ด้านหน้าส่วนบน หน้าจอขอบด้านบนมีรอยบากขนาดยาว ซึ่งเป็นตำแหน่งติดตั้งของ เลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5MP, ลำโพงสนทนา, Screen flash และเซ็นเซอร์ต่างๆ ขณะที่ฟิล์มกันรอยนั้นเป็นแบบใสติดมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ส่วนขอบด้านล่างมีการเว้นว่างไว้พอประมาณ แต่จะไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ
ด้านหลัง Realme C1 ตัวเครื่องรูปลักษณ์สวยงามถือจับกระชับมือ ตัวเครื่องใช้วัสดุกระจกสะท้อนเงา ติดตั้งกล้องหลังเลนส์คู่พร้อม LED flash ที่มุมบนซ้าย และมีโลโก้แบรนด์ Realme ตรงกลางส่วนล่าง ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 156.2×75.6×8.2 มม. และมีน้ำหนัก 168 กรัม
ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 13MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/2.2 และ f/2.4 พร้อม LED flash โดยมีกรอบสแตนเลสสีเงินล้อมรอบเลนส์กล้องคู่ค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง มีแค่เพียงโลโก้แบรนด์ Realme สกรีนสีเงินสะท้อนแสงเท่านั้น และด้วยการที่เป็นชิ้นส่วนกระจกทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่ายจึงจำเป็นต้องสวมใส่เคสป้องกันรอยค่ะ
ด้านบนตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มกดการใช้งานใดๆ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, ช่องเสียบพอร์ต micro USB, รูไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด และปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง
Realme C1 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot โดยรองรับ 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) และ microSD Card ที่รองรับสูงสุด 256GB ได้ภายในถาดเดียว โดยไม่ต้องเลือกใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ รูปแบบจำนวน 3 ช่อง คือ SIM + SIM + microSD Card
ด้านขวาตัวเครื่อง มีแค่เพียงปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด-ปิดการใช้งานตัวเครื่องค่ะ
การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่อง
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ Realme C1 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 450 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 506 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Color OS 5.1 บนพื้นฐาน Android 8.1 Oreo เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 70466 คะแนน โดยใกล้เคียงกับคะแนนของ OPPO A83 2018 เวอร์ชัน RAM 2GB + ROM 16GB ที่เราได้รีวิวให้ชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว)
สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ Realme C1 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล RMX1811 ภายใต้แบรนด์ OPPO, รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1, ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 450, GPU Adreno 506, หน้าจอ 6.2 นิ้ว ความละเอียด 1520×720 พิกเซล, กล้องหลัง 13MP, กล้องหน้า 5MP, แบตเตอรี่ 4230 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 619MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 5.02GB เป็นต้น
เมื่อทดสอบเล่นเกม Real Racing 3 พบว่า Realme C1 เล่นเกมได้ลื่นไหลดี ไม่ค่อยมีอาการกระตุกให้เห็นบ่อยนัก หน้าจอใหญ่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมหรือดูหนังได้มากขึ้น
Interface
หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้นค่ะ
หลังปลดล็อกหน้าจอจะพาเข้าสู่หน้า Home screen โดยมีมาให้จำนวน 2 หน้า และสามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง สำหรับแอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องนั้นสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบครันจัดวางเป็นระเบียบไม่รกหน้าจอ
และหากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่อง ก็สามารถทำได้ด้วยการกดค้างไปที่ไอคอนแอปฯ บนหน้าจอ จากนั้นก็ทำการเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หรือลบได้เลย
เมื่อเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick settings เมนูแถบแจ้งเตือนสามารถเข้าถึงการใช้งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
Realme C1 รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Google Assistant หรือผู้ช่วยส่วนตัวของเรา มีความสามารถในการตอบรับ โต้ตอบกลับ และเข้าถึงการทำงานต่างๆ บนเครื่องสมาร์ทโฟนอย่างรวดเร็ว
ศูนย์รวมแอปฯ Google มีให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผนที่, Google Chrome, Gmail, Play Music หรือ YouTube เป็นต้น และเพื่อนๆ สามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ Google Play
โหมดเครื่องมือการใช้งานมีมาให้แบบครบครัน เริ่มต้นที่ เครื่องบันทึกเสียง, เข็มทิศ
เครื่องคิดเลข, การโคลนโทรศัพท์ที่สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว, วิทยุ FM
ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก และแอปฯ วัดสภาพอากาศ
สำหรับ Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ เป็นตัวช่วยจัดการไฟล์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส ทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง และคืนค่าได้อย่างสะดวกสบาย
Game Space ตัวช่วยดีๆ สำหรับคอเกม โดยสามารถตั้งค่าโหมดประสิทธิภาพแบบต่างๆ ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินไปกับเกมสุดโปรด อาทิ ปิดแจ้งเตือน, กั้นการรบกวนต่างๆ, เร่งความเร็วกราฟิก และปิดการปรับแสงสว่างแบบอัตโนมัติ เป็นต้น
เมนูการตั้งค่าต่างๆ ภายในตัวเครื่อง
Realme C1 สามารถปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดการปกป้องในเวลากลางคืน เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันทีก็ได้ค่ะ
สามารถปรับตั้งค่าธีมและวอลเปเปอร์รวมถึงผังตำแหน่งของแอปฯ บนหน้าจอได้เอง
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ Realme C1 จะไม่รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แต่จะมีระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า และตั้งค่ารหัสผ่านค่ะ และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการลงทะเบียนระบบการจดจำด้วยใบหน้า ควรถือเครื่องสมาร์ทโฟนให้ห่างจากใบหน้าราว 20-50 ซม. และควรหลีกเลี่ยงการบันทึกใบหน้าในที่ที่มีแสงสว่างมากเกินไป
มีตัวช่วยด้านความสะดวกสบายแบบชาญฉลาด อาทิ ปุ่มการนำทาง : นำทางด้วยปุ่มเสมือน หรือลากนิ้วขึ้น, ผู้ช่วยขับรถ : การเชื่อมต่อ Bluetooth ในรถแบบอัตโนมัติ, ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ระหว่างขับรถ, ลูกบอลช่วยเหลือ : ลักษณะจะคล้ายกับปุ่ม Assistive Touch ของ iPhone ใช้งานด้วยการแตะ ยกตัวอย่างเช่น แตะ 1 ครั้ง เพื่อย้อนกลับ หรือแตะค้างเพื่อไปยังหน้าจอหลัก เป็นต้น
รองรับโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ โดยระบบจะปิดแอปฯ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อหยุดการทำงานอันเป็นเหตุให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว, มีการลดความสว่างของหน้าจอลง, ปิดการสั่นสะเทือนเมื่อแตะไปที่ไอคอนต่างๆ
หน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน, การตั้งค่าเพิ่มเติมในตัวเครื่อง และคู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้นค่ะ
เมนูหน้าโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ และการใช้งานเบราว์เซอร์ Opera
หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังรองรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ และล็อคแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ เพื่อเข้าถึงอย่างรวดเร็วและสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
สำหรับการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen สามารถเข้าถึงได้หลากหลายวิธี อาทิ การลาก 3 นิ้วขึ้นด้านบนเพื่อเปิดการใช้งาน หรือการกดค้างไปที่ปุ่ม Recent Apps เพื่อเข้าสู่โหมดแบ่งหน้าจอในแอปฯ ที่รองรับ เป็นต้น
ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen
การใช้งาน YouTube บนหน้าจอมีแถบการใช้งานที่เรียกว่า Smart Side Bar ซ่อนอยู่ด้านซ้ายของจอแสดงผล ได้แก่ การแจ้งเตือนข้อความ, การกดบันทึกหน้าจอ, การแคปภาพหน้าจอ และการปิดแจ้งเตือนต่างๆ
ภาพมาตรฐานบน YouTube ยังดูได้ไม่เต็มจอ แต่เราสามารถซูมขยายจนเต็มหน้าจอได้ ซึ่งขนาดแบบเต็มหน้าจอก็ยังคงเหลือขอบด้านล่างและด้านบนอยู่เพียงเล็กน้อย
สำหรับการโอนย้ายไฟล์ในตัวเครื่องเข้า PC ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยการเสียบสาย micro USB และหากต้องการปิด-เปิดเครื่องให้กดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่องค่ะ
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้ากันเลย โดยกล้องหน้าของ Realme C1 มาพร้อมความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสง f/2.2 ผสานการทำงานกับระบบ AI เราไปดูโหมดการใช้งานกล้องหน้าทั้งหมดของ Realme C1 กันเลยค่ะ ได้แก่ โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่นเวลา หรือถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse นั่นเอง, โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD กับระดับสูงสุด Full HD รองรับโหมด Beauty และฟิลเตอร์สี
โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติที่รองรับการถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ หรือฟังก์ชัน Depth Effect (รูปหยดน้ำด้านบน), AI Beauty 2.0, HDR, แฟลช LED, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, อัตราส่วนภาพถ่าย และฟิลเตอร์สีต่างๆ
กล้องหน้ารองรับโหมด AI Beautification 2.0 หรือ AI Beauty 2.0 ปรับค่าความสวยเนียนได้ในพริบตาแบบ Auto ด้วยระบบ AI และเลือกปรับค่าได้ถึง 6 ระดับ ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้าง
มีโหมด Sticker ที่ช่วยเพิ่มความน่ารักให้แก่ภาพถ่ายด้วยค่ะ
ลำดับถัดไปเรามาชมโหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดยกล้องหลังของ Realme C1 มีความละเอียด 13MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/2.2 และ f/2.4 พร้อม LED flash เริ่มกันที่ โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่นเวลา หรือถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse, โหมดบันทึกวิดีโอความละเอียดตั้งแต่ระดับ HD และสูงสุด Full HD ที่รองรับโหมด Beauty, ไฟแฟลช LED และฟิลเตอร์สี
โหมดถ่ายภาพออโต้ปกติ รองรับการถ่ายภาพ HDR, AI Beauty 2.0, เปิดแฟลช LED, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, อัตราส่วนภาพถ่าย และฟิลเตอร์สีต่างๆ แต่จะไม่รองรับฟังก์ชัน Depth Effect เหมือนกับกล้องหน้า แต่จะแยกออกมาเป็นโหมดถ่ายภาพบุคคลซึ่งเป็นการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอค่ะ
มีโหมด Sticker ช่วยเพิ่มความน่ารักให้แก่ภาพถ่าย และโหมดถ่ายภาพพาโนรามาเก็บภาพในแนวกว้างเช่นเดียวกันค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Realme C1
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Realme C1
สำหรับกล้องหน้าของ Realme C1 มีความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสง f/2.2 มาพร้อมระบบปรับผิวสวยเนียนทันใจด้วย AI Beautification หรือ AI Beauty 2.0 ซึ่งการปรับแต่งสีผิวนั้นแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ปรับแบบ Auto คือให้กล้อง AI ประมวลผลให้เราเลย จากนั้นค่อยมาปรับระดับความเนียนของผิวตามใจชอบ และแบบปรับระดับของ Beauty 2.0 ด้วยตนเอง ที่สามารถปรับได้เองทั้งหมด 6 ระดับ
ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าเซลฟี่ออกมาได้สวยงามไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นพี่อย่าง OPPO ที่มีกิตติศัพท์ด้านการเซลฟี่เลยค่ะ การปรับระดับ Beauty 2.0 ส่วนตัวแล้วคิดว่าปรับแค่ระดับ 1 ระดับ 2 ก็สวยเนียนแล้ว ภาพที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ ยังเห็นรายละเอียดเส้นผมและเสื้อผ้าคมชัด ระบบโฟกัสทำงานได้ดี ภาพถ่ายโหมด Sticker จับใบหน้าได้หลายคน โดยรวมแล้วทำออกมาได้ดีถึงแม้ว่าความละเอียดกล้องจะน้อยไปหน่อยก็ตาม เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่กันเลยค่ะ
ถ่ายภาพปกติ > ถ่ายภาพ Beauty 2.0 ด้วยระบบ AI แบบ Auto > ปรับ Beauty 2.0 ระดับ 1 ตามลำดับ
ปรับ Beauty 2.0 ระดับ 2 > ระดับ 3 > ระดับ 6
โหมดถ่ายภาพ Sticker
สรุป
Realme C1 อีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 4,000 บาท สามารถหาซื้อได้ง่ายที่ 7-Eleven สาขาใกล้บ้าน โดยมาพร้อมซิมแบบเติมเงินจาก TrueMove H มอบโปรโมชั่นสุดคุ้มจุใจไปกับสิทธิพิเศษ ได้ทั้งเครื่อง ได้ทั้งโปร โทรฟรีในเครือข่าย TrueMove H เล่นเน็ตและ Wi-Fi ได้แบบไม่อั้นนาน 1 ปี ที่ความเร็ว 1 Mbps เพียงแค่เติมเงินสะสมครบ 100 บาทต่อเดือน
กล่าวง่ายๆ คือซื้อเครื่อง Realme C1 ในราคาเพียงแค่ 3,990 บาท แล้วเปิดใช้งานซิมแบบเติมเงินจาก TrueMove H ที่มาในแพ็กเกจ จะได้รับโปรสุดคุ้มโดนใจทันทีคือ โทรฟรีในเครือข่าย เล่นเน็ตและ Wi-Fi แบบไม่อั้นนาน 1 ปี ที่ความเร็ว 1 Mbps แค่เติมเงินสะสมตามที่กำหนด และเจ้า Realme C1 ที่วางจำหน่ายใน 7-Eleven ไม่ใช่เครื่องล็อคซิมนะคะ สามารถใช้งานได้ทุกเครือข่ายเลย
และเมื่อลองนำเอา Realme C1 ไปเปรียบเทียบสเปคกับสมาร์ทโฟนที่มีราคาและสเปคไม่ห่างกันมากอย่าง vivo Y81i ก็พบว่าเจ้า Realme C1 เครื่องนี้ดูจะคุ้มค่าคุ้มราคาน่าใช้งาน โดยมีข้อดีมากกว่าของคู่แข่งเมื่อเทียบกับราคาที่มีส่วนต่างถูกกว่าประมาณ 500 บาท อาทิ สัดส่วนพื้นที่หน้าจอต่อตัวเครื่อง, ชิปเซ็ตที่ใช้งาน, กล้องหลังเลนส์คู่, มีระบบปลดล็อกใบหน้าด้วยระบบ AI และแบตเตอรี่ความจุที่มากกว่า เป็นต้น โดยเพื่อนๆ สามารถชมตารางเปรียบเทียบสเปคการใช้งานของ Realme C1 และ vivo Y81i ได้ดังนี้
Features | Realme C1 | vivo Y81i |
วันเปิดตัว : | – พฤศจิกายน 2561 | – พฤศจิกายน 2561 |
ราคา : | – 3,990 บาท | – 4,499 บาท |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 8.1 Oreo ครอบทับ Color OS 5.1 | – Android 8.1 Oreo ครอบทับ Funtouch OS 4.0 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.2 นิ้ว | – ขนาด 6.22 นิ้ว | |
– อัตราส่วน 19:9 | – อัตราส่วน 19:9 | |
– สัดส่วนพื้นที่การแสดงผล 88.8% | – สัดส่วนพื้นที่การแสดงผล 83% | |
– ความละเอียด 1520×720 พิกเซล (HD+) | – ความละเอียด 1520×720 พิกเซล (HD+) | |
– Corning Gorilla Glass 3 | – Corning Gorilla Glass | |
– Multitouch | – Multitouch | |
CPU : | – Snapdragon 450 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz | – Helio A22 แบบ Quad-Core ความเร็ว 2.0GHz |
GPU : | – Adreno 506 | – PowerVR GE8320 |
RAM : | – 2GB | – 2GB |
ความจำตัวเครื่อง : | – 16GB | – 16GB |
– microSD Card สูงสุด 256GB | – microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 13MP + 2MP | – 13MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 และ f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– LED flash | – LED flash | |
– PDAF | – PDAF | |
– Bokeh Mode | – Bokeh Mode | |
– AI Beauty 2.0 | – AI Beauty | |
– HDR | – HDR | |
– Panorama | – Panorama | |
กล้องหน้า : | – 5MP | – 5MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– AI Beauty 2.0 | – AI Beauty | |
Video : | – 720p@30fps, 1080p@30fps | – 720p@30fps, 1080p@30fps |
Battery : | – 4230 mAh | – 3260 mAh |
ขนาด : | – 156.2×75.6×8.2 มม. | – 155.06x75x7.77 มม. |
น้ำหนัก : | – 168 กรัม | – 143 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – | – |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900MHz | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : WCDMA 850/900/2100MHz | – 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz | |
– 4G LTE | – 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 b/g/n 2.4G | – Wi-Fi 802.11 b/g/n |
– Bluetooth 4.2 | – Bluetooth 5.0 | |
– microUSB 2.0 | – microUSB 2.0 | |
– OTG | – OTG | |
– 3.5mm jack | – 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS | – A-GPS |
– A-GPS | – GLONASS | |
– | – BDS | |
Sensor : | – AI Facial Unlock | – Face Detection |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Proximity | – Proximity | |
– E-Compass | – E-Compass | |
– Light Sensor | – Ambient light | |
– Gravity Sensor | – Gyroscope | |
สี : | – ดำ (Mirror Black) | – ดำ |
– | – แดง |
สำหรับด้านสเปคการใช้งาน ต้องบอกเลยว่า Realme C1 ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh ชาร์จ 1 ครั้ง สามารถใช้งานได้นานข้ามวัน การดูหนังฟังเพลงเล่นเกมต่างๆ ทำได้อย่างเต็มอรรถรสผ่านหน้าจอ HD+ ขนาด 6.2 นิ้ว ที่มีอัตราส่วน 19:9 ส่วนระบบเสียงก็คมชัดดี
ระบบทำงานลื่นไหลด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 450 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz และ GPU คือ Adreno 506 แต่การเล่นเกมอาจมีเป็นบางจังหวะที่จะกระตุกไปบ้าง และพวกเกมไฟล์ใหญ่ๆ อย่าง Ragnarok M ไม่สามารถลงได้นะคะ เนื่องจากพื้นที่หน่วยความจำเครื่องไม่เพียงพอ
ส่วนหน่วยความจำจะน้อยไปหน่อยก็อาจไม่เพียงพอต่อการใช้งาน คือมาพร้อม RAM 2GB + ROM 16GB แต่สามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมภายนอก microSD Card ได้สูงสุด 256GB ด้านประสิทธิภาพของกล้องถ่ายภาพ Realme C1 มาพร้อมกล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 13MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/2.2 และ f/2.4 พร้อม LED flash, PDAF, Bokeh Mode และ AI Beauty 2.0 ระบบโฟกัสทำงานได้ไว ถ่ายภาพได้คมชัดในระดับนึง
ขณะที่กล้องหน้าเซลฟี่มีความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสง f/2.2 รองรับ AI Beauty 2.0 และ Screen flash ถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาได้สวยเนียนเหมือนกับสมาร์ทโฟนของ OPPO เลยค่ะ สามารถปรับแต่งผิวเนียนได้ถึง 6 ระดับ หรือจะใช้โหมด Auto ที่ระบบ AI ประมวลมาให้ก็สวยทันใจไม่แพ้กัน ถือว่าทำออกมาได้ดีถึงแม้ว่ากล้องจะมีความละเอียดน้อยก็ตาม
นอกจากนี้ Realme C1 ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวเครื่องค่ะ แต่จะใช้งานเป็นระบบปลดล็อกใบหน้าด้วย AI แทน (AI Facial Unlock) โดยระบบสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วภายในพริบตา และให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยการรองรับ 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot และจุดสังเกตอีกหนึ่งอย่างคือ Realme C1 มีจำหน่ายเฉพาะสีดำ (Mirror Black) เท่านั้น ซึ่งหากใครสนใจสามารถหาซื้อได้ง่ายที่ 7-Eleven ทุกสาขาใกล้บ้าน ในราคาเพียงแค่ 3,990 บาท
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– Asus ZenFone Live (L1)
– Honor 7s
– Huawei Y7 Pro 2018
– vivo Y81i
– vivo Y71
– Nokia 2.1
– OPPO A3s
– Samsung Galaxy A6 2018
– Xiaomi Redmi 6A
– Wiko View Max
ขอขอบคุณ Realme Thailand
Written by : Nan Kanyarat Thongpeng
[realme-price]
[mobile-price]
Leave a Reply