รีวิว Oppo N1 mini ถ่ายภาพ Selfie มุมไหนก็ชัด

รีวิว Oppo N1 mini ถ่ายภาพ Selfie มุมไหนก็ชัด


Oppo N1 mini ย่อส่วนลงมาจาก N1 ลดสเปคและราคาลงมาให้เป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้น แต่ยังคงมีจุดเด่นมากมายเหมือนเดิม โดยเฉพาะกล้องที่หมุนได้ ถ่ายภาพชัดเจนทุกมุม เป็นเอกลักษณ์ของตระกูล N1 ที่ทุกคนจดจำได้ดี

กล้องพร้อมไฟแฟลชที่หมุนได้ 195 องศา เพื่อให้ถ่ายภาพได้ในทุกมุมแบบไร้ขีดจำกัด กลไกที่ทนทาน รองรับการหมุนไปมาได้หลายแสนครั้ง โดยไม่เกิดความเสียหาย

ใช้โมดูลกล้อง CMOS BSI คุณภาพสูงจาก Sony ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี มั่นใจได้ในคุณภาพ ส่วนความละเอียดสูงสุดของภาพถ่ายอยู่ที่ 13 ล้านพิกเซล

ชุดเลนส์ 6 ชิ้น และรูรับแสงกว้าง f/2.0 ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สว่างสวย คมชัด สีสันสมจริง

นอกจากตัวเครื่องสีขาวยอดนิยมแล้ว ก็ยังมาพร้อมกับสีฟ้ามินท์ เป็นอีกทางเลือก ซึ่งเป็นสีที่กำลังได้รับความนิยมในญี่ปุ่น

ทำความรู้จักกันไปแล้ว มาดูสเปคของ Oppo N1 mini กันต่อเลย

  • Price 12,990.-
  • Display Size : 5.0-inch
  • Resolution : HD (1280 x 720 pixels) 293 ppi
  • Type : IPS
  • Colors : 16 million colors
  • Touchscreen : Multi-touch, capacitive screen, Gorilla Glass 3, Touch-on-Lens, Technology, support for gloved and wet touch input
  • OS Android 4.3 ColorOS 1.4
  • CPU Qualcomm MSM8928 Quad-core 1.6GHz
  • GPU Adreno 305
  • RAM 2 GB ROM 16 GB
  • SIM Single (Micro-SIM)
  • Camera Rotating 13.0MP AF Flash
  • Scene modes : Normal, HDR, Ultra-HD, Beautify, Panorama, Slow Shutter, Audio Photo, GIF mode
  • Network GSM: 850/900/1800/1900MHz
  • WCDMA: 850/900/1700/1900/2100MHZ
  • Connectors Micro-USB, 3.5mm Audio Jack
  • Others USB OTG
  • Bluetooth 4.0
  • Wi-Fi 802.11 b/g/n
  • Wi-Fi Direct
  • Wi-Fi Display
  • GPS, G-Sensor
  • NFC
  • Size 148.4 x 72.2 x 9.2 mm
  • Weight 150g
  • Battery 2140 mAh

วิเคราะห์สเปคและความรู้สึกเมื่อได้ทดสอบใช้งาน

ราคาเปิดตัวที่โดนใจเพียง 12,990 บาท เดิมทีหลายคนที่ชื่นชอบ Oppo N1 แต่สู้ราคาไม่ไหว เพราะเปิดตัวที่เกือบ 2 หมื่นบาท คราวนี้ก็มี N1 mini มาให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาด ท้าชนคู่แข่งจาก Samsung, LG, Sony, i-mobile, Huawei และ HTC ได้สบาย ๆ

หน้า จอ IPS สีสันสดใสในระดับปานกลาง ความละเอียด HD ที่ยังไม่ถึงกับ Full HD แต่ก็มีความละเอียดเนียนตา ตัวอักษรอ่านง่าย ไม่ได้เห็นรอยหยักหรือภาพหยาบจนน่าเกลียดอะไร จอภาพถือว่ายอมรับได้ ใกล้เคียงกับ Oppo รุ่นอื่นในระดับราคาเกินหมื่นบาท

CPU เป็นรุ่น SnapDragon 400 จาก Qualcomm ไม่ได้ใช้ CPU คุณภาพต่ำเหมือนคู่แข่งบางราย ความแรงระดับ Quad-core 1.6 GHz ก็ให้ความรู้สึกว่าลื่นดีพอตัว แม้ว่าจะช้ากว่า CPU SnapDragon 800 รุ่นแพงอยู่ระดับหนึ่ง จนรู้สึกได้ แต่ไม่ได้รู้สึกหน่วงจนน่าขัดใจ เพราะให้ RAM มากถึง 2 GB

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้เขียน (DigitalNext) เป็น 1 ใน 40 คนแรกของประเทศไทยที่ได้สัมผัสและทดสอบ Oppo N1 Mini ก่อนวางจำหน่ายจริงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2557

ด้านหลังกล่อง มีบอกรายละเอียดของรุ่นนี้ เฉพาะหน้าจอ กล้อง ขนาด และน้ำหนัก

ผิวของกระดาษกล่อง ให้ความรู้สึก Premium อย่างมาก เหมือนแกะกล่องสินค้าราคาหลายหมื่นบาท เมื่อเปิดกล่องออกมาก็พบกับ N1 mini

ใต้เครื่อง มีเข็มจิ้มถาดซิมการ์ด ดีไซน์สวยหรูล้ำอนาคต

ใต้เข็มจิ้ม มีคู่มือแนะนำการเริ่มต้นใช้งาน

ถัดไป เป็น Charger, สาย USB และหูฟัง ที่แพคมาอย่างดี มีความประณีตและหรูหราเกินราคา

หูฟังเป็นแบบ Earbud สีขาว อุปกรณ์ทุกชิ้น ผลิตด้วยวัสดุอย่างดี

แนะนำอุปกรณ์เสริมอีกอย่างหนึ่งที่แนะนำ คือ O-click อยู่ในกล่องเล็ก ๆ ดีไซน์สวย

O-click กล่องเล็กน่ารัก ทำงานด้วย Bluetooth 4.0

O-click และแบตเตอรี่ มีมาให้พร้อมใช้งานเป็นรีโมทไร้สายสำหรับกดชัตเตอร์ให้ N1 mini ได้ทันที

มาดูที่ตัวเครื่องกันต่อ

N1 มีขนาดใหญ่มาก เมื่อลดขนาดมาเป็น N1 mini ก็รู้สึกว่าจับถือได้ถนัดมือมากขึ้น แต่ก็ยังใหญ่อยู่ดี

หน้าจอเป็นกระจกสีดำสนิท ตัดแสงสะท้อนได้ดี

ปุ่ม Power อยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านซ้าย ส่วนปุ่ม Volume อยู่ที่ด้านขวา แยกกันคนละฝั่ง ต่างจากยี่ห้ออื่น

ดีไซน์ด้านหลัง เรียบ ผิวเนียน ไม่ใช่เมทัลลิคหรือผิวเงางามที่เป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย ทำให้ดูแลรักษาได้ง่าย

ช่องลำโพง, พอร์ต microUSB, ช่องต่อหูฟัง และรูไมโครโฟน อยู่ใกล้กันในส่วนล่างของตัวเครื่อง

ตัวเครื่องรอบด้านและส่วนของกล้องที่พลิกได้ ตกตแ่งด้วยขอบโครเมียม ดูหรูหรา เงางาม

กล้องพลิกหมุนได้ 195 องศา ถ่ายภาพ Selfie ด้วยกล้อง 13 ล้านพิกเซล ชัดสะใจแน่นอน

ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงกล้องที่พลิกหมุนได้ ไม่มีช่องต่อหรือปุ่มกดใด ๆ

โลโก้ Oppo แวววาว เหนือโลโก้ มีช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน

เมื่อใช้คุยสนทนา ต้องพลิกกล้องคืนกลับไปด้านหลัง หันลำโพงและเซ็นเซอร์กลับมาด้านหน้า

ด้านหน้า ดีไซน์สวย ดูขอบจอบางแคบ ทันสมัย ตัวเครื่องไม่กว้างเกินไป ทำให้จับถือได้ถนัด

โดยรวมถือว่า Oppo N1 mini มีดีไซน์ที่สวยงามในทุกมุมมอง ใช้วัสดุที่ดี ให้ความรู้สึกดีมากเมื่อได้สัมผัส

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Oppo N1 mini

Noise ในภาพถ่าย มีน้อย สีสันและ White Balance ค่อนข้างแม่นยำดี
คลิกที่ภาพ เพื่อดูขนาดจริง 100% ไม่มีการปรับแต่งใด ๆ จุดโฟกัสอยู่ที่เลข 100
โหมด Slow motion เปิดชัตเตอร์แช่นานไว้ เลือกได้เองว่าเปิดแช่นานกี่วินาที
เก็บรายละเอียดในภาพถ่ายได้ครบถ้วน ทั้งในส่วนมืดและส่วนสว่างของภาพ
พลิกหมุนกล้องมาถ่ายตัวเองได้อย่างสะดวก

ส่วนของ Software ที่ครอบด้วย Color OS เพื่อประสบการณ์ในการใช้งานที่ดี

ทันทีที่เปิดใช้งาน ยังไม่ได้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นใด ๆ ก็เริ่มต้นที่การทดสอบประสิทธิภาพกันก่อน Oppo N1 mini ทำคะแนนได้ 22257 เป็นรองรุ่นเรือธงจากยี่ห้อดังในปี 2013 แต่ก็ถือว่าเหมาะสมกับราคาระดับนี้

หน้า Home Launcher ตามสไตล์ ColorOS ที่ไม่ว่าจะเครื่องรุ่นใด ก็เหมือนกัน

Widget และ Icon ของ ColorOS

แอพพลิเคชั่นที่ติดมาในเครื่องจากโรงงาน บางส่วนถูกรวมไว้เป็นโฟลเดอร์

แอพพลิเคชั่นใน 3 โฟลเดอร์ที่ใส่มาจากโรงงาน และหน้า Notification ที่สามารถเปิดปิดฟังก์ชั่นได้สะดวก

เมนูโทรออก สวยงาม พร้อมลูกเล่นในการค้นหารายชื่อได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

เมนูการตั้งค่าหลักของตัวเครื่อง ดูเรียบง่าย ไม่ลายตา

มีการเชื่อมต่อทั้ง NFC และ Wi-Fi Display ลูกเล่นมากมายในส่วนของ Personal ซึ่งหายากในยี่ห้ออื่น

เลือกใช้ Launcher หลักได้ตามความต้องการ พื้นที่หน่วยความจำเหลือมากพอ

สั่งหยุดใช้งานแอพพลิเคชั่นได้ ลูกเล่นการสั่งงานด้วยท่าทางหรือ Gesture มีมากมาย

วาดหน้าจอเพื่อสั่งงานด่วนได้หลายรูปแบบ รองรับการสั่งงานด้วยการใช้หลายนิ้วหรือการเคาะหน้าจอได้

วาดหน้าจอเป็นรูปตัว O หรือตัว V เพื่อเปิดใช้กล้องหรือไฟฉายในขณะ Standby ได้รวดเร็ว ฟังก์ชั่นฉลาด ๆ สำหรับการโทรก็มีมากมาย เรียกได้ว่า ฟังก์ชั่น Gesture ใน Oppo นี่จัดเต็มจริง ๆ และมีประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน

มีโมดประหยัดพลังงานที่ตั้งค่าเองได้ หากตั้งค่าดี ๆ จะสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้เกือบครบวัน

ColorOS เป็น UI ที่สวยงาม ทันสมัย น่าใช้ มีบอกสเปคของตัวเครื่องคร่าว ๆ ในเมนู About phone

ตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องอัตโนมัติได้ ลูกเล่นแบบนี้หาได้ยากในยี่ห้ออื่น ช่วยตัดปัญหาการถูกรบกวนในเวลาพักผ่อน

ตั้งค่าเสียงเตือนได้แม้กระทั่งเสียงขณะ Boot ระบบเปิดเครื่อง

Holiday Wallpaper เมื่อถึงวันหรือเทศกาลพิเศษ วอลล์เปเปอร์จะเปลี่ยนตามเทศกาลนั้นอัตโนมัติ ปรับเปลี่ยนฟอนต์และขนาดได้โดยที่ไม่ต้อง Root เครื่อง

ถ้าเบื่อกับหน้าจอมืดสีดำ ก็เลือก Daydream ได้ว่าในขณะชาร์จไฟ ให้จอภาพแสดงผลอะไรขึ้นมา

คีย์บอร์ดรองรับฟังก์ชั่นการลากนิ้วแทนการกดทีละตัว ปฏิทินก็มีฟังก์ชั่นเลื่อนดูง่าย ๆ เก๋ ๆ

นาฬิกาปลุก และนาฬิกาโลก

นาฬิกาตั้งเวลาถอยหลัง และนาฬิกาจับเวลา

แอพพลิเคชั่นเล่นเพลง สไตล์เครื่องเล่นแผ่นเสียง ไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไร

การแสดงผลของคลังวิดีโอและคลังรูปภาพในตัวเครื่อง

ตัวจัดการไฟล์ แยกประเภท และบอกถึงพื้นที่ที่ใช้ไป สะดวกในการค้นหาและจัดการไฟล์ได้ง่าย

เครื่องคำนวณและธีมที่สามารถเปลี่ยนหรือดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้

วอลล์เปเปอร์และสถิติการใช้ Data ทำให้ควบคุมปริมาณได้ง่ายตามแพคเกจ Smartphone ที่สมัครไว้

ตั้งค่าเริ่มต้นการใช้งาน O-Click มีไฟบอกสถานะที่เข้าใจได้ง่าย

ใช้เป็นรีโมทกล้องถ่ายภาพ และเตือนเมื่อ Oppo N1 mini อยู่ห่างตัว ป้องกันการวางเครื่องลืมไว้จนอาจสูญหาย

แจ้งเตือนเมื่อได้รับข้อความหรือสายเข้า ผ่านทางไฟ LED ของ O-Click นอกจากนั้น Oppo ยังมี Cloud สำหรับใช้เป็นพื้นที่ในการ Backup ข้อมูลของเราได้ด้วย

สรุปการทดสอบใช้งาน Oppo N1 mini

  • วัสดุดีมาก เนื้องานดี หรูหราเกินราคา หน้าจอใหญ่ ดีไซน์สวยงาม ใครได้ลองสัมผัสก็น่าจะชื่นชอบ
  • หน้าจอ IPS ให้สีสันและความคมชัดอยู่ในเกณฑ์ดีสมราคา
  • ColorOS มีความสวยงามน่าใช้ เปลี่ยน Theme ได้มากมาย น่าตื่นเต้น ไม่รู้สึกเบื่อ
  • กล้องพลิกหมุนได้ ถ่ายภาพในมุมแปลกได้ ถ่ายตัวเองก็ได้ความคมชัด พร้อมโหมดบิวตี้ปรับหน้าเนียนใส
  • ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี เพราะใช้เซนเซอร์ BSI จาก Sony ถ่าย Selfie ได้ภาพสวยและมีมุมกว้างดี
  • ลูกเล่นการสั่งงาน Gesture และการใช้หลายนิ้ว มีเยอะมาก และมีประโยชน์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
  • ใช้ CPU จาก Qualcomm ที่น่าเชื่อถือ และให้ ROM / RAM มาเยอะเพียงพอกับการใช้งานไปอีกนาน
  • มีจุดเด่นมากมายหลายอย่างที่ทำให้รุ่นนี้มีความน่าสนใจกว่าคู่แข่ง
  • ตัวเครื่องทำความสะอาดได้ง่าย ดูแลง่าย ใช้งานง่าย ใช้เวลาเรียนรู้ไม่นาน

ข้อสังเกต

  • แบตเตอรี่อาจใช้งานได้ไม่ครบวัน ถ้าใช้งานหนัก ต้องชาร์จระหว่างวัน จึงบริหารการใช้พลังงานให้ดี
  • หน้าจอยังไม่ใช่ความละเอียดระดับ Full HD แต่ก็ให้ความคมชัดดี ไม่หยาบจนอ่านตัวอักษรลำบาก
  • การบริการหลังการขาย ยังต้องปรับปรุงและพัฒนาอีก เพื่อให้รวดเร็ว ทั่วถึง
  • กล้องที่หมุนได้ มีอายุการใช้งานในเรื่องของความทนทาน

ตัวเลือกอื่น ที่มีราคาใกล้เคียงกัน

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ฝากกด LIKE + SHARE ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^