รีวิว OPPO A83 สมาร์ทโฟน A.I. Beauty น้องใหม่! หน้าจอใหญ่ Full Screen สเปคครบครัน มีสแกนใบหน้า ในราคาสุดคุ้ม
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่านค่ะ ก็เปิดตัวพร้อมกับวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปได้ไม่นานสำหรับ OPPO A83 สมาร์ทโฟน A.I. Beauty ราคาสุดคุ้ม ชูจุดเด่นที่เทคโนโลยี A.I. Beauty Recognition ช่วยให้ภาพสมจริงเป็นธรรมชาติ, ฟีเจอร์สแกนใบหน้าที่เคลมว่าปลดล็อคได้เร็วเพียง 0.18 วินาที, หน้าจอ Full Screen ขนาด 5.7 นิ้ว, รูปลักษณ์โค้งมน ดีไซน์ที่บางเบาจับถนัดมือ, แรม 3GB จับคู่ความจุ 32GB, แบตเตอรี่ความจุ 3180 mAh และสเปคการใช้งานอื่นๆ ที่ครบครัน
โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,990 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก สีดำ (Black) และสีทอง (Champagne) ซึ่งเพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงมีโปรโมชั่นเครื่องพร้อมแพ็กเกจราคาโดนๆ กับทางผู้ให้บริการเครือข่ายด้วย และวันนี้ทาง ninethaiphone จะขอนำเอา OPPO A83 มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน หากใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเซลฟี่ในงบ 8 พันบาท ห้ามพลาดชมบทความรีวิวนี้โดยเด็ดขาด ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปค OPPO A83
Features | OPPO A83 |
วันเปิดตัว : | – มกราคม 2561 |
ราคา : | – 7,990.- (ณ วันที่ 5 ก.พ. 61) |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 7.1 Nougat ครอบทับ ColorOS 3.2 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ TFT |
– ขนาด 5.7 นิ้ว | |
– อัตราส่วน 18:9 | |
– ความละเอียด 1440×720 พิกเซล (HD+) | |
– Corning Gorilla Glass ขอบโค้ง 2.5D | |
– Multitouch | |
CPU : | – MT6763T Helio P23 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.5GHz |
GPU : | – ARM Mali G71 MP2 770MHz |
RAM : | – 3GB |
ROM : | – 32GB |
– microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 13 ล้านพิกเซล |
– LED Flash | |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– Auto Focus | |
– Touch Focus | |
– Face Detection | |
– Panorama | |
– HDR | |
– Face Beauty | |
กล้องหน้า : | – 8 ล้านพิกเซล |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
Video : | – 1080p@30fps |
Battery : | – 3180 mAh |
ขนาด : | – 150.5×73.1×7.7 มม. |
น้ำหนัก : | – 143 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – GSM 850/900/1800/1900 |
– WCDMA B1/5/8 | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n 2.4/5GHz |
– OTG | |
– Micro USB 2.0 | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS |
– Gnolass | |
Sensor : | – Accelerator |
– Proximity | |
– Light sensor | |
– E-compass | |
สี : | – ดำ (Black) |
– ทอง (Champagne) |
แกะกล่อง OPPO A83
OPPO A83 สมาร์ทโฟน A.I. Beauty มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Smart Selfie ชูหน้าจอ Full Screen จอแสดงผลขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ เต็มอิ่มทุกความบันเทิง ในขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดจับถนัดมือ พกพาสะดวก ใช้งานมือเดียวได้อย่างสบายๆ ไร้ปุ่มโฮมมารบกวนสายตา
ด้านหลังกล่องบรรจุภัณฑ์จะระบุฟีเจอร์การใช้งานๆ เด่นๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น กล้องเทคโนโลยี A.I Beauty, หน้าจอ Full Screen ขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว, หน่วยความจำแรม 3GB, ขุมพลัง Octa-Core และแบตเตอรี่ความจุ 3180 mAh เป็นต้น
อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย
– OPPO A83 ตัวเครื่องสีทอง
– สาย micro USB
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– เคสกันรอยแบบแข็ง
– หูฟัง Earphones
– ฟิล์มกันรอยติดมาแล้วกับตัวเครื่อง
ทำความรู้จัก OPPO A83
ด้านหน้า หน้าจอแบบ Full Screen ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440×720 พิกเซล หรือระดับ HD+ เหลือขอบบนล่างเพียงเล็กน้อย ซึ่งขอบบนจะมีเลนส์กล้องเซลฟี่ ช่องลำโพง และเซ็นเซอร์ต่างๆ ขณะที่ขอบด้านล่างไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใดๆ
ด้านหน้าส่วนบน ประกอบด้วย เลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0, ลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ โดยกล้องหน้าของ OPPO A83 มาพร้อมเทคโนโลยี A.I. Beauty ปรับภาพถ่ายเซลฟี่ให้ดูสมจริงเป็นธรรมชาติ ปรับแต่งความสวยให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล ระบบมีการแยกความแตกต่างของชายและหญิง ช่วยสร้างภาพถ่ายเซลฟี่ที่สวยโดนใจ รวมถึงรองรับฟีเจอร์ Facial Unlock หรือสแกนใบหน้าปลดล็อคตัวเครื่องด้วย
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบไปด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านหลัง มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โค้งมน ดีไซน์บางเบาจับถนัดมือ ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมแบบ Unibody ขนาดตัวเครื่อง 150.5×73.1×7.7 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 143 กรัม
ด้านหลังส่วนบน ประกอบไปด้วย เลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อมไฟแฟลช LED ถัดลงมากึ่งกลางตัวเครื่องจะเป็นโลโก้แบรนด์ ซึ่งเลนส์กล้องมีลักษณะนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย แต่หากใส่เคสก็จะพอดีไปกับตัวเครื่องค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง มีเลขรหัสโมเดลระบุเอาไว้
ด้านบนตัวเครื่อง ไร้ปุ่มการใช้งานใดๆ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, ช่องเสียบพอร์ต micro USB, รูไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านซ้ายตัวเครื่อง พบปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง
ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดหรือรีสตาร์ทตัวเครื่อง และช่องใส่ซิมการ์ด
OPPO A83 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot Tray ที่รองรับ 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) และ microSD Card ที่รองรับสูงสุด 256GB ได้ภายในถาดเดียว และสามารถใช้งานแบบ 4G/3G ได้
การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่อง
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ OPPO A83 ที่มาพร้อมชิปประมวลผล MT6763T Helio P23 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.5GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก ARM Mali G71 MP2 770MHz และรันบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 3.2 บนพื้นฐาน Android 7.1 (Nougat) เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 79536 คะแนน
โดยสามารถทำคะแนนได้ดีกว่า OPPO F5 ที่ทำได้คะแนน 63949 คะแนน ที่มาพร้อมชิปประมวลผล MT6763T Helio P23 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.5GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก ARM Mali G71 MP2 800MHz (คลิกชมรีวิว) ซึ่งประสิทธิภาพการทำงานไม่แตกต่างกันมาก ระบบทำงานได้ลื่นไหลดี แต่ว่าหน้าจอของ F5 จะสีสันสดใสมากกว่าเนื่องจากมาพร้อมความละเอียด Full HD+ ขณะที่ OPPO A83 ความละเอียด HD+
สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ OPPO A83 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล OPPO CPH1729 ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 (64-bit) จีพียู Mali-G71 ใช้หน้าจอความละเอียด 1440×720 พิกเซล (HD+) กล้องหลังความละเอียด 13MP หน่วยความแรมที่สามารถใช้งานได้ 1232MB หน่วยความจำภายในตัวเครื่องที่ใช้งานได้ 20.09GB ชิปเซ็ต 8 แกนสมอง ความเร็ว 2.5GHz เป็นต้น
เมื่อทดสอบการเล่นเกมพบว่าระบบลื่นไหลดี ลำโพงเสียงดังฟังชัด ภาพสีสันพอใช้ได้
ระหว่างเล่นเกมมีฟีเจอร์ Game Acceleration ตัดทุกการรบกวนไม่ว่าจะเป็น SMS หรือสายเรียกเข้าระหว่างเล่นเกม โดยจะมีแบนเนอร์โชว์ขึ้นเป็นแถบแจ้งเตือนด้านบน ทำให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง และไม่พลาดสายสำคัญ กล่าวคือสามารถเล่นเกมไปด้วย และคุยสายสนทนาไปด้วยได้ค่ะ
Interface
หน้าจอ Lock screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้นค่ะ
หลังปลดล็อกหน้าจอจะพาเข้าสู่หน้า Home screen โดยจะมีมาให้จำนวน 1 หน้า แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน และหากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่องทำได้ด้วยการกดค้างไปที่ไอคอนแอปฯ บนหน้าจอ แล้วเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
ศูนย์รวมแอปฯ Google มีให้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ หรือยูทูป และสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ Play Store
หน้า Quick settings จะต้องเลื่อนหน้าจอด้านล่างขึ้น แต่ถ้าหากปัดหน้าจอด้านบนลงจะเป็นเมนูแถบแจ้งเตือนค่ะ
หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่องได้อีกด้วย
เมนูตั้งค่าภายในตัวเครื่อง
หน้าอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบัน
มีฟีเจอร์ Facial Unlock หรือจดจำใบหน้าสามารถปลดล็อคหน้าจอได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น เพียงแค่ยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาในระดับใบหน้าก็สามารถปลดล็อคได้ทันที ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ในขณะที่อยู่ในสถานการณ์ไม่สามารถปลดล็อคด้วยการสแกนลายนิ้วมือได้ แต่ก่อนที่จะลงทะเบียนใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวจำเป็นจะต้องเลือกรูปแบบรหัสเสียก่อน
ซึ่งการบันทึกสแกนใบหน้าควรวางอุปกรณ์ให้ห่างจากใบหน้าราว 20 – 50 เซนติเมตร เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และควรหลีกเลี่ยงสภาวะแวดล้อมที่สว่างเกินไป หรือมืดเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถรักษาข้อมูลให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการใส่รหัสล็อคแอปฯ ที่ต้องการได้อีกด้วย
โหมดประหยัดพลังงานมาให้ใช้งาน และหน้าข้อมูลหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง
สามารถปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดสบายตา เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งาน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย โดยตั้งเป็นกำหนดเวลา หรือเปิดใช้งานทันทีก็ได้
จะมีบางแอปฯ ที่สามารถรองรับหน้าจอแบบ Full Screen โดยจะมีให้เลือกเปิดใช้งาน
สามารถดาวน์โหลดธีม หรือวอลเปเปอร์น่ารักๆ โดยไม่เสียค่าบริการได้ที่ร้านค้าธีม
โหมดการใช้งานอัจฉริยะ ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการใช้งาน ด้วยท่าทางลักษณะแบบง่ายๆ
หน้าเปิดการแจ้งเตือนในแต่ละแอปฯ
ฟีเจอร์ Game Acceleration ตัดทุกการรบกวนไม่ว่าจะเป็น SMS หรือสายเรียกเข้าระหว่างเล่นเกม โดยจะมีแบนเนอร์โชว์ขึ้นเป็นแถบแจ้งเตือนด้านบน ทำให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง และไม่พลาดสายสำคัญ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Real Original Sound ทำให้เสียงดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
โหมดเครื่องมือการใช้งานมีมาให้แบบครบครัน ได้แก่ เครื่องบันทึกเสียง และเข็มทิศ
เครื่องคิดเลข, วิทยุ FM และสมุดโน๊ต
ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก และแอปฯ วัดสภาพอากาศ
การโทรสนทนา และการส่งข้อความ
Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ ช่วยจัดการไฟล์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส ทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง และคืนค่าได้อย่างสะดวกสบาย
รองรับฟังก์ชัน Multi Window การใช้งาน 2 หน้าจอ เปิดการใช้งานง่ายๆ ดังนี้ การตั้งค่า > หน้าจอแบ่ง > เปิดใช้งานหน้าจอแบ่ง > กดไปที่ปุ่ม Recent Apps > เลือกแอปฯ ที่ต้องการใช้งาน ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนด้วยว่าแอปฯ นั้นๆ สามารถรองรับฟังก์ชันนี้ด้วยหรือไม่ การใช้งาน 2 หน้าจอสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะเป็นดูหนังหรือเล่นเกมไปพร้อมๆ กัน
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่เมนูการใช้งานกล้องหลังของ OPPO A83 ได้แก่ โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่อเวลา หรือไทม์แลปส์ ถ่ายวัตถุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วภายใน
โหมด Beauty ปรับค่าความขาวเนียนได้เอง 6 ระดับ แต่จะไม่รองรับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอเหมือนกับกล้องหน้า ขณะที่โหมดพาโนรามาสามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้อย่างรอบทิศทาง
โหมดถ่ายรูปแบบปกติรองรับการซูม 2x ทันที พร้อมรองรับ HDR เพื่อเพิ่มความคมชัดอีกระดับ และโหมดผู้เชี่ยวชาญที่ปรับตั้งค่าการถ่ายภาพในส่วนต่างๆ ได้เอง
มีฟิลเตอร์สีต่างๆ และภาพลายน้ำให้ใช้งาน
ต่อกันที่เมนูการใช้งานกล้องหน้าของ OPPO A83 ได้แก่ โหมดถ่ายวิดีโอแบบย่อเวลา หรือไทม์แลปส์ ถ่ายวัตถุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วภายใน
กล้องหน้าเซลฟี่ของ OPPO A83 มาพร้อมเทคโนโลยี A.I. Beauty ช่วยให้ภาพถ่ายดูดีที่สุดในทุกช็อต สามารถจับรายละเอียดกว่า 200 จุดบนใบหน้า และดึงเอาส่วนที่ดีที่สุดของใบหน้าออกมาได้อย่างชาญฉลาด แต่ยังคงเสน่ห์ที่โดดเด่นของแต่ละบุคคลเอาไว้ ปรับแต่งภาพให้สวยงามได้ใน 3 แง่มุม คือ สี ลักษณะของผิว เพศ และอายุ สามารถปรับความเนียนได้ 6 ระดับ รองรับการเซลฟี่พาโนรามา และโหมดหน้าชัดหลังเบลอ
กล้องหน้ายังมีฟิลเตอร์สีต่างๆ และภาพลายน้ำให้ใช้งานเช่นเดียวกับกล้องหลัง สำหรับโหมดถ่ายภาพปกติก็รองรับโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก OPPO A83
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก OPPO A83
สำหรับกล้องหน้าของ OPPO A83 ที่มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง f/2.2 และเทคโนโลยี A.I. Beauty ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายหลักๆ โหมด Beauty ปรับตั้งค่าความขาวเนียนได้เอง 6 ระดับ สำหรับภาพตัวอย่างของการเซลฟี่เลือกที่จะปรับอยู่ที่ระดับ 3 รูปซ้ายจะเป็นภาพถ่ายที่เปิดโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ขณะที่รูปขวาจะเป็นภาพถ่ายโหมดปกติที่เปิด Beauty เทคโนโลยี A.I. Beauty ช่วยให้ภาพดูมีมิติมากยิ่งขึ้น เซลฟี่สวยเนียน ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่แพ้รุ่นพี่ๆ ค่ะ
จุดเด่น
– หน้าจอ Full Screen ขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 จอใหญ่ แต่ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่ตาม
– กล้องหน้าถึงแม้ว่าจะมีความละเอียดแค่ 8MP แต่มาพร้อมเทคโนโลยี A.I. Beauty ทำออกมาได้ดี ถูกใจสาวๆ หรือสายเซลฟี่แน่นอน
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม LED Flash ได้ภาพถ่ายที่คมชัดไม่แพ้ใคร
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot Tray กล่าวคือสามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด + microSD Card ได้ในเวลาเดียวกัน
– มีฟีเจอร์ Game Acceleration ป้องกันการรบกวนระหว่างเล่นเกม อาทิ SMS หรือสายเรียกเข้าระหว่างเล่นเกม โดยจะมีแบนเนอร์โชว์ขึ้นเป็นแถบแจ้งเตือนด้านบน
– ฟีเจอร์ Facial Unlock ทำงานได้รวดเร็ว เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน
– ใช้ชิปเซ็ต MT6763T Helio P23 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.5GHz ทำงานลื่นไหลดี
– แบตเตอรี่ความจุ 3180 mAh สามารถใช้งานได้นานพอสมควร
– ดีไซน์แบบ Unibody สวยทันสมัย งานประกอบแน่นหนา ตัวเครื่องบางเบาไร้รอยต่อจับถนัดมือ
– มีโปรโมชั่นร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย ลดค่าเครื่องเหลือเพียง 3,990 บาท เมื่อซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจ และจ่ายค่าบริการล่วงหน้าที่กำหนด
ข้อสังเกต
– หน้าจอ TFT ความละเอียดเพียง HD+ (1440×720 พิกเซล)
– ไม่รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– ไม่รองรับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge
– มีให้เลือกเพียง 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีทอง ไม่มีสีโรสโกลด์นะจ๊ะ
– หน่วยความจำน้อยไปนิด อาจไม่เพียงพอกับผู้ใช้งานบางท่าน แต่ยังคงหายห่วงได้เมื่อ OPPO A83 รองรับ microSD Card ได้สูงสุดถึง 256GB
– ส่วนตัวคิดว่าเพิ่มเงินอีก 2,000 บาท แล้วไปสอย OPPO F5 เลยจะดีกว่าค่ะ แต่หากใครจำกัดงบก็จัดตัวนี้แทนได้เลย สเปคต่างกันนิดหน่อย กล้องสวยเหมือนกันจ้า
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– Asus ZenFone 4 Max Pro (ZC554KL)
– Huawei GR5 2017
– Gionee X1s
– Lenovo K6 Power
– Moto G5S
– Nokia 6
– Nubia Z17 mini
– OPPO A57
– Samsung Galaxy J7 Core (2017)
– Sony Xperia XA1
– vivo V5s
– Xiaomi Mi A1
– Wiko View Prime
ขอขอบคุณ บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด
Leave a Reply