รีวิว Samsung Galaxy Note 5 แบบจัดเต็ม : หนึ่งสัปดาห์กับการขาย iPhone 6 Plus (ไปละ)
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ท่านใดที่อยากลองใช้ Samsung Galaxy Note 5 และกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อดีหรือไม่ วันนี้เรามีรีวิวแบบจัดเต็มของ คุณ yuki_oh จาก Pantip.com มาฝากกัน เพื่อช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าแล้วเราไปชมบทความ รีวิวนี้กันเลยค่ะ
ผ่านไป 1 สัปดาห์พอดีค่ะ หลังจากที่อุ้มได้ทำการ รีวิว Note 5 แบบ First Look ไปเมื่อคราวที่แล้ว แต่อย่างว่า คราวที่แล้ว มันคือแว๊บแรก อุ้มมีเวลาเล่น อยู่แค่ประมาณ 1 วัน ก่อนมาเขียนรีวิว หลายๆคนเลยอยากเห็นแบบลงรายละเอียดกว่านั้น วันนี้อุ้มเลยมาจัดให้ค่ะ โดยขอแบ่งหัวข้อออกเป็น 3 ส่วน คือ
1. Galaxy Note 5 กับการเรียน & การทำงานจริง
2. ทำไมถึงเปลี่ยนจาก iPhone 6 Plus มาเป็น Galaxy Note 5?
3. Note 5 กับปัญหาความร้อน & วิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้น
Galaxy Note 5 กับการเรียน & การทำงานจริง
กลุ่มคนที่เล่นมือถือตระกูล Note มาโดยตลอด ส่วนใหญ่จะหลงรัก Feature ต่างๆ ที่ติดตัวเจ้า Note รุ่นต่างๆ มาตั้งแต่แรกๆ และสำหรับตัวอุ้มเอง ทั้งงานหลักที่ต้องบรีฟงาน เขียนโน๊ตในห้องประชุม รวมถึงงานอดิเรกที่ต้องเขียน Blog การใช้งานปากกาเลยมีประโยชน์มากๆ เราสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง ไปชมกันค่ะ
Air Command เพียงเอาปากกา S Pen ออกมา ชี้ที่หน้าจอ ก็จะเห็น เมนูย่อย ของ Air Command แบบใหม่ โดยจะมีหลักๆดังนี้
– Action Memo อันนี้โชว์เทพไปแล้วเมื่อตอน Note 4 คือเมื่อเราเขียนอะไรลงไป แล้วกดที่ More เลือก Link to action เราก็จะสามารถโทรออก หรือเพิ่มรายชื่อ ส่ง sms และอื่นๆอีกมากมาย
– Smart Select เหมาะสำหรับการเลือกบางอย่างบนหน้าจอ เพื่อ Save ในอัลบั้ม หรือ Save ใน Scrapbook หรือแชร์ไปที่อื่นๆทันที โดยที่เราไม่ต้องเซฟ สะดวกทีเดียว
– Screen Write ข้อนี้ เจ๋งขึ้นเยอะ กับการแคปหน้าจอได้แบบยาวๆ เช่นการเปิดเว็บ แล้วเลือก Scroll Capture เพื่อเลื่อนลงมาแคปให้หมดทั้งหมดความ อันนี้เทพเลย เพราะเวลาเราอยากจะเก็บบทความไว้อ่าน ก็ทำได้ทีเดียว ไม่ต้องขาดตอน
โดยยังสามารถเลือกแอพอื่นๆ ที่ใช้งานบ่อยๆ เมื่อหยิบปากกาออกมาได้อีกสามแอพ แต่ถ้าเราอยากเขียนบนหน้าจอ ตอนที่ยังปิดจออยู่เหมือนในโฆษณา สามารถเข้าไปที่ Settings > S Pen > แล้วเปิดที่ Screen off memo เพียงเท่านี้ก็ใช้งานได้แล้วค่ะ
การเขียนแทนการพิมพ์
Feature สุดสะดวกอีกอย่างคือ เราสามารถเขียนลงไปที่ Keyboard แทนการพิมพ์ ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เพียงเข้าไปที่ Settings > Language and input > ที่ Handwriting recognition เลือกเป็นภาษาไทย แล้วลองเลือกที่ Keyboard ดูนะคะ จะสามารถเขียนภาษาไทยได้เลย สำหรับคนไม่อยากพิมพ์
S Note ตอนแรกว่าจะไม่พูดค่ะ เพราะว่าน่าจะใช้เป็นกันแล้ว แต่ S Note ใน Note 5 มีอะไรแปลกๆ อยู่ เช่น เราสามารถไปดาวน์โหลด Features อื่นๆ โดยเลือกที่ More > More Features แล้วเลือก Extension pack เพื่อดาวน์โหลด เพียงเท่านี้ S Note ก็จะสมบูรณ์ขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ (แอบไว้ทำไมก็ไม่รู้ 555) และยังมีบางเทคนิคที่ไม่เห็นมีใครบอก เช่น กดปุ่มที่ S Pen แล้วลาก จะเท่ากับเลือก เพียงเท่านี้ เจ้า Note 5 ก็แสนจะมีประโยชน์ในชีวิตเรียน และชีวิตการทำงานมากขึ้นเยอะเลย จริงมั้ยคะ
ทำไมถึงเปลี่ยนจาก iPhone 6 Plus มาเป็น Galaxy Note 5?
บอกตามตรงว่า ประเด็นเอา iPhone 6 Plus มาเทียบกับ Galaxy Note 5 จริงๆ ไม่อยากพูดเท่าไหร่ค่ะ เพราะ iPhone 6 Plus อาจจะเสียเปรียบ เนื่องจากออกมาก่อนเป็นปีแล้ว เอาเป็นว่าอุ้มขอเอามาพูดเล็กๆ น้อยๆ ในมุมมองส่วนตัว ว่าทำไม อุ้มถึงเปลี่ยนจาก iPhone 6 Plus มาเป็น Galaxy Note 5 ไปเริ่มกันเลยค่ะ
สวยกว่า ??
ข้อนี้ ตอบได้ไม่เต็มปากค่ะ สำหรับอุ้ม เรื่องความสวยงาม ค่อนข้างสูสีมาก เพราะ i6Plus ก็ยังสวยอยู่ แต่ Note 5 อาจจะได้ความบางและจับได้ถนัดมือกว่า แลกมาด้วยด้านหลังที่เป็นกระจก ซึ่งถ้าไม่ใส่เคส มันช่างสกปรก เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก เช็ดลำบากด้วย แต่สวยเลยต้องทำใจ
ลูกเล่นมากกว่า ??
1. เขียนโน็ต ด้วย S Pen
2. แบ่งหน้าจอ 2 จอ
3. เปลี่ยนธีม
4. ย่อหน้าจอให้เป็นขนาดเล็ก ใช้งานมือเดียวได้
5. แคปหน้าจอยาวๆ
นี่คือ 5 สิ่ง ที่อุ้มทำบ่อยมากๆ แต่ iPhone 6 Plus ไม่สามารถทำได้
กล้องดีกว่า!!
กล้องดีกว่าค่ะ แถมถ่ายกล้องหน้าได้ง่ายกว่า คำว่าดีกว่าของอุ้ม แปลว่ามันถ่ายง่าย ไม่ต้องตั้งค่าให้ยุ่งยาก และชัด ซึ่ง Samsung แพ้ iPhone มาโดยตลอด แต่สำหรับ Note 5 ชนะใสๆ
ลื่นกว่า ??
อันนี้ตอบยากค่ะ เพราะว่าอันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ ว่าเจ้า Note 5 จะลื่นได้นานเท่ากับ iPhone 6 Plus มั้ย ผ่านมาเกือบปี i6Plus ยังลื่นสบายมาก แต่ตอนนี้ Note 5 เองก็ลื่นมาก มากกว่า Note 4 เยอะค่ะ อันนี้ต้องดูกันต่อไป ยังเอามาตัดสินไม่ได้
แบตอึดกว่า??
อึดกว่ามากเลยละ ในโหมดธรรมดา ใช้งานปกติ จะสามารถอยู่ได้สบายๆ เกิน 10 ชม. (ส่วนใหญ่จะได้ 12-13 ชม.) ซึ่งจะพอๆกับ iPhone 6 Plus เมื่อเปิด Power Saving Mode ใน iOS9 ข้อนี้ Note 5 ก็ได้ใจไป แถมยังชาร์จไวมาก
อิสระกว่า??
ทุกครั้งที่กลับมาจับ Android จะรู้สึกว่า มันมีอิสระกว่า iOS คือสามารถปรับแต่ง ลงได้ตามใจชอบ รวมถึงหน้า Home การวาง Widget เพลง ภาพ Ringtone สบายสุดๆ
ราคาตกกว่า !!!
มั่นใจได้เลยค่ะข้อนี้ ว่า Note 5 ชนะขาดลอย สำหรับคนที่เดินสาย iPhone มาโดยตลอด พวกเราอาจจะรู้สึกว่าขายขาดทุนไปเยอะ เมื่อผ่านไปเกือบปี แต่สำหรับ Note 5 อุ้มมั่นใจเหลือเกินค่ะ ว่าเดือนหน้า ราคาก็ลงกว่านี้ไปเยอะแน่นอน เพราะฉะนั้นเรื่องราคา ต้องทำใจ
แต่เอาตรงๆ ที่ขายไปใช้ Note 5 มีอยู่ 2 เหตุผลค่ะ 1.ชอบพอตัว 2.รอ iPhone 6S Plus อย่างว่านะคะ ของใหม่ๆ อะไรก็ดี ของแบบนี้ต้องดูกันยาวๆ ว่าชอบแบบไหนมากกว่ากันถ้า iPhone Next Gen ออกมาดี ก็ต้องกลับไปแน่นอนค่ะ
*สำหรับคนที่ย้ายมาจาก iOS แล้วต้องการ Sync ข้อมูลจากเครื่องเดิมมา ก็สามารถใช้แอพ Smart Switch เพื่อย้ายข้อมูลมาจาก iCloud ได้ ง่ายมากๆ ค่ะ
Note 5 กับปัญหาความร้อน & วิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้น
ตอนแรกก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับความร้อนของตัวเครื่องสักเท่าไหร่นะคะ แต่พอลองนั่งดู เจ้า Note 5 นี่ทำจากโลหะทั้งเครื่อง ซึ่งนำความร้อนกว่าพลาสติก จึงไม่แปลกเลย ที่จะรู้สึกอุ่นๆ ถ้ามีการใช้งานนานๆ แบบไม่ใส่เคส แต่จะรู้ได้ยังไง ว่ามันร้อนเกินไป หรือว่าจะช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นอย่างไร ไปลองดูวิธีการเช็คกันก่อนนะคะ
ปกติแล้ว แบตของเจ้า Note 5 จะอยู่ได้เกิน 10 ชม.โดยไม่ต้องทำการชาร์จ แต่ถ้าเริ่มรู้สึกว่าเครื่องร้อน และแบตลดฮวบๆ ให้เข้าไปเช็คง่ายๆ ที่ Settings > Battery แล้วลองดูว่า ภายใต้หัวข้อ Abnormal battery usage มีแอพที่มีการใช้งานแบตผิดปกติรึเปล่านะคะ ถ้ามีก็ควรลบทิ้งแล้วลงใหม่
หลังจากนั้น แนะนำให้ลงแอพ Clean Master แล้วเลือกที่ Tools > CPU Cooler ลองดูอุณหภูมิและกดที่ Cool Down เพื่อช่วยปิดบางแอพที่ทำให้ CPU ทำงานหนัก
แต่ถึงเจ้า Note 5 จะร้อนง่าย โดยเฉพาะตอนชาร์จแบต และเข้าเมนูถ่ายภาพ แต่ก็จะเย็นเร็วมากเช่นกันค่ะ ถ้าลองดูแล้ว ยังรู้สึกว่าเครื่องร้อนง่ายๆอีก ก็แนะนำให้ Factory Reset สักทีนึงก่อนเริ่มใช้งาน โดยเข้าไปที่ Settings > Backup and reset > Factory data reset แต่ข้อมูลทั้งหมดจะหายไปเลยค่ะ
ทางแก้ปัญหาอีกอย่างนึงคือ ใส่เคสค่ะ หลังจากที่อุ้มใส่เคสแล้ว ก็ไม่ค่อยรู้สึกถึงความร้อนอีกต่อไป
เอาเป็นว่า ใครชอบแบบไหน ก็ซื้อแบบนั้นนะคะ สำหรับอุ้ม Note 5 อาจจะมาได้ถูกเวลา ตอนที่คนกำลังเบื่อ iPhone พอดี เลยไม่แปลกที่จะเห็นหลายๆ คน เปลี่ยนจาก iPhone 6 Plus ไปใช้ Note 5 กันเยอะแยะมากมาย งานนี้ใครอยากได้ ให้ลองไปเล่นดูด้วยตัวเองก่อนนะคะ ขอจบบทความ รีวิว Note 5 นี้ไว้เท่านี้ รักทั้ง iPhone และ Note เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ yuki_oh จาก www.pantip.com
Leave a Reply