รีวิว Nokia X มือถือแอนดรอยด์รุ่นแรกจากค่ายโนเกีย

Nokia X สมารท์โฟนซี่รี่ส์ใหม่จากค่าย Nokia ที่มาในระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์เป็นเครื่องแรกของแบรนด์นี้ แต่จะให้พูดว่าเป็น Android สมาร์ทโฟนเต็มตัวเลยนั่นก็ดูจะไม่ถูกนัก เพราะระบบปฏิบัติการที่ใช้คือ Nokia X Software Platform 1.0 ซึ่งมีต้นแบบมามาจาก Android Open Source Project (AOSP) จึงทำให้ผู้ใช้ยังคงได้กลิ่นของ Windows Phone สอดแทรกเข้ามาด้วย

สเปคหลัก Nokia X

ระบบปฏิบัติการ :	Nokia X Software Platform 1.0
หน้าจอ :	IPS LCD capacitive touchscreen 480 x 800 พิกเซล, 16.7 ล้านสี
CPU :	Qualcomm snapdragon S4 Play Dual-core 1.0 GHz
RAM :	512 MB
ความจำตัวเครื่อง :	4 GB (รองรับ Micro SD 32 GB)
กล้องหน้า :	ไม่มี
กล้องหลัง :	3.15 ล้านพิกเซล
Battery :	1500 mAh
ขนาด :	115.5 x 63 x 10.4 มม.
น้ำหนัก :	128.7 กรัม
รองรับ :	2 ซิม, 3G, Wi-Fi, Bluetooth 3.0, micro USB 2.0

ดูสเปคเพิ่มเติมได้ที่ >> Nokia X

ดีไซน์ภายนอก Nokia X

กล่องบรรจุภัณฑ์ของ Nokia X ดูสีเครื่องได้จากข้างกล่อง

ภายในกล่องประกอบด้วย ตัวเครื่อง Nokia X ชุดหูฟังสีแดง และที่ชาร์จแบต (ไม่มีสาย USB)

ด้านหน้าโทรศัพท์ มีปุ่ม Back เพียงปุ่มเดียว ใช้สำหรับถอยกลับสู่เมนูหลักและเป็นทางลัดเข้า Fastlane

ด้านหลังมีเลนส์กล้อง ความละเอียด 3.15 ล้านพิกเซล ช่องด้านล่างคือลำโพง

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

ด้านล่างคือช่องที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ และยังเป็นช่องเสียบ micro USB 2.0 เชื่อมต่อคอมฯ

ด้านขวามีปุ่มกด 2 ปุ่ม ปุ่มเล็กด้านซ้ายคือปุ่ม Power และ ปุ่มด้านขวายาวๆคือปุ่มปรับ Volume (กดปุ่ม Power กับ ปุ่มลดเสียงพร้อมกันจะเป็นการแคปภาพหน้าจอ)

ด้านซ้ายเรียบไม่มีปุ่มใดๆ

ถอดฝาครอบด้านหลังออก วิธีถอดคือใช้นิ้วดันด้านหลังตรงกลางเครื่องและใช้นิ้วโป้งค่อยๆดันมุมทั้ง 4 มุม

ฝาครอบด้านหลังสามารถเปลี่ยนเพื่อเปลี่ยนสีเครื่องได้ วัสดุทำจากพลาสติด Polycarbonate

ลักษณะภายใน ด้านซ้ายเป็นช่องลำโพง ด้านขวามีสติ๊กเกอร์รับประกัน

สามารถดูรหัสเครื่อง เลขIMEI ได้ที่แถบนี้

ช่องใส่ซิมแบบ Micro Sim สองช่อง และมีช่องใช่เมมโมรี่แบบ Micro SD คั่นอยู่ตรงกลาง รองรับความจำสูงสุด 32 GB

แบตเตอรี่ แบบ Li-Ion ขนาด 1500 mAh หลังจากทดสอบชาร์จจากแบตหมดจนเต็มใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ถือว่าใช้เวลานานพอสมควรเมื่อเทียบกับความจุพลังงาน

ระบบภายใน Nokia X

หน้าจอตอนล็อคอยู่มีการแจ้งเตือนกิจกรรมเด้งที่หน้าจอ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นระบบ Android แต่หน้าตาการจัดวาง Tile ดูคล้ายของ Windows Phone มากกว่า

สามารถจัดเรียง Tile ได้ด้วยการกดที่ตัวแอพค้างไว้ ลบหรือปรับขนาดได้ เพิ่ม Widget ต่างๆให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ได้

จุดที่น่าสนใจคือระบบ Fastlane สามารถเข้าได้โดยการปัดหน้าจอไปด้านซ้ายหรือขวา อีกวิธีคือกดปุ่ม Back ในขณะอยู่ที่หน้าจอหลัก Fastlane คือตัวแสดงกิจกรรมทั้งหมดที่เราทำอยู่ คล้ายๆกับ Recent App แต่เหนือกว่าหน่อยตรงที่จะบอกรายละเอียดด้วยเช่นกำลังอัพโหลดภาพกี่ภาพ หรือดาวน์โหลดไฟล์อะไรอยู่ สามารถตั้งค่าได้ที่หัวข้อ Setting >> Fastlane

หน้าจอปุ่มกดและการโทร

หน้าจอรายชื่อผู้ติดต่อซึ่งสามารถใส่รูปประจำตัวได้ ภาพขวาเป็นหน้าต่าของ Recent Call สามารถกดโทรกลับได้ทันทีเพียงกดปุ่มรูปโทรศัพท์ด้านหลัง

การตั้งค่าต่างๆ รวมถึงการเข้าดูข้อมูลก็จะอยู่ที่หัวข้อ Setting เช่นกัน

ถึงแม้จะบอกว่า Nokia X เป็นมือถือที่ใช้ระบบ Android แต่การโหลดแอพซื้อแอพต่างๆ จะใช้ผ่าน Nokia Store ไม่ใช่ Google Play เพราะฉะนั้นอาจจะมีบางแอพของ Google Play ที่ไม่มีใน Nokia Store

เมนูฟังเพลงใช้ง่าย มีรูปแสดงขณะเล่น สามารถสร้างเพลยลิสต์ได้ รวมถึงมีอีควอไลเซอร์ให้ปรับแต่งได้

วิทยุ FM สามารถเลือกสถานีได้ง่ายด้วยการ เพิ่มสถานีโปรดที่ปุ่ม + ด้านล่างจอ มีตัวช่วยสแกนสถานีและตั้งเวลาปิดวิทยุ (ต้องเสียบหูฟังเป็นเสาสัญญาณ)

MixRadio ไว้ใช้ฟังเพลงออนไลน์โดยสามารถสร้างลิสต์เพลงเองได้ รวมถึงดาวน์โหลดเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์ได้ด้วย

รูปแบบแกลเลอรีใช้งานง่าย สามารถปรับแต่งภาพเบื้องต้นซึ่งก็ถือว่าใช้งานได้พอสมควรแต่ลูกเล่นคงไม่เยอะเท่าแอพตกแต่งภาพโดยตรง

ภาพถ่ายจากกล้องของ Nokia X

ภาพถ่ายจากกล้องของ Nokia X โดยที่ภาพด้านล่างคือภาพแบบ Crop 100%

การเล่นวิดีโอนั้นสามารถเข้าได้จากหน้าแกลเลอรี่

สามารถแชร์หรือเชื่อมต่อบลูทูธเพื่อแบ่งปันให้คนอื่นๆดูก็ได้

HERE Maps แอพแผนที่และการนำทางซึ่งต้องไปโหลดตัวเต็มก่อนใน Nokia Store ถึงจะใช้ระบบนำทางได้

การใช้งานก็พื้นฐานเดียวกับ Google maps รวมถึงสามารถโหลดเสียงผู้ช่วยในการบอกทางได้ (ยังไม่มีเสียงภาษาไทย)

Browser ลื่นใช้ได้ มี Bookmarks เว็บไซต์ยอดนิยมเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึง

คีย์บอร์ด มีระบบช่วยเดาคำ และสามารถพิมแบบ Swype ได้ (ไม่ยกนิ้วออกจากแป้นพิมพ์) การเปลี่ยนภาษาทำได้โดยการกด Space Bar ค้างไว้ซึ่งไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไร ในอนาคตอาจจะมีอัพเดตเฟิร์มแวร์เพื่อแก้ไขในจุดนี้

ไลน์มีลูกเล่นรูปแบบเดียวกับ Android

Facebook ก็เช่นกันรูปแบบเหมือนโทรศัพท์แอนดรอยด์ทั่วๆไป

Youtube นั้นไม่มีแอพเฉพาะเหมือนกับของ Android ตัวเต็มต้องเข้าผ่าน Browser ทำให้โดนลดทอนความสามารถลงไปบางส่วน อย่างเช่นการย่อหน้าจอลงเพื่อเลือกเพลงขณะที่วิดีโอยังคงเล่นอยู่นั้นไม่สามารถทำได้

การเล่นวิดีโอบนเว็บ Youtube ค่อนข้างลื่นไหลดีไม่มีกระตุก ความคมชัดดีในระดับนึง

เกมนั้นมีแถมมาให้อยู่หลายเกม แต่ส่วนมากจะเป็น Demo ซะมากกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นของค่าย EA และ Gameloft อย่างเช่นเกมฟุตบอล เกมเศรษฐี เตอตริส และทำฟาร์มเป็นต้น หากว่ายังไม่จุใจพอก็เข้าไปโหลดเกมเพิ่มเติมกันได้ที่ Nokia Store

ในเรื่องของประสิทธิภาพในการเล่นเกม อย่างเกมฟุตบอลที่ถือว่าเป็นเกมที่มีการเคลื่อนไหวเยอะอยู่พอสมควรก็ยังสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลไม่มีปัญหาอะไร

ข้อดี

– ระบบปฏิบัติการ Android ส่งผลให้มีแอพพลิเคชั่นเยอะกว่า Windows Phone
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม
– สีสันสดใส มีให้เลือกหลากหลายเฉดสี
– รองรับ 3G, Wi-Fi
– มีระบบ GPS (HERE Maps) ให้ใช้บริการแบบฟรีๆ
– หน่วยประมวลผล Dual-core 1 GHz
– กล้องดิจิตอล 3.15 ล้านพิกเซล

ข้อเสีย

– ไม่มีกล้องหน้า
– กล้องหลักไม่มีแฟลช และ ออโต้โฟกัส
– รองรับการใช้งาน 3G ได้เพียงความถี่ 900 และ 2100 เท่านั้น
– เป็น Android แต่ไม่สามารถใช้บริการต่างๆจาก Google ได้

สรุป

สำหรับ Nokia X นั้นต้องบอกว่าน่าสนใจเพราะเป็นมือถือที่มีความแตกต่างจากพี่น้องอย่าง Asha และ Lumia ด้วยการนำระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มาใช้ แน่นอนว่าข้อดีที่เห็นกันชัดๆเลยคือแอพพลิเคชั่นที่มีให้โหลดเป็นจำนวนมาก รวมถึงความคุ้นเคยของคนไทยที่น่าจะใกล้ชิดกับแอนดรอยด์มากกว่า Windows Phone

ก่อนอื่นขอพูดถึงภายนอกก่อนเลยว่าหน้าตาหล่อเหลาดูดีทีเดียว ด้วยสีสันที่สะดุดตาดูไม่เหมือนโทรศัพท์ราคาถูก วัสดุทนทานแข็งแรงตามสไตล์ของ Nokia อยู่แล้ว หน้าจอ 4 นิ้วอยู่ในขนาดที่ใช้งานได้สะดวกพกพาสบาย ถ้าให้พูดถึงแค่ภายนอกถือว่าสอบผ่านฉลุย

แต่คนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ได้วัดกันที่หน้าตาอย่างเดียว ต้องมีความสามารถควบคู่กันไป เช่นเดียวกันกับ Nokia X ที่มีความสามารถรอบด้านดีทีเดียว ฟังก์ชั่นพื้นฐานมีให้ใช้งานได้ครบไม่ว่าจะ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ต เล่นเกม รวมถึงการเข้าถึงโลกโซเชี่ยลก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีไม่มีตกหล่น ที่สำคัญรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม แต่ก็ต้องยอมรับว่าด้วยความที่เป็นมือถือเจาะตลาดระดับกลางลงไปล่างทำให้การแสดงผลทำได้แค่เพียงระดับนึงเท่านั้น จะให้ขึ้นไปชกข้ามรุ่นกับพวกมือถือเรือธงเห็นทีจะไม่ไหว แต่ด้วยการรองรับการทำงานได้หลายอย่างตามที่ได้กล่าวมา เพียงเท่านี้ก็ทำให้เจ้า Nokia X นี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาอย่างเดียวจริงๆ

ด้วยระดับราคา 3,990 บาท ทำให้ Nokia X เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้สมาร์ทโฟน ผู้ปกครองที่มองหามือถือราคาสบายกระเป๋าให้ลูกๆ หรือผู้ที่กำลังมองหามือถือไว้ใช้สำรองในการทำงานแต่ก็พอจะมีฟังก์ชั่นต่างๆให้เล่นได้บ้าง

คู่แข่งหรือตัวเลือกอื่นในระดับเดียวกัน

– Sony Xperia™ E dual โซนี่ เอ็กซ์พีเรีย อี ดูโอ
– Samsung Galaxy Ace Plus (S7500) ซัมซุง กาแล็คซี่ เอซีอี พลัส
– OPPO Find Muse ออปโป้ ไฟน์ มิวส์
– Huawei IDEOS X5 หัวเหว่ย ไอดีออส เอ็กซ์5

ถ้าเห็นว่าบทความนี้ประโยชน์ โปรดช่วยกด LIKE + SHARE เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nokia X สามารถ comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ