รีวิว Nokia Lumia 630 พัฒนาการอีกขั้นสู่ Windows Phone 8.1 ที่น่าใช้สุดๆ
Nokia Lumia 630 เปิดตัวด้วยราคาที่น่าสนใจมาก คือ 4,990 และ 5,190 บาท สำหรับรุ่น 1 และ 2 ซิมการ์ดตามลำดับ มาพร้อมกับ Windows Phone เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด คือ 8.1 ที่น่าใช้งานกว่าเดิมอย่างมาก และฝาหลังที่มีให้เลือกหลายสี ทั้งแบบผิวด้านและผิวมันวาว
์Nokia Lumia 630 มาแทนที่ Lumia 625 ด้วยราคาเย้ายวนใจ ที่ถูกกว่ารุ่นเก่าอยู่เกือบ 2 พันบาท และดีกว่ารุ่นเก่าอย่างมาก ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แล้วนำมาจำหน่ายแบบฉาบฉวย อย่างที่แบรนด์เกาหลีนิยมทำ แน่นอนว่า Lumia ในตระกูล 6 ต้องมีสีสันสดใสให้เลือกอย่างมากมายเช่นเดิม โดยมีให้เลือก 5 สีตามภาพ
โนเกียได้จัดทำธีมสีต่างๆ ให้สอดคล้องกับสีของฝาหลัง เมื่อเลือกใช้ธีมสีเดียวกับฝาหลัง จะทำให้ Nokia Lumia 630 ดูสวยงามทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะสีส้ม สีเขียว และสีเหลือง ธีมในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง Live Tile บนหน้าจอเท่านั้น แต่ยังหมายถึงทุกเมนูหลักในเครื่อง ก็จะเป็นสีนั้นด้วยเช่นกัน
พิมพ์ข้อความได้สะดวกกว่าเดิม ด้วยมือเพียงข้างเดียว ไม่ต้องกดทีละตัวอักษร แต่สามารถลากแบบ Swype คำได้ ระบบจะเดาคำนั้นได้อย่างถูกต้อง เช่นในภาพ หากต้องการพิมพ์ข้อความว่า great ก็เพียงแค่กด g ไม่ต้องปล่อยนิ้ว ลากผ่าน r e a t อย่างรวดเร็ว จนได้ครบทุกตัว ระบบจะรู้ทันทีว่าเราต้องการพิมพ์คำว่า great
อุปกรณ์เสริมสำหรับ Nokia Lumia มีมากมาย คุณภาพดี และมีสีสันสวยสดใส เข้ากันกับ Lumia ได้ลงตัว
อย่างเช่นลำโพงไร้สาย ก็สวยงาม ใช้งานง่าย เชื่อมต่อผ่าน NFC ได้ด้วย ใช้สนทนาเป็นกลุ่มได้ด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมี Treasure Tag ที่นำไปคล้องกับพวงกุญแจหรืออุปกรณ์อื่นที่เรามักจะหาไม่เจอ แล้วใช้ Nokia Lumia ช่วยค้นหาได้ง่ายๆ แน่นอนว่าสีสันสวยงามตามสไตล์ Microsoft + Nokia
นั่นเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ประยุกต์ใช้การเชื่อมต่อไร้สาย ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์ติดตัวมากมายจนบางครั้งหลงลืม Lumia จะแจ้งเตือนก่อนการสูญหายได้ โดยอาศัยหลักการว่า เมื่ออุปกรณ์ห่างตัวไปมากจนขาดการเชื่อมต่อ ก็จะเตือนมายัง Lumia ที่จับคู่กับ Treasure Tag ไว้
กลับมาดู Nokia Lumia 630 กันต่อ หากใครเบื่อฝาหลังแบบผิวด้าน ก็มีจำหน่ายฝาหลัง 3 สีในแบบผิวมันวาว ราคา 470 บาท แต่ต้องระวังในการใช้งานมากขึ้น เพราะเป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่าฝาหลังแบบผิวด้าน
ฝาหลังของ Lumia 630 มีความหนามาก แข็งแรงทนทาน แตกหักได้ยากมาก
ฝาหลังถอดไม่ยาก เมื่อใส่แล้วก็มีความแน่นหนาดี บีบตัวเครื่องไม่มีเสียงกรอบแกรบ เพราะวัสดุดีและหนา
ตัวเครื่องแบบเปลือยทั้ง 3 มุมมอง เมื่อไม่ใส่ฝาหลัง
แบตเตอรี่รุ่น BL-5H ความจุ 1,830 mAh เพียงพอกับการใช้งาน 1 วันพอดีของคนส่วนใหญ่
Nokia Lumia 630 เครื่องที่นำมารีวิวครั้งนี้ เป็นรุ่นที่รองรับ 2 ซิมการ์ด ซึ่งทั้ง 2 ซิมการ์ดต้องเป็นขนาด micro SIM
SIM 1 และ SIM 2 มีทิศทางการใส่ที่ตรงกันข้ามกัน มีหมายเลขกำกับไว้ ไม่สับสน
ช่องลำโพง
ช่องใส่ microSD card และเหนือแบตเตอรี่ขึ้นไป เป็นเลนส์กล้องถ่ายภาพ รุ่นนี้ไม่มี LED Flash
ปิดฝากลับเข้าไป แล้วเปิดเครื่อง ใช้เวลาบูตประมาณเกือบ 1 นาที ก็พร้อมใช้งาน ปรากฎเป็นหน้าจอ Lock Screen
หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ชนิด ClearBlack IPS LCD ที่มีการเคลือบดำ ตัดแสงสะท้อน ให้ภาพสวย สีสันสดใส สีดำลึกมีมิติ
ความละเอียด FWVGA (854 x 480 พิกเซล) ถ้าเป็นจอภาพคุณภาพต่ำ จะเห็นเป็นสีเทาและมีแสงสะท้อนรบกวนสายตา เพราะฉะนั้นในการเลือกซื้อ Smartphone ที่มีหน้าจอคุณภาพดี จะต้องดูเหมือนกระจกสีดำสนิทในขณะไม่มีภาพ
ในขณะบูตเครื่อง จะปรากฏโลโก้บนพื้นหลังสีดำ หน้าจอที่ดี จะต้องแสดงผลสีดำได้ดี แม้จะมีแสงรั่วนิดหน่อยเป็นสีอมม่วง ตามธรรมชาติของ LCD ก็ยังไม่ถือว่าน่าเกลียดอะไร
เมื่อปลดล็อคหน้าจอ ก็จะพบกับ Home Screen ที่เต็มไปด้วย Live tile สไตล์ Windows Phone
Lumia 630 ไม่มีปุ่มชัตเตอร์ ด้านข้างตัวเครื่อง มีปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และเพิ่ม/ลดระดับเสียง
ด้านบน เป็นช่องต่อหูฟัง
ช่องลำโพงกลมๆ ที่มุมล่างขวาของฝาหลัง
ด้านล่างเป็นพอร์ต microUSB
ย้ำกันอีกครั้งว่าไม่มี Flash LED
เราสามารถปรับขนาด Tile บน Windows Phone 8.1 ให้มีขนาดเล็กลงได้อีก เพื่อให้แสดงผลได้มากขึ้น
ปุ่มกดโทรออกและตัวเลข ใหญ่สะใจ
ส่งภาพบน Lumia ออกไปยังจอภาพหรือ TV ได้แบบ real-time ไม่มีหน่วง ด้วยฟังก์ชั่นใหม่ Project my screen
หน่วยความจำในตัวเครื่องมี 8GB ทำให้ไม่ควรติดตั้งเกมไว้บนหน่วยความจำของเครื่อง
เมื่อย้ายเกม จาก Phone มาเก็บไว้ที่ SD card ก็ทำให้พื้นที่หน่วยความจำของเครื่อง คงเหลือมากขึ้น
้ย้ายเกมหรือแอพพลิเคชั่นขนาดใหญ่ไปไว้ใน SD Card ได้ง่ายๆ แค่ปุ่มเดียว
ย้ายแล้วก็สามารถเล่นเกมได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร เกมก็ยังลื่นไหลดีเช่นเดิม
เกมอื่นๆ ก็ต้องย้ายไปไว้ใน SD Card ด้วยเช่นกัน โดยเข้าไปดูในเมนูการใช้พื้นที่หน่วยความจำ
ตัวเครื่องสีส้ม ก็สามารถปรับเปลี่ยนภาพในหน้าจอ Lock Screen ให้เป็นสีส้มหรือรูปอื่นได้ตามใจชอบ
รายการแอพพลิเคชั่นในเครื่อง เมื่อใช้ธีมสีส้ม
ปรับแต่ง ตั้งค่าทุกอย่าง ได้ที่ Settings
มาแล้ว สิ่งที่ทุกคนรอคอย นั่นคือ Action Center พร้อม Setting 4 อย่างที่เราใช้บ่อย เปิดดูด้วยการลากนิ้วจากขอบจอภาพด้านบนลงมากลางจอภาพ เหมือนใน Android OS และ iOS
กล่องดีไซน์ใหม่ ปรับมาเป็นสไตล์เดียวกับ Microsoft Surface หมายความว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็น Phone และ Tablet ของ Microsoft จะใช้กล่องรูปแบบนี้ทั้งหมดแล้ว ทันทีที่ Microsoft เข้าซื้อกิจการของ Nokia เสร็จสิ้น 100% เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ฝาหลังครบทุกสีในแบบผิวด้าน และอีก 3 สีในแบบผิวมันวาว พร้อมอุปกรณ์เสริมจากโนเกีย
เปรียบเทียบ Tile ที่เราสามารถปรับขนาดและเปลี่ยนให้โปร่งใส เห็นพื้นหลังได้
หน้าจอ Lock Screen และ Action Center ธีมสีส้ม สีเดียวกับตัวเครื่อง
พื้นที่หน่วยความจำที่ผู้ใช้จะต้องบริหารจัดการให้ดี อย่าให้พื้นที่หน่วยความจำของเครื่องเหลือน้อยเกินไป
Action Center ที่เราสามารถปรับเปลี่ยน 4 ปุ่มด้านบนได้เอง
เลือกที่ Notifications+Actions แล้วเปลี่ยนปุ่มลัดที่เราใช้บ่อย ได้ตามความต้องการ
แผนที่ Here Maps ที่ใช้งานได้ดีเยี่ยม ระบบนำทางแม่นยำ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Nokia Lumia 630
คลิกเพื่อดูภาพขนาดจริง (5 ล้านพิกเซล)
บทสรุป
Nokia Lumia 630 รุ่นใหม่ที่จำหน่ายในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2557 ด้วยราคา 4,990 / 5,190 บาท ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก สเปคดีเกินราคา จอภาพคุณภาพดีมาก ภาพสวยใสคมกริบ มาพร้อมกับลูกเล่นที่มีประโยชน์มากใน Windows Phone 8.1 ตัวใหม่ล่าสุด ปรับแต่งได้ยืดหยุ่น และมี Action Center ความเร็วในการใช้งานจริง ของ CPU SnapDragon 400 Quad-core 1.2 GHz ก็ตอบสนองได้ดี ทันใจ ไม่มีหน่วงจนรำคาญ กล้องถ่ายภาพก็ถือว่าคุณภาพดีใช้ได้ คุ้มค่ากับระดับราคานี้
ข้อสังเกต คือ ไม่มีไฟแฟลช ไม่มีกล้องหน้า และแอพพลิเคชั่นที่ยังไม่ค่อยปลื้มนัก เมือเปรียบเทียบกับ OS อื่นที่ได้รับความนิยมมากกว่า
คู่แข่งในระดับราคาใกล้เคียงกัน
- Alcatel OneTouch idol mini
- LG L70 Dual
- Sony Xperia E1 Dual
- Oppo Neo
- i-mobile IQ 5.7
- Huawei Ascend G730
- Samsung Galaxy S Duos 2
- Samsung Galaxy Ace 3 Plus
- Lenovo A706
- Acer Liquid Z5
Leave a Reply