รีวิว Nokia 4.2 มือถือ Android One สุดประหยัด! กล้องหลังคู่ AI พร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Assistant มีสแกนลายนิ้วมือ ในราคาเบาๆ

รีวิว Nokia 4.2 มือถือ Android One สุดประหยัด! กล้องหลังคู่ AI พร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Assistant มีสแกนลายนิ้วมือ ในราคาเบาๆ

Nokia-4.2

สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา HMD Global เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์ Nokia ทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Nokia ใหม่ทั้งหมด 5 รุ่นรวดอย่างเป็นทางการในประเทศไทย นำทัพโดยเรือธง Nokia 9 PureView ระดับทรงพลังที่มาพร้อมกล้องหลัง 5 ตัวเป็นรุ่นแรกของโลก ตามมาด้วย Nokia 8.1, Nokia 4.2, Nokia 3.2 และน้องเล็กสเปคครบครันอย่าง Nokia 2.2

โดยตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในการใช้งานสมาร์ทโฟนภายใต้คอนเซ็ปต์ “ยิ่งใช้ยิ่งดีขึ้นทุกวัน” มีการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ให้มีความสามารถในการยกระดับคุณภาพชีวิตและตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งหลังจากที่เราได้นำ Nokia 3.2 สเปคระดับต้น ฟังก์ชันครบครัน ในราคาเข้าถึงได้มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันไปแล้วก่อนหน้านี้ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมรีวิวของ Nokia 4.2 สมาร์ทโฟน Android One สเปคตอบโจทย์กันบ้างค่ะ

ชมพูพิงค์แซนด์

สำหรับ Nokia 4.2 เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับการออกแบบให้มีนวัตกรรมล้ำสมัย ในราคาที่จับต้องได้ มีดีไซน์คลาสสิคด้วย Sculpted-Glass ที่ไม่เพียงแต่ดูหรูหราเท่านั้น แต่มาพร้อมนวัตกรรม AI ชั้นเลิศ กล้องหลังเลนส์คู่ มีขนาดตัวเครื่องที่พอดี เหมาะการใช้งานมือเดียวด้วยความหนาเพียง 8.39 มม. หน้าจอชนขอบขนาดกว้างที่มาพร้อมเลนส์กล้องหน้าสำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ ทั้งยังมาพร้อมปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant อีกด้วย
ดำ
ส่วนสเปคการใช้งานภายใน Nokia 4.2 ใช้หน้าจอ TFT LCD ขนาด 5.71 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:9 รันบน Android 9.0 (Pie) ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 439 จีพียู Adreno 505 แรม 3GB คู่ความจุ 32GB รองรับ microSD Card สูงสุด 400GB ด้านหลังติดตั้งกล้องคู่ 13MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/2.2 รองรับ LED flash มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ส่วนกล้องเซลฟี่มีความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 รองรับฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh และมีปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant ด้านข้างตัวเครื่อง

Nokia 4.2 ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5,290 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีชมพูพิงค์แซนด์ สำหรับวันนี้รุ่นที่ทาง ninethaiphone จะนำมารีวิวให้ได้ชมกันเป็นตัวเครื่องสีดำค่ะ ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปชมรีวิวทั้งหมดกันเลย

ข้อมูลสเปค

Features Nokia 4.2
วันเปิดตัว :  – กรกฎาคม 2562
ราคา :  – 5,290.- (ณ วันที่ 31 ก.ค. 62)
OS :  – Android 9.0 (Pie)
หน้าจอ :  – หน้าจอ TFT LCD
 – ขนาด 5.71 นิ้ว
 – อัตราส่วน 19:9
 – ความละเอียด 720×1520 พิกเซล
 – กระจก 2.5D
CPU :  – Snapdragon 439 แบบ Octa-core ความเร็ว 2.0 GHz
GPU :  – Adreno 505
RAM :  – 3GB
ROM :  – 32GB
 – microSD Card สูงสุด 400GB
กล้องหลัง :  – 13MP + 2MP
 – ค่ารูรับแสง f/2.2
 – PDAF
 – LED flash
กล้องหน้า :  – 8MP
 – ค่ารูรับแสง f/2.0
Video :  – 1080p@30fps
Battery :  – 3000 mAh
ขนาด :  – 148.95×71.30×8.39 มม.
น้ำหนัก :  – 161 กรัม
รองรับซิม :  – Dual SIM
ระบบกันน้ำ :  –
ระบบเครือข่าย :  – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
 – 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz
 – 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi 802.11 b/g/n
 – Bluetooth 4.2
 – microUSB 2.0
 – NFC
 – OTG
 – Google Assistant Button
 – 3.5mm jack
GPS  – A-GPS
 – GLONASS
 – BeiDou
Sensor :  – Fingerprint
 – Face Unlock
 – Accelerometer
 – Proximity
สี :  – Black
 – Pink Sand

แกะกล่อง Nokia 4.2

Nokia 4 (15)

Nokia 4.2 บรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดกะทัดรัด หน้ากล่องมีโลโก้แบรนด์ Nokia และแถม microSD Card ขนาด 16GB มูลค่า 249 บาทมาให้ฟรี ตรงกลางเผยให้เห็นหน้าจอที่มาพร้อมรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็กด้านบนตรงกลาง มุมล่างขวาระบุว่าเป็นสมาร์ทโฟน Android One

Nokia 4 (16)

ด้านหลังกล่องมีการระบุสเปคการใช้งานเด่นๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ HD+ ขนาด 5.71 นิ้ว อัตราส่วน 19:9, กล้องหลังเลนส์คู่ 13MP + 2MP, แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh, รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 439 เป็นต้น

Nokia 4 (14)

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

–  Nokia 4.2 ตัวเครื่องสีดำ
–  Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
–  สาย Micro USB
–  เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
–  คู่มือการใช้งาน
–  หูฟัง Earbuds
–  microSD Card ขนาด 16GB

ทำความรู้จัก Nokia 4.2

Nokia 4 (4)

ด้านหน้า Nokia 4.2 มาพร้อมหน้าจอ TFT LCD ขนาด 5.71 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วนจอแสดงผล 19:9 หน้าจอเหลือขอบบนล่างและด้านข้างเพียงเล็กน้อย

Nokia 4 (5)

ด้านหน้าส่วนบน พบรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็ก เป็นตำแหน่งติดตั้งของกล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 และเซ็นเซอร์ต่างๆ เหนือรอยบากมีช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา หน้าจอชนขอบขนาดกว้างที่มาพร้อมเลนส์กล้องหน้าสำหรับถ่ายภาพเซลฟี่

Nokia 4 (6)

ด้านหน้าส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้ Nokia และขอบด้านล่างที่เว้นว่างไว้ไม่มีฟังก์ชันใช้งานใดๆ

Nokia 4 (1)

ด้านหลัง Nokia 4.2 ใช้วัสดุตัวเครื่องมันวาว มีพื้นผิวสัมผัสเรียบลื่น ดีไซน์คลาสสิคด้วย Sculpted-Glass กลางเครื่องมีโลโก้ Nokia ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 148.95×71.30×8.39 มม. และน้ำหนัก 161 กรัม มีขนาดตัวเครื่องที่พอดี เหมาะการใช้งานมือเดียวด้วยความหนาเพียง 8.39 มม.

Nokia 4 (2)

ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย เลนส์กล้องคู่ความละเอียด 13MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อมไฟแฟลช LED ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และโลโก้แบรนด์ Nokia

Nokia 4 (3)

ด้านหลังส่วนล่าง มีสัญลักษณ์ Android One และข้อมูลเรื่องลิขสิทธิ์

Nokia 4 (8)

ด้านบนตัวเครื่อง พบช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และรูไมโครโฟน

Nokia 4 (7)

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต micro USB และลำโพงเสียงหลัก

Nokia 4 (9)

ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีช่องใส่ซิมการ์ด และปุ่มกดเรียกใช้งาน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว

Nokia 4 (10)

ช่องใส่ซิมการ์ดอยู่เหนือปุ่ม Google Assistant

Nokia 4 (13)

สำหรับ Nokia 4.2 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot คือสามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับ microSD Card ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

Nokia 4 (11)

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด/ปิดการใช้งานตัวเครื่อง และปุ่มเพิ่ม/ลดปรับระดับเสียง

Nokia 4 (12)

ปุ่มพาวเวอร์ของ Nokia 4.2 จะแสดงไฟกระพริบเมื่อมีการแจ้งเตือนเด้งเข้ามาด้วยค่ะ

การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่อง

ทดสอบประสิทธิภาพ Nokia 4.2

AnTuTu (1)

เมื่อนำ Nokia 4.2 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 439 แบบ Octa-core ความเร็ว 2.0 GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 505 เป็นสมาร์ทโฟน Android One ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ตั้งแต่แกะกล่อง เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 78559 คะแนน ทำได้มากกว่า Nokia 3.2 ที่เราได้นำมารีวิวให้ชมกันไปก่อนหน้านี้ คลิกชมรีวิว

AnTuTu (2)AnTuTu (3)

สำหรับข้อมูลสเปคการใช้งานของ Nokia 4.2 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันล่าสุด ระบุว่ามาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie), ใช้ชิปเซ็ต SDM439 หรือ Snapdragon 439, หน้าจอ 5.69 นิ้ว ความละเอียด 720×1520 พิกเซล, กล้องหลัง 13.2MP, กล้องหน้า 8MP, แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh, หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 700MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 5.87GB เป็นต้น

GAME (2)GAME (1)

สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกม ทางทีมงานได้ลองดาวน์โหลดเกม PUBG Mobile มาลองเล่นดูค่ะ เมื่อเข้าสู่เกม ระบบได้ปรับอัตโนมัติที่ความละเอียดต่ำคุณภาพลื่นตามสเปคของอุปกรณ์เพื่อให้สามารถเล่นเกมได้แบบไม่สะดุด

Screenshot_20190722-153112_resize

ภาพกราฟิกอยู่ในระดับสมดุลช่วยลดอาการค้าง ซึ่งอุปกรณ์ยังไม่รองรับการตั้งค่า HD, HDR HD และ Ultra HD ปรับเฟรมเรทที่ระดับกลาง หากเฟรมเรทแกว่งสามารถปรับเฟรมเรทลงเพื่อให้เหมาะสมได้ค่ะ

DSCF8620_resizeDSCF8649_resize

ผลลัพธ์ที่ได้พบว่า Nokia 4.2 สามารถเล่นเกมได้แบบเพลินๆ เกมค่อนข้างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด หน้าจอกว้าง จับได้ถนัดมือ

VDO (1)

ส่วนการใช้งาน YouTube สามารถกางและบีบนิ้วเข้าเพื่อปรับให้พอดีกับหน้าจอได้

VDO (2) VDO (3)

ภาพมาตรฐานบน YouTube ยังดูได้ไม่เต็มจอเหลือขอบดำด้านข้างไว้เล็กน้อย แต่เราสามารถซูมขยายจนเต็มหน้าจอได้

Interface

Screenshot (2)

หน้าจอ Lock Screen ปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วที่มุมล่างขวา และโทรศัพท์ที่มุมล่างซ้าย หรือหากใครที่ลงทะเบียนปลดล็อคด้วยใบหน้าหรือสแกนลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถกดปลุกหน้าจอแล้วสแกนใบหน้าได้เลยค่ะ

Screenshot (4)

หลังจากที่ปลดล็อกหน้าจอแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen สามารถเพิ่มหน้าได้ แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องก็รองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน หากกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะสามารถตั้งค่าหน้าแรก ตั้งค่าหน้าวิตเจ็ต และวอลเปเปอร์ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงลบแอปฯ ที่ไม่ต้องการออกได้

Screenshot (3)

เมื่อสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพบกับ Quick Settings ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และหน้าแจ้งเตือนต่างๆ หากปัดขึ้นจะพบกับหน้าแสดงแอปฯ ที่ใช้งานไปล่าสุด

Screenshot (5)

ศูนย์รวมแอปฯ มีมาให้อย่างครบครัน สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการได้ที่ Google Play และเรียกใช้งาน Google Assistant ได้อย่างรวดเร็วเมื่อกดไปที่ปุ่มข้างตัวเครื่อง

Screenshot (7)

เมื่อปัดหน้าจอขึ้นจะพบกับหน้ารวมเมนูทั้งหมดในตัวเครื่อง ส่วนการตั้งค่าต่างๆ ให้กดไปที่รูปเฟืองไอคอนสองค่ะ

Screenshot (6)

หน้าโทรศัพท์, ข้อความ

Screenshot (8)

Nokia 4.2 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh มีฟังก์ชันการใช้งาน Adaptive Battery ปรับตัวตามการใช้งานของเรา และช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่, หน้าแสดงที่เก็บข้อมูลในเครื่อง, ข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ และหน้าอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่

Screenshot (9)

หน้าจอรองรับโหมดถนอมสายตาหากใช้งานในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงปรับอุณหภูมิของสีได้

Screenshot (10)

ปรับขนาดตัวอักษรบนหน้าจอให้มีขนาดที่ต้องการได้ตามสะดวก

Screenshot (11)

Nokia 4.2 มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งก่อนจะลงทะเบียนต้องกำหนดรหัสผ่าน, รูปแบบ หรือรหัสผ่านก่อน

Screenshot (12)

นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Face Unlock ที่ต้องใช้งานควบคู่ไปกับตัวเลือกการล็อกหน้าจออื่นๆ ด้วยค่ะ

Screenshot (13)

Smart Lock คือระบบปลดล็อกสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ PIN, รูปแบบ, รหัสผ่าน รวมถึงการสแกนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้าในการปลดล็อกเครื่อง

Screenshot (15)

รองรับการใช้งานด้วยท่าทางสัมผัสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการคว่ำสมาร์ทโฟนเพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า หรือกดปุ่มด้านข้างเครื่องเพื่อเปิดใช้งาน Google Assistant ถัดมาเป็นไลฟ์สไตล์การใช้งานดิจิทัลทั้งหมดในเครื่อง และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างเครื่องทางด้านขวาก็จะปรากฏเมนูสำหรับปิดเครื่อง รีสตาร์ทตัวเครื่อง และจับภาพหน้าจอขึ้นมาค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

หลัง (1)

มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหลังกันก่อนเลย โดยกล้องหลังของ Nokia 4.2 เป็นกล้องเลนส์คู่ความละเอียด 13MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม LED flash, Auto Focus และ PDAF มีโหมดการใช้งานพิเศษ ได้แก่ ถ่ายภาพสี่เหลี่ยมจตุรัส, เร่งเวลาต่อเนื่อง หรือการถ่ายวิดีโอแบบเร่งเวลา Time-Lapse, เลนส์ และถ่ายภาพพาโนรามา

หลัง (2)

โหมดเลนส์จะคล้ายๆ กับ Image Recognizer ผู้ใช้งานสามารถสแกนเพื่อวิเคราะห์หาสินค้าที่คุณต้องการจากฐานข้อมูลสินค้าต่างๆ และช่องทางการซื้อได้อย่างรวดเร็ว

หลัง (3)

ส่วนโหมดเร่งเวลาก็คือการถ่ายวิดีโอแบบไทม์แลปส์ ถัดมาเป็นไลฟ์โบเก้ ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และโหมดโปรปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus ได้

Screenshot (1)

หรือสามารถเข้าถึงโหมดโปรได้อย่างรวดเร็วทันใจด้วยการปัดชัตเตอร์ขึ้น

หลัง (4)
หลัง (5)

ต่อมาเป็นถ่ายภาพอัตโนมัติ รองรับการตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, เปิดใช้งาน HDR และเปิดไฟแฟลช LED และภาพหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมรองรับโหมด Face Beauty ปรับระดับความสวยเนียนให้กับใบหน้า เมื่อกดไปที่ขีดสามเส้นทางฝั่งขวา ซึ่งโหมด Face Beauty รองรับการใช้งานด้วยการเลื่อนปรับระดับความเนียนได้ตามต้องการ ท้ายสุดเป็นโหมดบันทึกวิดีโอ โดยสามารถบันทึกได้ที่ระดับ HD และระดับสูงสุด Full HD ค่ะ

หน้า (1)

มาต่อกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้า Nokia 4.2 มีกล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มีโหมดใช้งานพิเศษเช่นเดียวกัน ได้แก่ ถ่ายภาพสี่เหลี่ยมจตุรัส, เร่งเวลาต่อเนื่อง หรือการถ่ายวิดีโอแบบเร่งเวลาต่อเนื่อง Time-Lapse, เลนส์ และถ่ายภาพพาโนรามา

หน้า (2)

โหมดเลนส์สำหรับค้นหาวัตถุหรือสิ่งของนั้นๆ จากการถ่ายภาพ, โหมดภาพพาโนรามา เก็บภาพในแนวที่กว้างขึ้น, โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติรองรับการตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, เปิดใช้งาน HDR และเปิดไฟแฟลช LED และภาพหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมรองรับโหมด Face Beauty

หน้า (3)

โหมด Face Beauty เราสามารถเลื่อนปรับได้เลยตามใจชอบ มีโหมดไลฟ์โบเก้ ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ท้ายสุดเป็นโหมดบันทึกวิดีโอได้ในระดับสูงสุด Full HD

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Nokia 4.2

IMG (16)
IMG (14)
IMG (12)
IMG (11)
IMG (13)
IMG (4)
IMG (15)
IMG (10)
IMG (6)
IMG (5)
IMG (3)
IMG (9)
IMG (8)
IMG (2)
IMG (1)

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Nokia 4.2

Nokia 4.2 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 รองรับโหมด Face Beauty ปรับค่าสวยเนียนเพิ่มความขาวได้เอง เป็นรูปแบบของการเลื่อนปรับเอง ผลลัพธ์ที่ได้ภาพถ่ายมีความเป็นธรรมชาติ คมชัดในระดับนึง เห็นรายละเอียดเส้นผม เสื้อผ้า ได้อย่างชัดเจน เปิดใช้งาน Face Beauty หน้าเนียนขึ้นแต่ยังคงเห็นรอยดำใต้ตาอยู่ เราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่กันเลย

ปกติ

ภาพปกติไม่ปรับแต่ง

ระดับกลาง

ปรับแต่ง Face Beauty ระดับกลาง

ระดับสูง

ปรับแต่ง Face Beauty ระดับสูงสุด

จุดเด่น

– Nokia 4.2 เป็นสมาร์ทโฟน Android One รุ่นใหม่ในเรทราคา 5 พันต้นๆ ได้รับการการันตีด้วยว่าจะได้รับการอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ๆ อย่างน้อย 2 ปี

– มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) เวอร์ชันล่าสุด
– หน่วยความจำ 3GB + 32GB รองรับ microSD Card สูงสุด 400GB
– ตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัด ถือจับถนัดมือ พกพาสะดวก ใส่กระเป๋ากางเกงได้แบบสบายๆ
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot คือสามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับ microSD Card ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น
– มีปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะได้แบบว่องไว
– รองรับทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปลดล็อกด้วยใบหน้า
– ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีชมพูพิงค์แซนด์เอาใจสาวๆ สายหวาน

ข้อสังเกต

–  ภายในกล่องบรรจุไม่แถมเคสกันรอยมาให้
–  หูฟังที่แถมมาให้เป็นแบบ Earbuds ลักษณะทรงกลม
– ใช้หน้าจอ TFT LCD ความละเอียด HD+ ขนาด 5.71 นิ้ว
–  บอดี้ลักษณะมันวาว อาจเกิดรอยขนแมว หรือรอยนิ้วมือได้ง่าย
– มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
– กล้องหลังคู่ความละเอียดน้อย

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

Samsung Galaxy A20
Honor 10 Lite
Vivo Y12
OPPO A5s
realme 3
Motorola G7 Power
Vivo Y91
Asus ZenFone Max (M2)
Huawei Y7 Pro 2019
Redmi Note 7

ขอขอบคุณ HMD Global

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng