รีวิว Nokia 3 รันระบบ Android 7.0 Nougat กล้องออโต้โฟกัส 8MP บอดี้แข็งแรงทนทาน ราคาไม่ถึง 5 พันบาท!

รีวิว Nokia 3 รันระบบ Android 7.0 Nougat กล้องออโต้โฟกัส 8MP บอดี้แข็งแรงทนทาน ราคาไม่ถึง 5 พันบาท!

Nokia 3

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่าน หลังจากที่ HMD Global บ้านใหม่ของแบรนด์สมาร์ทโฟน Nokia ได้ประกาศเปิดตัว Nokia 3, Nokia 5 และ Nokia 6 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายในงาน Thailand Mobile Expo 2017 ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ก็ได้เริ่มทยอยวางจำหน่ายแล้วผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ อาทิ Jaymart และ TG Fone เป็นต้น
Nokia 3
และในวันนี้ทาง ninethaiphone มีโอกาสได้ทดลองใช้งาน Nokia 3 สมาร์ทโฟนรันระบบปฏิบัติการ Pure Android รุ่นแรกจาก Nokia หลังจากห่างหายจากวงการไปนาน โดยมาพร้อมดีไซน์ทันสมัยงานประกอบแน่นหนา บอดี้แข็งแกร่งทนทาน ขอบด้านข้างผลิตจากเฟรมอลูมิเนียม ชิ้นส่วนด้านหลังผลิตจากวัสดุพอลีคาร์บอเนต สเปคการใช้งานครบครัน และอยู่ในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาจำหน่ายไม่เกิน 5,000 บาท พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปชมรีวิว Nokia 3 เครื่องนี้กันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปค Nokia 3

Features Nokia 3
วันเปิดตัว :  – พฤษภาคม 2560
ราคา :  – 4,850.- (ณ วันที่ 21 ก.ค. 60)
ระบบปฏิบัติการ :  – Android 7.0 Nougat
หน้าจอ :  – หน้าจอ IPS
 – ขนาด 5 นิ้ว
 – ความละเอียด 1280×720 พิกเซล (HD)
 – ขอบโค้ง 2.5D
 – กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass
 – Touchscreen
CPU :  – Mediatek MT6737 แบบ Quad Core ความเร็ว 1.3GHz
GPU :  –
RAM :  – 2GB
ความจำตัวเครื่อง :  – 16GB
 – microSD Card สูงสุด 128GB
กล้องหลัง :  – 8 ล้านพิกเซล
 – ค่ารูรับแสง f/2.0
 – LED flash
 – auto focus
กล้องหน้า :  – 8 ล้านพิกเซล
 – ค่ารูรับแสง f/2.0
 – เลนส์มุมกว้าง 84 องศา
 – auto focus
Video :  –
Battery :  – 2630mAh
ขนาด :  – 143.4×71.4×8.48 มม.
น้ำหนัก :  – N/A
รองรับซิม :  – dual SIM
ระบบกันน้ำ :  –
ระบบเครือข่าย :  – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
 – 3G : UMTS 5/8/2/1
 – 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n
 – Bluetooth 4.2
 – OTG
 – NFC
 – Micro USB 2.0
 – 3.5mm jack
GPS  – GPRS
 – A-GPS
 – GLONASS
Sensor :  – Accelerometer
 – Gyroscope
 – Ambient light
 – E-compass
 – Proximity
สี :  – ดำ (Matte Black)
 – เงิน (Silver)
 – น้ำเงินเข้ม (Tempered Blue)
 – ทอง (Copper)

แกะกล่อง Nokia 3

DSCF4821

สำหรับ Nokia 3 สมาร์ทโฟนน้องเล็กถูกบรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัด หน้ากล่องโดดเด่นด้วยหน้าจอสมาร์ทโฟนสีขาวสะดุดตา พร้อมรูปคนจับมือกันที่เปรียบเสมือนคอนเซ็ปต์ดั้งเดิมของแบรนด์ Nokia ในสโลแกน Connecting People เชื่อมต่อมนุษย์กับเทคโนโลยีมือถือสมาร์ทโฟนเข้าด้วยกันนั่นเอง

DSCF4824

ด้านหลังกล่องมีการระบุสเปคการใช้งานคร่าวๆ โดยระบุว่า Nokia 3 มาพร้อมขอบด้านข้างผลิตจากเฟรมอลูมิเนียม หน้าจอความละเอียด HD ขนาด 5 นิ้ว กล้องหลัง-หน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE ใช้ขุมพลัง Quad Core ใช้หน่วยความจำ RAM ขนาด 2GB ความจุ 16GB และรองรับ microSD Card พร้อมกับมีภาพตัวเครื่องสีขาวโชว์ดีไซน์ด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างอย่างชัดเจนค่ะ

DSCF4905

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– Nokia 3 ตัวเครื่องสีดำ
– เคสซิลิโคนแบบใส
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
– สายชาร์จ micro USB
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่

DSCF4898

สายชาร์จ micro USB ของ Nokia 3 สายสีดำหนาแข็งแรงทนทาน ขณะที่ Adapter มีขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก

ทำความรู้จัก Nokia 3

DSCF4810

ด้านหน้า Nokia 3 พร้อมหน้าจอแสดงผลโพลาไรซ์ลดแสงสะท้อนแบบ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD ขนาดจับกระชับพอดีมือ ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass ขอบโค้ง 2.5D

DSCF4876

ด้านหน้าส่วนบน Nokia 3 มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 84 องศา ค่ารูรับแสง f/2.0 มีออโต้โฟกัส, ลำโพงสนทนา, โลโก้แบรนด์ และเซ็นเซอร์ต่างๆ

DSCF4879

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบไปด้วย ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App ซึ่งเป็นปุ่มการใช้งานแบบสัมผัสที่ไม่มีไฟ Backlight แต่สามารถมองเห็นได้ชัดขณะใช้งานค่ะ

DSCF4818

ด้านหลัง Nokia 3 มีตัวเครื่องกะทัดรัดขนาด 143.4×71.4×8.48 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ชิ้นส่วนด้านหลังผลิตจากวัสดุพอลีคาร์บอเนตผิวเรียบด้าน ขอบด้านข้างผลิตจากเฟรมอลูมิเนียม กลมกลืนกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง งานประกอบแน่หนาดูแข็งแรงทนทาน มีตัวเลือกสีให้เลือกถึง 4 สี ได้แก่ สีดำ (Matte Black), สีเงิน (Silver), สีน้ำเงินเข้ม (Tempered Blue), สีทอง (Copper)

DSCF4893

ด้านหลังส่วนบน ประกอบไปด้วย เลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash ที่จัดวางในรูปแบบแนวตั้ง และโลโก้แบรนด์จะอยู่กึ่งกลางตัวเครื่อง

DSCF4886

ด้านหลังส่วนล่าง พบข้อความสกรีนฝาหลังระบุถึงรหัสโมเดลรุ่น การออกแบบดีไซน์ หรือสถานที่ผลิต เป็นต้น

DSCF4852

ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และรูไมค์โครโฟน

DSCF4837

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ลำโพงเสียง, ช่องเสียบ micro USB และรูไมค์โครโฟนตัวที่สอง

DSCF4858

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ช่องใส่ซิมการ์ด และช่องใส่ microSD Card ที่แยกกันอย่างชัดเจน

DSCF4859

สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด ได้พร้อมๆ กับการใช้งาน microSD Card

DSCF4843

ด้านขวาตัวเครื่อง จะมีปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง และรีเซ็ตเครื่องใหม่

DSCF4845

โดยปุ่มปรับระดับเสียงรวมถึงปุ่มพาวเวอร์เป็นขอบสีเงินดูตัดกับขอบเครื่องสีดำ

การแคปภาพหน้าจอ กดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ทางด้านขวาตัวเครื่อง

ทดสอบประสิทธิภาพ

1 2

Nokia 3 ที่มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek 6737 แบบ Quad core ความเร็ว 1.3Ghz เมื่อนำไปทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด มีคะแนนรวมอยู่ที่ 27264 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่ค่อนข้างน้อยอยู่พอสมควร แต่หากพูดถึงการใช้งานดาวน์โหลดต่างๆ ทำได้ดีไม่มีปัญหา ถึงแม้ว่าบางครั้งแอปฯ กล้องอาจจะยังหน่วงๆ อยู่บ้างเพียงเล็กน้อย

3 4 5

สเปคของ Nokia 3 ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุดระบุว่ามีรหัสรุ่นโมเดล TA-1032 รันระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat ชิปประมวลผล MT6737 จีพียู Mali-T720 หน้าจอความละเอียด HD กล้องหน้า-หลังความละเอียด 8MP สนับสนุน NFC เพื่อการแชร์ และรองรับเซ็นเซอร์ต่างๆ อีกมากมายค่ะ

ซอฟต์แวร์

1

หน้าจอ Lock screen ของ Nokia 3 สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน กดโทรฉุกเฉินได้ทันทีที่แตะไปที่ “เหตุฉุกเฉิน” และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการสไลด์มุมขวาขึ้น

2

ในส่วนของหน้า Lock screen จะมีการแจ้งเตือนต่างๆ ปรากกฏอย่างชัดเจน ขณะที่หน้า Home screen หลังจากที่เราทำการปลดล็อกเครื่องจะมีมาให้เพียงแค่หน้าเดียวดูโล่งตา

5

หน้า Home screen ที่ปรากฏพบแอปฯ Play Store และรวมแอปฯ การใช้งานของ Google ที่มีมาให้อย่างครบครันเข้าถึงง่าย

4

เมื่อสไลด์หน้า Home screen ขึ้นด้านบนจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปฯ การใช้งานทั้งหมดที่ติดมากับตัวเครื่องที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ และหากสไลด์หน้า Home screen ไปทางขวามือจะพาเข้าสู่ Google อย่างรวดเร็วค่ะ

เมื่อกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะพาเข้าสู่หน้าตั้งค่าภาพพื้นหลังวอลเปอร์ วิดเจ็ต และตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติม แต่หากต้องการย้ายตำแหน่งหรือลบแอปฯ ภายในเครื่อง ให้กดค้างไปที่ตัวแอปฯ แล้วเลื่อนไปยังพื้นที่ที่ต้องการ หรือลบด้วยการเลื่อนไปยังด้านบนตรงข้อความที่ระบุไว้ว่า “นำออก”

7 8

รวมเมนูการตั้งค่าภายในเครื่อง

Nokia 3 ถึงแม้ว่าจะมาพร้อมความจุแบตเตอรี่เพียงแค่ 2630mAh แต่การใช้งานจะมีโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ที่สามารถช่วยได้จริงมาให้ค่ะ

หากต้องการรีเซ็ตการตั้งค่าต่างๆ หรือสำรองข้อมูลภายในตัวเครื่องให้เข้าไปที่ การสำรองข้อมูลและการรีเซ็ต

หน้าแสดงหน่วยความจำทั้งหมดภายในเครื่อง

Nokia 3 จะรองรับ NFC เพื่อการแชร์ข้อมูลในระยะเวลาเพียงสั้นๆ และสามารถตั้งค่าแจ้งเตือนแอปฯ ได้อีกด้วย

การโทรสนทนา และข้อความ

13

เครื่องคิดเลข และปฏิทินสีสันสดใส

20

วิทยุ FM ที่ต้องเสียบหูฟังเพื่อใช้เป็นเสาสัญญาณ และนาฬิกา

ระบบแผนที่ GPS มีความแม่นยำ และผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์ได้เองอีกด้วย

แอปฯ Play เกมมีให้เลือกดาวน์โหลดมากมาย ส่วนทางด้านโน้ตข้อความที่มีมาให้สามารถจดโน้ตได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการวาด, การเขียน, การพูด หรือการเพิ่มรูปภาพค่ะ

นอกจากนี้ Nokia 3 สามารถตั้งค่าการใช้งานเคลื่อนที่ได้อีกด้วย ซึ่งมีทั้งการพลิกโทรศัพท์เพื่อการตัดสายโทรเข้า หรือปิดเสียงเมื่อหยิบอุปกรณ์ขึ้นมา

สำหรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการเป็นเวอร์ชั่นใหม่ๆ สามารถเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับอัปเดตได้ที่หน้า เกี่ยวกับโทรศัพท์ > การอัปเดตระบบ

ในส่วนนี้จะเป็นแอปฯ Duo การใช้งานโทรวิดีโอคอลแบบง่ายๆ แค่มีเบอร์โทรศัพท์ก็สามารถใช้งานได้ทันที

สำหรับการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของอุปกรณ์ Nokia 3 จะไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ มีแค่เพียงให้ตั้งค่ารหัสผ่าน, รูปแบบการวาดรหัส และใส่พินไอดีค่ะ

16

เมื่อกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะพาเข้าสู่หน้าเคลียร์แอปฯ ทั้งหมดที่ใช้งาน และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านตัวเครื่องจะเป็นการปิดหรือรีสตาร์ทเครื่องค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหลัง ซึ่งมีมาให้ใช้งานค่อนข้างน้อย Nokia 3 มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash และ Auto Focus มีให้เปิดใช้งาน HDR, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ และหากกดไปยัง 3 ขีดมุมซ้ายล่างจะพาเข้าสู่หน้าตั้งค่าการใช้งานกล้องถ่ายภาพทั้งหมดค่ะ

มีโหมดการใช้งานอยู่ 3 โหมด ได้แก่ ทัชอัพไม่มีให้ปรับระดับ, ถ่ายปกติ และพาโนรามา ซึ่งความละเอียดภาพถ่ายของกล้องหลัง-หน้าจะมีให้เลือกสูงสุดที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, 6 ล้านพิกเซล และ 5 ล้านพิกเซล

โหมดถ่ายวิดีโอ คุณภาพความละเอียดสูงสุดระดับ HD (1280×720 พิกเซล), VGA (640×480 พิกเซล) และ HVGA (480×320 พิกเซล) ถ่ายภาพ-วิดีโอซูมได้ 4 เท่า

ถัดมาในส่วนของกล้องหน้าเซลฟี่ก็มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีโหมดทัชอัพภาพมาให้แต่ไม่สามารถปรับระดับได้ และโหมดถ่ายภาพปกติ มีให้ตั้งค่า HDR และตั้งเวลาในการถ่ายภาพเหมือนกับกล้องหลัง

หน้า_2

กล้องหน้ารองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด HD เหมือนกับกล้องหลังเช่นเดียวกัน ในลำดับถัดไปเรามาชมเมนูตั้งค่าการใช้งานของกล้องถ่ายภาพกันเลยค่ะ

หลัง_2 หลัง_3 หลัง_4 หลัง_5 หลัง_6

กล้องสามารถตั้งค่าลายน้ำ, ตารางเส้น, เข็มทิศ, การควบคุมชัตเตอร์, เสียงชัตเตอร์, แท็กตำแหน่งที่ตั้ง, ขนาดของภาพถ่าย, เลือกคุณภาพวิดีโอ หรือรีเซ็ตการตั้งค่ากล้องทั้งหมดก็ได้ค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Nokia 3

IMG_20170715_164804 IMG_20170714_193440IMG_20170720_182750IMG_20170714_195032 IMG_20170714_195120 IMG_20170714_194917 IMG_20170714_194839 IMG_20170714_164911 IMG_20170714_164951 IMG_20170714_165055 IMG_20170714_165223 IMG_20170714_165137

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Nokia 3

IMG_20170715_121135

สำหรับกล้องหน้าของ Nokia 3 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเท่ากับกล้องหลัง มาพร้อม Auto Focus ค่ารูรับแสง f/2.0 เลนส์มุมกว้าง 84 องศา มีโหมดทัชอัพผิวแต่เครื่องที่ทดลองใช้งานนั้นจะไม่สามารถปรับระดับได้ (เลยไม่มั่นใจว่าจริงๆ แล้วสามารถปรับระดับได้หรือไม่) ขณะที่ Nokia 5 และ Nokia 6 ทัชอัพผิวจะปรับระดับได้มากถึง 20 ระดับ จากภาพถ่ายที่ได้จากกล้องหน้าของ Nokia 3 ได้ภาพที่คมชัดสว่างดี แต่ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ค่ะ

จุดเด่น

– หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ทัชสกรีนลื่นไหล
– ป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass ขอบโค้ง 2.5D
– ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
– ชิปเซ็ต Mediatek MT6737 แบบ Quad Core ความเร็ว 1.3GHz ใช้งานได้ดีในระดับนึง ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น
– หน่วยความจำ RAM 2GB จับคู่ ROM 16GB
– รองรับ microSD Card สูงสุด 128GB
– กล้องหลัง 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม LED flash, auto focus
– กล้องเซลฟี่ 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 เลนส์มุมกว่าง 84 องศา พร้อม auto focus
– แบตเตอรี่ความจุ 2630mAh
– ขนาดตัวเครื่องน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ใส่กระเป๋ากางเกงได้แบบสบายๆ ดีไซน์สวยทันสมัย
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ถาดใส่ซิมแยกคนละส่วนกับช่องใส่ microSD Card
– สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE
– รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.2, NFC, Micro USB 2.0, NFC, 3.5mm jack, GPRS
– ฝาหลังผลิตจากวัสดุพอลีคาร์บอเนต ขอบด้านข้างเฟรมอลูมิเนียม งานประกอบแน่นหนาไร้ที่ติ
– เซ็นเซอร์ Gyroscope, Accelerometer, Ambient light, E-compass, Proximity
– ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ (Matte Black), สีเงิน (Silver), สีน้ำเงินเข้ม (Tempered Blue), สีทอง (Copper)
– เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มราคาไม่เกิน 5,000 บาท

ข้อสังเกต

– ลำโพงเดี่ยว
– ไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– แบตเตอรี่ความจุน้อย
– กล้องหน้าเซลฟี่ทัชอัพไม่มีให้เลือกปรับระดับตั้งค่าผิวเนียน
– กล้องหลังยังปรับโฟกัสได้ช้า ถ่ายออกมาได้ชัดแต่ไม่ทำให้ว้าวได้ โหมดการใช้งานกล้องมีมาให้น้อย

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

Asus ZenFone Live
Nubia N1 lite
Huawei Y6II
Wiko Upulse
i-mobile Y1
Lenovo A7700
OPPO A37
Wiko U feel LITE

ขอขอบคุณ HMD Global