รีวิว Microsoft Surface Pro 4 แท็บเล็ตพร้อมปากกา ทางเลือกที่ดีกว่าโน้ตบุ๊ก
จัดว่าการรีวิวในครั้งนี้ของ 9ThaiPhone เป็นการรีวิวอุปกรณ์ที่มีราคาสูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งเว็บไซต์นี้ขึ้นมา เพราะ Microsoft Surface Pro 4 / 256GB / 8GB / Intel Core i5 เครื่องที่เห็นในภาพ พร้อมปากกาอัจฉริยะที่เรียกว่า Surface Pen จำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคาเปิดตัว 49,900 บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมอุปกรณ์เสริมอย่าง Type Keyboard และ Bluetooth Mouse ซึ่งก็มีโปรโมชั่นส่วนลดอยู่แล้วเมื่อซื้อพร้อมกันกับ Surface Pro 4 โปรดสอบถามราคาจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั้ง IT City, Banana IT และ Power Buy และมีโปรโมชั่นส่วนลดสำหรับนักศึกษาให้อีกด้วย เฉพาะในรุ่นที่ร่วมรายการ ราคาอาจจะรู้สึกว่าสูง แต่ประสิทธิภาพก็สูงมากเช่นกัน และผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็มักจะเปรียบเทียบกับ Surface รุ่นก่อนหน้านี้ รวมทั้งคู่แข่งอย่าง Apple MacBook Pro รุ่นหน้าจอ Retina Display 13″ และ New MacBook 12″ ซึ่งมีระดับราคาใกล้เคียงกัน
สเปคสำหรับรุ่น Microsoft Surface Pro 4 / 256GB / 8GB / Intel Core i5
- มาพร้อมกับ Windows 10 Pro และ Office แบบทดลองใช้ 30 วัน
- ตัวเครื่องผลิตด้วย Magnesium สี Silver
- มีปุ่ม Volume และ Power ที่เป็นปุ่มจริง อยู่ที่ขอบด้านบน
- ขนาด 292.10 x 201.42 x 8.45 mm น้ำหนักเบาเพียง 786 g
- Solid State Drive (SSD) ความจุ 256GB
- หน้าจอ PixelSense ขนาด 12.3″ ความละเอียด 2736 x 1824 พิกเซล (267 PPI) สัดส่วน 3:2 มัลติทัช 10 จุด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมงจากการทดสอบเล่นวิดีโอต่อเนื่อง
- 6th Gen Intel Core i5 CPU รุ่นใหม่ล่าสุด ทรงพลัง กินไฟต่ำ ความร้อนน้อย
- สำหรับรุ่นที่ใช้ i5 มีชิปกราฟิก Intel HD graphics 520
- มี TPM chip ตรวจสอบความปลอดภัยขั้นสูงสำหรับองค์กร ป้องกันการโจรกรรม
- 8GB RAM
- รองรับ 802.11ac Wi-Fi และ 802.11a/b/g/n
- Bluetooth 4.0
- Port ที่มีให้ ได้แก่ Full-size USB 3.0, microSD Card reader, Headset jack, Mini DisplayPort, Cover port, Surface Connect
- กล้องหน้า 5.0 ล้านพิกเซล มีระบบตรวจจับใบหน้า
- กล้องหลัง 8.0 ล้านพิกเซล มีระบบตรวจจับใบหน้า ออโต้โฟกัส บันทึกวิดีโอความละเอียด 1080p HD
- ไมโครโฟนสเตอริโอ และลำโพงสเตอริโอ พร้อมระบบ Dolby Audio
- มี Ambient light sensor, Accelerometer, Gyroscope, Magnetometer
- รับประกัน 1 ปี
- มีปากกา Surface Pen แถมให้ในกล่อง
- คีย์บอร์ดจำหน่ายแยก ให้ลูกค้าเลือกสีและรูปแบบได้เองตามต้องการ
สำหรับ Surface Pro 4 รุ่นย่อยอื่น จะมีสเปคและราคาที่แตกต่างกันไป โปรดศึกษาเพิ่มเติมจาก Catalog หรือป้าย ณ จุดขาย
ยลโฉมดีไซน์
แกะกล่องออกมา จะพบกับตัวเครื่อง Surface Pro 4 อยู่ในห่อพลาสติกหุ้มอย่างดี มีปากกาและคู่มือแนะนำการเริ่มใช้งานเบื้องต้นมาให้ในกล่อง
AC Charger เป็นปลั๊กแบบขากลม พร้อมขั้วชาร์จแบบแม่เหล็ก ใครมาเดินเตะสายในขณะชาร์จ ตัวเครื่องก็ไม่หล่นตามแรงดึงกระชากของสายชาร์จ พร้อมไฟ LED สีขาวสว่างขึ้นเมื่อเสียบปลั๊ก
คีย์บอร์ดแบบ Type Cover เป็นอุปกรณ์เสริมที่จำหน่ายแยก มีให้เลือกหลายสี เป็นปกปิดหน้าจอในตัว
โลโก้ Windows ด้านหลังเครื่อง เงางามแบบกระจก เป็นรอยขีดข่วนได้ยาก
ปากกา Surface Pen เป็นแบบแม่เหล็ก สามารถติดกับขอบตัวเครื่องด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ แนะนำให้หันหัวปากกาชี้ขึ้นจะดีกว่าชี้ลงแบบในภาพ เพราะหัวปากกาอาจจะกระแทกพื้นโต๊ะจนสึกเร็วได้
ลองถือออกมาใช้งานที่ศูนย์อาหารหรือร้านกาแฟภายนอกสตูดิโอกันบ้าง ชาร์จไฟให้เต็ม 100% ไม่ต้องพกพา AC Charger ออกมาด้วย ถือมาแค่ Surface Pro 4 กับ Surface Pen ก็พอใช้งานได้แล้ว อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานเพียงพอสำหรับทั้งวัน (7-8 ชั่วโมง)
ตัวเครื่อง มีขนาดบาง น้ำหนักเบา ถือพกพาได้สะดวก ไม่ลื่นมือ ปากกาก็เหน็บไว้กับกระเป๋าเสื้อก็ได้
เปิดเครื่อง ใช้เวลาเพียง 2-3 วินาที ถ้า Standby ไว้ ก็ใส่รหัสผ่านพร้อมใช้งานได้ทันทีอย่างรวดเร็วด้วย SSD ที่ทำงานได้เร็ว ทนทาน ประหยัดไฟกว่า HDD จานหมุน
หน้าจอ PixelSense ขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียดสูงมากถึง 2736 x 1824 พิกเซล ภาพและตัวอักษรบนจอ จึงคมกริบ ชัดสะใจ แสดงสีสันได้สวยงามยอดเยี่ยมกว่า Windows Tablet ยี่ห้ออื่นในตลาด ไม่มีปัญหาแสงเงาสะท้อน สีดำที่ดำสนิท สว่างสู้แสงภายนอกได้ มุมมองกว้าง เป็นจอ IPS ที่คุณภาพสูงมากเป็นพิเศษ
ถือใช้งานในแนวนอนหรือแนวตั้งก็ได้ ไม่ค่อยรู้สึกว่าหนักเกินไป แต่ไม่เหมาะกับการถือบรรยายบนเวที เพราะใหญ่และถือนาน ๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าหนักได้เหมือนกัน
คีย์บอร์ดบนหน้าจอ ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ คล้ายกับบนสมาร์ทโฟน Microsoft Lumia ก็ถือว่าพอใช้งานได้ มีความแม่นยำดี แต่ถ้าพิมพ์เยอะ ใช้คีย์บอร์ดภายนอกสะดวกกว่า คีย์บอร์ดไร้สายแบบพับได้ก็ยิ่งสะดวก
ด้านหลัง เป็นสีเงิน ผิวด้าน มองไม่เห็นคราบมัน คราบเหงื่อ รอยนิ้วมือ
กล้องหลัง และไมโครโฟนคู่ อยู่ที่ตรงกลางใกล้ขอบด้านบน
ขีด ๆ เหมือนเส้นประ เหนือกล้อง บริเวณสันขอบเครื่อง เป็นทั้งช่องระบายความร้อนและมีลำโพงซ่อนอยู่
แม่เหล็กที่ปากกาและขอบตัวเครื่อง มีแรงดูดที่แรงกำลังดี แต่ก็ต้องระวังปากกาหล่นในขณะเดินถือ จึงควรเหน็บไว้กับตัวดีกว่า
ช่องต่อหูฟัง
ปุ่ม Power และ Volume
Port ที่อยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่ง ได้แก่ Full-size USB 3.0, microSD Card reader, Mini DisplayPort และช่องชาร์จไฟ
กลไกบานพับขาตั้ง แข็งแรง ทนทาน ไม่มีหลวม วางได้อย่างมั่นคงดีมาก
ปรับระดับการเอนได้หลายระดับตามต้องการ ไม่ล้มแน่นอน จุดถ่วงน้ำหนักดี
เชื่อมต่อ Surface Type Keyboard ด้วยแม่เหล็กแรงดูดพลังสูง แน่นดี
ปรับยกคีย์บอร์ดให้ลาดเอียงได้ตามความถนัด
แป้นคีย์บอร์ดแบบบาง มีไฟในตัว ไม่ต้องกดแรง พิมพ์เบา ๆ นุ่ม ๆ สบายมือ
แป้นพิมพ์แบบใหม่ เว้นระยะระหว่างปุ่มให้แยกห่างกันมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ไว้เล็บยาว แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าแป้นพิมพ์แบบเก่าสมัย Surface 3 จะพิมพ์ได้ถนัดกว่า เพราะแป้นใหญ่มาก พิมพ์ได้ถูกต้องแม่นยำและรวดเร็วกว่า โดยทุกแป้นพิมพ์จะชิดติดกันเกือบสนิท
ในขณะพกพา ก็พับคีย์บอร์ดเป็นฝาปิดเพื่อปกป้องหน้าจอจากการชนหรือกระแทกกับสิ่งของ ผิวสัมผัสภายนอกให้ความรู้สึกคล้ายกับหนังกลับหรือเบาะในรถยนต์ Sub-compact บางรุ่น
เพิ่มความสะดวกในการใช้งานธุรกิจยิ่งขึ้น อาจจะพก Bluetooth Mouse เพิ่มอีกตัว
แม้ว่าจอภาพมีความละเอียดสูงมาก สูงกว่าระดับ Full HD ไปเยอะ แต่ตัวอักษรบนจอภาพ ก็ปรับขนาดให้เหมาะสม อ่านง่าย สบายตาด้วยความคมชัด ตัวอักษรไม่ค่อยเห็นขอบรอยหยัก
ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม มีผลดีต่อสายตา สีสันที่มองเห็น และมีผลต่อการกินไฟด้วย
ทำงานได้ครบทุกฟังก์ชั่นเหมือนคอมพิวเตอร์ มี Microsoft Office ให้ทดลองใช้ 30 วัน จากการทดสอบใช้งาน Office 2016 หรือ Office 365 ก็ตอบสนองได้รวดเร็ว ลื่นไหล ได้ User Experience ที่ดี
ขนาดของคีย์บอร์ด หน้าจอ และปากกา ถือว่าเหมาะสมกำลังดีกับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่รู้สึกว่าย่อขนาดจนเล็กเกินไป ปากกาก็ใหญ่กว่ารุ่นแรก ๆ จับได้ถนัด กระชับมือ วาดเขียนสะดวก น้ำหนักกำลังดี
ไฮไลท์ข้อความบนเอกสาร Word ได้สะดวกกว่าใช้เม้าส์
ทดลองใช้ปากกากับ OneNote เพื่อจด และโปรแกรมวาดภาพอื่น ๆ รู้สึกได้ถึงความอัจฉริยะของปากกาที่รับรู้แรงกดถึง 1024 ระดับ ทำให้วาดเขียนหรือสเกตช์ภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความหนาของเส้น ขึ้นอยู่กับแรงกดของปากกา เปรียบเสมือนเรากำลังใช้ดินสอ ปากกา พู่กัน ปากกาเน้นข้อความหัวตัด ปากกาเมจิกหัวใหญ่ ปากกาคอแร้ง
ทดสอบประสิทธิภาพ
จากกราฟทดสอบ จะเห็นได้ว่า Microsoft Surface Pro 4 ทำคะแนนได้ดีเยี่ยมกว่า Notebook ทั่วไปที่อยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกัน และมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Apple Macbook Pro 13″ with Retina Display
ทดสอบเล่นเกม 3D ที่หลายคนคุ้นเคยดีอยู่แล้วกับ Need for Speed ภาค Most Wanted ก็ยิ่งสร้างความประทับใจได้อย่างน่าทึ่งบนจอภาพที่คมกริบของ Surface Pro 4 รายละเอียดของภาพ 3D ในเกม ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงามสมจริง ตอบสนองลื่นไหลดีมาก บวกกับเสียงที่ออกมาจากลำโพงสเตอริโอ เป็นเสียงที่ชัดใส ก้องกังวาน ดังเกินคาด มีมิติโอบล้อมดีอย่างไม่น่าเชื่อว่า Tablet ขนาดบางแบบนี้จะทำได้ดีกว่า Notebook หลายเท่า ส่วนการเล่นวิดีโอ ภาพยนตร์ และ Youtube แบบเต็มจอ เลือกความละเอียดเป็น Full HD หรือ 4K ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงชั้นเยี่ยมที่ทุกคนต้องประทับใจเช่นกัน
บทสรุป จากทดสอบการใช้งานจริง
ทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า Surface Pro 4 มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม น้ำหนักเบา แบตเตอรี่ใช้ได้นาน พกพาไปทำงานเอกสารนอกสถานที่ จดโน้ตในห้องเรียน วาดภาพ แต่งเพลงได้สะดวกทุกที่เหมือน Notebook / Laptop ยิ่งปัจจุบันในร้านกาแฟส่วนใหญ่ก็มีบริการ Free Wi-Fi พร้อมปลั๊กไฟ เอื้อกับการทำงานนอกสถานที่จริง ๆ
ถ้าต้องการคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง หน้าจอคุณภาพเยี่ยม พกพาสะดวก เน้นใช้งานนอกสถานที่โดยไม่ต้องหาปลั๊กไฟเสียบชาร์จตลอดเวลา อยากได้ความเป็นที่สุดในทุกด้าน ด้วยงบประมาณที่คุ้มค่าในระยะยาว ถือว่า Surface Pro 4 ตอบโจทย์ครบทุกด้านจริง ๆ เป็น Tablet ที่บางเบาแต่ใช้งานได้เหมือน Laptop อย่างไม่มีข้อจำกัด
จุดที่ประทับใจ
- หน้าจอสวยมาก ไร้ที่ติ มองมุมไหน ก็สีสันสวยสดใส ไม่มีปัญหาแสงเงาสะท้อนรบกวนสายตา
- ระบบสัมผัสหน้าจอดี ป้องกันรอยขีดข่วนจากปลายปากกา Surface Pen แล้ว
- ปลายปากกา Surface Pen ถอดเปลี่ยนได้ หัวปากกาเป็นยางลบบนจอภาพได้ เลียนแบบดินสอไม้
- ปากกา Surface Pen เหน็บกระเป๋าได้แน่น ไม่หลุดง่าย
- การวาดขีดเขียนด้วยปากกา Surface Pen ตอบสนองได้รวดเร็วดี เส้นบนจอวิ่งตามปากกาได้ทัน
- รองรับแรงกด 1,024 ระดับ ทำให้รู้สึกได้ถึงความสมจริงของลายเส้น
- หน้าจอไม่ร้อนง่ายอย่างที่เคยรู้สึกได้ใน Surface รุ่นเก่าอีกแล้ว
- ตัวเครื่องมีความร้อนน้อย แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุงสุด 7-8 ชั่วโมงจริง ๆ
- ลำโพงเสียงดี ไม่ใช่แค่ดัง แต่เสียงนุ่มและมีมิติเสียงดี แยกซ้ายขวาชัดเจน กังวานโอบล้อม
- ตัวเครื่อง ทำความสะอาดได้ง่าย
- จดจำใบหน้าและสายตาของเจ้าของเครื่องได้แม่นยำ ปลดล็อคแทนการใช้รหัสผ่านอย่างได้ผล
- ใช้ CPU รุ่นใหม่ Intel เจนเนอเรชั่นที่ 6 ประสิทธิภาพดีและประหยัดไฟยิ่งขึ้น
- ทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพราะใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งได้ทุกโปรแกรม มี Microsoft Office แบบเดียวกับบนคอมพิวเตอร์ เหนือชั้นกว่า Tablet อื่นที่ทำงานบนแอปพลิเคชั่น ไม่ใช่โปรแกรม Exe
- ปรับขนาดหน้าต่างได้อิสระ และทำงานได้หลายอย่างพร้อมกัน ต่างจาก Tablet อื่นที่มีข้อจำกัดมากมาย
- ขาตั้ง Kick Stand ทนทาน ปรับระดับได้กว้างมาก ปรับหลบเลี่ยงมุมที่สะท้อนแสงรบกวนสายตาได้
- เชื่อมต่อจอภาพภายนอกหรือ Projector ได้ เหมาะกับงานนำเสนอหรือต่อออกทีวีเพื่อรับชมวิดีโอ
- ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานธุรกิจและความบันเทิงส่วนตัวด้วยขีดสุดของประสิทธิภาพ
ข้อสังเกต
- หากมีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก หรือเร่งความสว่างหน้าจอมากขึ้น จะทำให้แบตเตอรี่ลดค่อนข้างไว
- สำหรับการใช้งานนอกสถานที่ทั้งวัน หากคิดคร่าว ๆ ว่าเท่ากับช่วงเวลาทำงานออฟฟิศ ต้องชาร์จไฟระหว่างวันแน่นอน
- หากเทียบกับ Windows Tablet ราคาถูกทั่วไป ถือว่า Surface Pro 4 มีน้ำหนักมากกว่าพอสมควร
- ต้องระวังปากกาหล่นหายในขณะพกพาหรือเดินถือไปใช้งานนอกสถานที่
- ปากกา Surface Pen มีราคาสูง
- คีย์บอร์ดที่จำหน่ายเป็นอุปกรณ์เสริม มีราคาแพง แต่ก็มีความจำเป็นต้องซื้อเพิ่มแน่นอน
- ราคาสูงตามประสิทธิภาพเมื่อเปรียบเทียบกับ Notebook
- ตัวอักษรที่ปรากฎบนหน้าจอในขณะทำงานเอกสารหรือเปิดเว็บ ยังดูขัดตา ไม่สวยงามเท่า Mac OS
ตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจในระดับราคาเดียวกัน
- Apple MacBook Pro 13″ with Retina Display
- Apple MacBook 12″
- Dell XPS13
- Apple iPad Pro
Leave a Reply