รีวิว i-mobile IQ Z Pro ปรับโฟกัส หน้าชัดหลังเบลอ ด้วยกล้องคู่ระดับโปร

รีวิว i-mobile IQ Z Pro ปรับโฟกัส หน้าชัดหลังเบลอ ด้วยกล้องคู่ระดับโปร

review_imobile_iqzpro_DSC02146

i-mobile IQ Z Pro สมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Samart ไอ-โมบาย เปิดตัวด้วยราคา 11,900 บาท  เมื่อเห็นราคา อาจจะรู้สึกว่าแพง แต่แรงด้วยสเปคและลูกเล่นแบบจัดเต็ม  โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่สุดอึดและกล้องหลังคู่ที่สามารถทำ Refocus ได้  และยังคงมี DTV ในตัว อันเป็นจุดเด่นของ i-mobile

 

สเปคแบบละเอียดของ i-mobile IQ Z Pro

  • ขนาดของตัวเครื่อง 154 x 76.6 x 7.3 มม. น้ำหนัก 160 กรัม
  • ระบบปฏิบัติการตัวเครื่อง Android 5.1
  • รองรับ microSD card สูงสุด 64GB
  • รองรับการใช้งานแบบ 2 SIM
  • 2G: 900/1800 MHz
  • 3G: 850/900/2100 MHz
  • 4G LTE : 850/900/1800/2100 MHz ครบทุกคลื่นความถี่ในไทย
  • 3G: HSDPA (Mbps) 42 Mbps / HSUPA (Mbps) 11.2 Mbps
  • 4G: HSDPA (Mbps) 150 Mbps / HSUPA (Mbps) 50 Mbps
  • เยอะจุใจด้วย ROM 32GB และ RAM 3GB
  • ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว  ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD)
  • หน้าจอชนิด AMOLED ให้สีสันที่สดใสจัดจ้านและสว่างมาก
  • Dual Camera ที่ความละเอียด 13MP
  • กล้องหลังชนิด BSI 18MP รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมแฟลช LED และ Auto Focus
  • กล้องหน้า 8MP แบบ Fixed Focus รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมแฟลช LED
  • ฟังก์ชั่น Dual Camera สามารถปรับโฟกัส และปรับสีพื้นหลังได้หลังจากถ่ายรูป
  • Bluetooth 4.0
  • DTV Tuner ในตัว โดยใช้เสาอากาศแบบถอดได้จากช่องเสียบหูฟัง
  • แบตเตอรี่ความจุสูง 3500mAh

review_imobile_iqzpro_DSC02178

อย่างไรก็ตาม ด้านหลังกล่องมีบอกสเปค เพื่อให้เปรียบเทียบตัดสินใจซื้อได้ทันที ณ จุดขาย  ป้องกันปัญหาความเข้าใจผิดหรือพนักงานขายบอกรายละเอียดผิดไป

สำหรับลูกเล่นของกล้องหลังคู่ที่ผู้อ่านบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ ว่าดีกว่ากล้องเดี่ยวอย่างไร ลองชมวิดีโอ TVC ข้างล่างนี้กันก่อน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของกล้องคู่ที่เข้ามาช่วยให้การโฟกัสที่ความลึกหลายระดับของมิติภาพทำได้ดีขึ้น  คือ กล้อง 13MP ตัวหลักทำหน้าที่เก็บภาพ และ 2MP อีกตัวช่วยวัดระยะชัดตื้นถึงชัดลึก จากระยะใกล้ถึงไกลไว้ทั้งหมด เพื่อให้เราสามารถเลือกจุดโฟกัสอีกครั้งในภายหลังได้นั่นเอง

 

แกะกล่องยลโฉมดีไซน์

review_imobile_iqzpro_DSC02155

ในคลิปโฆษณาข้างต้นนั้น เป็น i-mobile IQ Z Pro สีขาวขอบตัวเครื่องสีทอง  แต่เครื่องที่นำมารีวิวในครั้งนี้เป็นสีดำ ขอบตัวเครื่องสีเทา

review_imobile_iqzpro_DSC02173

อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง ครบครันตามสไตล์ i-mobile ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม ได้แก่

  • สาย USB และที่ชาร์จ
  • หูฟังแบบ Earbud
  • คู่มือ
  • ฟิล์มกันรอยหน้าจอ
  • เคสโทรศัพท์แบบพลาสติกใส
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • เสาอากาศ DTV
  • ขาตั้งดูทีวี

review_imobile_iqzpro_DSC02174

ที่ชาร์จเป็นแบบปลั๊กขาแบน จ่ายกระแสได้สูง ชาร์จไฟได้เร็วกว่า i-mobile รุ่นก่อน ๆ  ส่วนสาย USB เปลี่ยนจากสายแบนมาเป็นสายกลมที่ดูมีคุณภาพดีขึ้น

review_imobile_iqzpro_DSC02175

หูฟังเหมาะสำหรับโทรสนทนามากกว่าฟังเพลง

review_imobile_iqzpro_DSC02176

ฟิล์มและเคส พร้อมใช้ คุณภาพถือว่าดีใช้ได้เลย

review_imobile_iqzpro_DSC02177

คู่มือแนะนำการใช้งาน เปลี่ยนจากหนังสือเล่มหนา ๆ ที่ไม่ค่อยมีอ่านกัน มาเป็นแผ่นพับไม่กี่สิบหน้า คัดมาเฉพาะส่วนสำคัญ ๆ ที่ผู้ใช้มือใหม่ต้องรู้  สำหรับแฟน ๆ i-mobile ที่ติดตามกันมาหลายรุ่น น่าจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่ยังคงไว้ซึ่งความครบครันเช่นเดิม

review_imobile_iqzpro_DSC02143

review_imobile_iqzpro_DSC02146

review_imobile_iqzpro_DSC02148

review_imobile_iqzpro_DSC02151

ความรู้สึกแรกเมื่อได้สัมผัส หน้าจอใหญ่เต็มตาดีมาก ตัวเครื่องขนาดใหญ่ แต่ไม่หนาเกินไป ยังพกพาสะดวก แม้ว่าแบตเตอรี่ที่ให้มาจะมากถึง 3500mAh ก็ยังคงความบางของตัวเครื่องได้อย่างน่าพอใจ  หน้าจอให้ภาพที่สว่างมาก สีสันจัดจ้าน คมชัดกว่า i-mobile เกือบทุกรุ่นที่เคยรีวิวมาก่อน  ด้านหลังเป็นกระจกสีดำดูสวยงามดี คล้ายกับ Sony Xperia Z ในอดีตที่เมื่อสะท้อนแสงแล้วจะเห็นเป็นกระจกดำแกมน้ำเงินเข้ม ได้อารมณ์ประมาณนั้น  งานประกอบที่ดูดีสมราคา ขอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมสีเทา จับได้ถนัดดี ไม่ลื่นมือ  โดยรวมถือว่าน่าประทับใจดี

review_imobile_iqzpro_DSC02156

review_imobile_iqzpro_DSC02172

มุมบนซ้ายของด้านหน้าตัวเครื่อง เป็นไฟแฟลชสำหรับถ่าย Selfie  ส่วนมุมบนขวาเป็นกล้องหน้า อยู่ห่างกันแบบนี้ ทำให้แสงไฟไม่เข้าตาในมุมตรง

review_imobile_iqzpro_DSC02157

ปุ่ม Volume และ Power อยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านขวา  โดยใต้ปุ่มกด Power มีไฟ LED 3 สีแจ้งเตือนสถานะได้ด้วย สวยงามดี

review_imobile_iqzpro_DSC02158

ถาดใส่ซิมการ์ดและ microSD card อยู่ทางด้านซ้าย รวมเป็นถาดเดียวกัน

review_imobile_iqzpro_DSC02160

ช่องลำโพง ไมโครโฟน และพอร์ต USB แบบคว่ำ รวมอยู่ที่ขอบด้านล่างของตัวเครื่อง

review_imobile_iqzpro_DSC02162

review_imobile_iqzpro_DSC02163

review_imobile_iqzpro_DSC02164

ด้านหลังเป็นกระจกสีดำ สวยหรู เงางาม แต่ต้องเช็ดบ่อย เพราะเห็นคราบมันจากนิ้วมือได้ง่าย

review_imobile_iqzpro_DSC02165

review_imobile_iqzpro_DSC02167

กล้องคู่ มีไฟแฟลช LED คั่นกลางไว้ อยู่ในตำแหน่งตรงกลาง ดูมีความสมมาตรดี ในขณะที่แบรนด์อื่น จะวางกล้องไว้ชิดขอบมุมบนซ้าย

review_imobile_iqzpro_DSC02170

review_imobile_iqzpro_DSC02159

ขอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมตัดขอบทำมุมเฉียง ทำให้สะท้อนแสงดูเงางามและหรูหรา  ดีไซน์โดยรวมถือว่าสวยงามดี และบางเบากว่าที่คาดไว้ ทั้งที่มีแบตเตอรี่ความจุสูง 3500mAh อยู่ภายใน  สำหรับเหตุผลที่ใช้ภาพพื้นหลังสีดำ เพื่อให้ดูกลมกลืนไปกับสีตัวเครื่องที่เป็นกระจกดำ และยังช่วยประหยัดพลังงาน ยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้เกิน 1 วันได้จริง ๆ

 

ทดสอบประสิทธิภาพ

Screenshot_2016-01-17-17-50-55 Screenshot_2016-01-17-17-51-02 Screenshot_2016-01-17-17-51-13 Screenshot_2016-01-17-17-51-34

ด้วยพลังของ CPU แบบ Octa-core และ RAM ที่มากถึง 3GB  ส่งผลทำให้คะแนนทดสอบในด้าน UX และ CPU ทำได้ดี คะแนนรวมถึง 34235  การประมวลผลรวดเร็วก็ทำให้การใช้งานเร็วลื่น

Screenshot_2016-01-17-18-45-40

ถึงแม้ว่าคะแนน 3D ทำได้น้อย แต่ก็ยังเล่นเกมได้เร็วลื่น ตอบสนองไว ไม่กระตุก ภาพสวยงาม ทดสอบด้วยเกม Asphalt ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี ได้อรรถรสในการเล่นเกมที่สนุกดีทีเดียว จอใหญ่ สีสวยสดใสแบบนี้ ในเรื่องความร้อนขณะเล่นเกม ถือว่าน้อยมาก ๆ แบตเตอรี่ลดลงช้าอีกด้วย เล่นได้ยาวนาน

 

ซอฟต์แวร์

Screenshot_2016-01-17-17-52-20 Screenshot_2016-01-17-17-52-25

i-mobile IQ Z Pro ล็อตล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ มาพร้อมกับ Android 5.1.1  เปิดเครื่องครั้งแรกก็ประทับใจในความเก๋  คือหน้าจอ Locked screen ใช้วิธีเบลอภาพของหน้าจอที่เปิดใช้งานค้างอยู่ล่าสุด  สมมุติว่าเรากำลังแชท LINE อยู่ เมื่อกดปุ่ม Power หน้าจอก็จะดับลง  เมื่อเปิดขึ้นมา ก็จะเห็นเป็นหน้าแชท LINE นั้นเบลอ ๆ เมื่อปลดล็อค จะใช้งานต่อได้ ภาพเบลอที่ถูกล็อคไว้ก็หายไป เป็นอะไรที่ดูเก๋ดีจริง ๆ

Screenshot_2016-01-17-17-52-39 Screenshot_2016-01-17-17-53-20

Quick Settings และ App Drawer ก็ตามมาตรฐาน Android รุ่นใหม่ ใช้งานง่ายมากขึ้น

Screenshot_2016-01-17-17-54-36 Screenshot_2016-01-17-17-55-04

ปุ่มกดโทรศัพท์และสมุดโทรศัพท์ มีขนาดใหญ่ เห็นได้ชัด พร้อมโชว์รูปภาพของรายชื่อที่บันทึกไว้ มีระบบเดาหมายเลขหรือรายชื่อของคนที่เรากำลังจะโทรหา

Screenshot_2016-01-17-17-55-50 Screenshot_2016-01-17-17-56-05 Screenshot_2016-01-17-17-56-09 Screenshot_2016-01-17-17-56-17

เมนูการตั้งค่าหลักของตัวเครื่อง เรียงลงมายาวเหยียด แต่ค้นหาได้ง่าย ไม่สับสน ไม่ซับซ้อน

Screenshot_2016-01-17-17-57-29 Screenshot_2016-01-17-17-58-13

ตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องอัตโนมัติได้ ตั้งค่าปุ่มได้หลากหลาย เช่น กด Home แช่ไว้ คือการล็อคหน้าจอ

Screenshot_2016-01-17-17-58-25 Screenshot_2016-01-17-17-58-54

ปรับรูปแบบและขนาดตัวอักษรได้  |  เหลือพื้นที่ใช้งาน ROM อีก 20GB ไม่จำเป็นต้องใส่ microSD ก็ได้

Screenshot_2016-01-17-18-00-54

บางคนชินกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นที่ปุ่ม Back อยู่ด้านขวา ก็ปรับเปลี่ยนได้

Screenshot_2016-01-17-18-01-32 Screenshot_2016-01-17-18-01-46

มาดูในส่วนของกล้องกันบ้าง วงโฟกัสเป็นสีเขียว หากจะใช้ Dual Camera ต้องเปลี่ยนโหมดไปที่กล้องคู่ นอกจากนี้ก็มีโหมด Panorama ตามมาตรฐานทั่วไป

Screenshot_2016-01-17-18-02-10 Screenshot_2016-01-17-18-02-22

เลือก Effect สีได้หลายแบบ และ Scene ถ่ายภาพได้อีกหลายแบบ แต่ส่วนใหญ่ก็เลือกเป็น Auto ไว้

Screenshot_2016-01-17-18-02-46 Screenshot_2016-01-17-18-03-33

การตั้งค่า ถือว่าละเอียดมาก สมกับคำว่ากล้องระดับโปร ตามที่ i-mobile โฆษณาไว้จริง ๆ

Screenshot_2016-01-17-18-03-59 Screenshot_2016-01-18-00-57-47

มาทดสอบกล้องคู่กันหน่อย ด้วยการถ่ายภาพไก่ทอดจานนี้ บันทึกภาพเรียบร้อย จากนั้นลอง Refocus กัน เดิมทีภาพนี้ จะชัดทุกระยะไม่ว่าใกล้หรือไกล รูรับแสงมีค่า f/16

Screenshot_2016-01-18-00-57-55 Screenshot_2016-01-18-00-58-32

ปรับค่ารูรับแสงจาก f/16 เป็น f/1.0 แล้วสัมผัสบนภาพว่าจะให้โฟกัสที่ไก่ทอดหรือทิชชูด้านหลัง ก็แล้วแต่จุดที่เราสนใจได้เลย  ถ้าปรับค่ารูรับแสงไว้ที่ระดับกลาง ๆ อย่างเช่น f/2.0 หรือ f/4.0  จุดโฟกัสก็จะเป็นวงกว้างขึ้น  ไก่ทอดก็จะชัดทั้งจาน จากเดิมที่ f/1.0 จะเห็นว่าชัดแค่บางส่วนของไก่ชิ้นเดียว  เป็นลูกเล่นที่ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

IMG_20160116_144806 IMG_20160116_144706 IMG_20160116_144731 IMG_20160116_162439 IMG_20160116_171414 IMG_20160116_171549 IMG_20160116_171711 IMG_20160116_171737 IMG_20160116_171748 IMG_20160116_172410 IMG_20160116_175827 IMG_20160116_180029 IMG_20160116_180231

กล้องหลัง ให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ดีปานกลาง ทั้งนี้ต้องวัดแสงให้ถูกจุด มิฉะนั้นสีภาพจะเพี้ยนไปทั้งหมด โดยเฉพาะสีส้มแดง  แนะนำให้เลี่ยงการสัมผัสหน้าจอเพื่อโฟกัสหรือวัดแสง ปล่อยให้กล้องโฟกัสและวัดแสงเองดีกว่า  อาจจะลองเปลี่ยนมุมถ่ายดูบ้าง เพื่อลดปัญหาสีเพี้ยน

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

IMG_20160116_144845 IMG_20160116_162537 IMG_20160116_172228

กล้องหน้า ถ้ามีแสงสว่างมากพอ ก็ถ่ายภาพออกมาได้สวยดี แต่บางครั้งก็ให้สีที่จืดชืดผิดเพี้ยนไปบ้าง เมื่อเจอสภาพแสงหรือสีสันที่ซับซ้อน

 

DTV ภาพคมชัด รับสัญญาณได้ไว

IMG_1908 IMG_1910 IMG_1912 IMG_1913

i-mobile ได้เปลี่ยนเสาอากาศใหม่ เป็นแบบเสียบที่ช่องต่อหูฟัง จากเดิมในรุ่นก่อน ๆ ใช้เสาอากาศแบบดึงยืดออกมา  แน่นอนว่าทนทานมากขึ้น ตัดปัญหาเสางอหรือหัก  จากการทดสอบพบว่าในรุ่น IQ Z Pro ภาครับสัญญาณดิจิทัลทีวี รับสัญญาณได้ดีมากขึ้น ไม่ต้องหมุนหาหรือเดินหาทิศทางอีกแล้ว รับชมทีวีตรงไหนก็ชัดเจน  และหน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ Full HD รับชมทีวีที่เป็นช่อง HD ได้คมชัด ภาพสวยมาก  ส่วนใหญ่ i-mobile DTV หลายรุ่นที่ผ่านมา เป็นหน้าจอแบบ LCD ความละเอียดเพียงแค่ HD

 

สรุปการทดสอบใช้งาน

จากการใช้งานมาหลายสัปดาห์ พบว่า i-mobile IQ Z Pro มีจุดที่น่าประทับใจและข้อบกพร่องบางอย่างที่ทำให้รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง  ก็ได้แต่หวังว่าจะมีการอัพเดตซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไขปัญหานั้น  จุดบกพร่องที่เกิดจากปัญหาซอฟต์แวร์นั้น แก้ไขได้ง่าย ต่างจากฮาร์ดแวร์ที่มีปัญหา ต้องเปลี่ยนรุ่นกันเลยทีเดียว  สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่แบตเตอรี่ใช้งานได้เกิน 1 วัน ไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน ไม่ต้องพกที่ชาร์จ ชอบจอภาพสีสดใส คมชัด ใหญ่เต็มตา ดูทีวีนอกสถานที่ได้  ถือว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์และน่าจะถูกใจอย่างแน่นอน

สิ่งที่ประทับใจ

  • แบตเตอรี่ 3500mAh ใช้งานได้ยาวนานเกิน 1 วันจริง ๆ ยิ่งถ้าเปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน น่าจะใช้งานได้ 2-3 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไป
  • ความร้อนน้อยมาก ไม่ว่าจะถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ เล่นเกม ดูทีวี ดู Youtube หรือดาวน์โหลดไฟล์
  • รับสัญญาณ Digital TV ได้ไวดีมาก ภาพคมชัด
  • ดู Digital TV ในรถยนต์ได้เมื่อขับรถด้วยความเร็วต่ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ด้วยเช่นกัน
  • หน้าจอใหญ่ คมชัด สีสวยสดใส เปิดใช้งานต่อเนื่อง ก็ไม่รู้สึกว่าร้อนเกินไป
  • ลูกเล่นกล้องคู่ ปรับแต่งได้มากมาย หรือเลือกโฟกัสภายหลังได้

ข้อสังเกต

  • ปรับขนาดตัวอักษรเป็นขนาดเล็ก ใช้งานไปสักระยะหนึ่ง จะปรับเป็นขนาดปกติให้เอง ไม่จดจำการตั้งค่าที่เลือกไว้
  • ลำโพง เสียงไม่ค่อยดี แหลมบาดหูเกินไป
  • เสาอากาศถอดได้ ก็อาจจะสูญหายได้ง่าย
  • ซอฟต์แวร์กล้อง ต้องปรับปรุง มีปัญหาภาพถ่ายสีเพี้ยนบ่อย หรือวัดแสงผิดพลาดจนภาพมืด
  • ราคา 11,900 บาท ถือว่าสูงเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในด้านภาพถ่าย
  • การ Refocus ด้วยซอฟต์แวร์ ให้ผลลัพธ์ที่ยังดูไม่เป็นธรรมชาติเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีกล้องคู่เหมือนกัน

ตัวเลือกอื่นที่มีกล้องหลังคู่