รีวิว i-Mobile IQ X Ken กันน้ำได้ พร้อมรองรับ 4G LTE สไตล์มือถือญี่ปุ่น
i-Mobile โทรศัพท์มือถือแบรนด์ไทยแท้ ของกลุ่ม Samart Corporation ที่อยู่ยงคงกระพันกับชีวิตคนไทยมายาวนาน ได้เปิดตัว Smartphone รุ่นใหม่ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ปี 2557 นั่นคือ i-Mobile IQ X Ken ที่มีคุณสมบัติกันน้ำ
ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่แบรนด์ ไอ-โมบาย มีโทรศัพท์มือถือรุ่นกันน้ำเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 11 เมษายน วันเดียวกับ Samsung Galaxy S5 ที่มีคุณสมบัติกันน้ำด้วยเช่นกัน เรียกว่าแบรนด์ไทยขอท้าชนแบรนด์เกาหลีแบบเต็มๆ ซึ่งทั้งรุ่น IQX Ken และ Galaxy S5 ต่างก็เป็นรุ่นท็อประดับเรือธงของทั้งสองแบรนด์
ทีมผู้บริหาร i-mobile โชว์เอา IQX Ken แช่ในน้ำ นาน 3 นาที หยิบขึ้นมาก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ รวมทั้งขณะอยู่ในน้ำก็สามารถใช้งานได้ สั่งงานได้บนจอภาพทัชสกรีนตามปกติ ถ่ายภาพหรือวิดีโอในสระว่ายน้ำได้สบายๆ
Display ที่ช้อปหรือร้านค้าจำหน่าย สื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจตรงกัน ว่าสามารถใช้งานใต้น้ำได้
สังเกตว่าสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบของ i-mobile IQ X Ken จะเน้นโปรโมตว่ารุ่นนี้ Made in Japan ซึ่งเมื่อค้นดูข้อมูลจึงพบว่ารุ่นนี้ ผลิตโดย Kyocera แบรนด์โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมของญี่ปุ่น ที่ผลิตเครื่องถ่ายสำเนาเอกสารมาจำหน่ายในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
โทรศัพท์มือถือกันน้ำ ต้องยกให้ญี่ปุ่น ซึ่ง Sony เป็นแบรนด์แรกที่ทำโทรศัพท์มือถือกันน้ำมานานหลายปี จำหน่ายมาแล้วหลายรุ่นในประเทศไทย แต่ i-mobile และ Samsung ถือเป็นครั้งแรกและรุ่นแรก ที่เริ่มจำหน่ายโทรศัพท์มือถือกันน้ำ โดยในประเทศญี่ปุ่นนั้น โทรศัพท์มือถือหลายแบรนด์ ก็มีรุ่นกันน้ำมานานแล้ว แต่ไม่ได้เน้นทำตลาดนอกประเทศ จะมีเพียง Sony ที่ทำตลาดโทรศัพท์มือถือกันน้ำครอบคลุมทั่วโลก
บางคนอาจคิดว่า แบรนด์ที่เพิ่งเคยทำโทรศัพท์กันน้ำเป็นครั้งแรก จะไว้ใจได้แค่ไหน อันนี้ต้องติดตามดูกันต่อไป Samsung ถือเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเดินตามรอยแบรนด์ญี่ปุ่น แต่ i-mobile IQX Ken นั้น ไม่น่าห่วง เพราะผลิตโดย Kyocera ซึ่งเคยทำโทรศัพท์กันน้ำมาแล้วหลายรุ่น เรียนรู้ประสบการณ์มาจาก Sony ที่ทำมาก่อนหลายปี รวมสิบกว่ารุ่น ตั้งแต่สมัย Sony Ericsson โน่นเลย
ตัวเครื่อง ก็ดูสวยงามน่าประทับใจตั้งแต่แรกเห็น จอภาพเคลือบดำ ตัดแสงรบกวนและเงาสะท้อน
ด้านหลังเป็นพลาสติกสีขาวมุก ไม่มันวาว เป็นรอยได้ยาก ไม่เห็นรอยนิ้วมือ
ช่องลำโพงอยู่ตรงกลาง วางบนโต๊ะก็ได้ยินเสียงเรียกเข้า เพราะด้านหลังโค้ง
วงกลมสีเงินในภาพนั่นคือปุ่มเปิดปิดเครื่อง ที่นำมาไว้ด้านหลังตรงกับตำแหน่งปลายนิ้วชี้ของมือซ้ายพอดี
ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง
ไม่มีปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพ ต่างจากโทรศัพท์กันน้ำของ Sony ที่มีปุ่มชัตเตอร์เกือบทุกรุ่น
ด้านล่าง เป็นช่องเสียบหูฟัง ช่องรับเสียงเข้าไมโครโฟน ช่องต่อ microUSB และฝาปิดที่เห็นในภาพ สำหรับปิดช่องใส่ SIM card / microSD
ด้านข้าง ขอบบาง คล้ายกับดีไซน์ของ HTC รุ่นใหม่ๆ
ด้านบนไม่มีปุ่มใดๆ เนื่องจากขอบตัวเครื่องที่บางมาก
ตำแหน่งของปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ไม่ได้อยู่ที่สันเครื่อง แต่อยู่ใกล้ขอบเครื่อง ซึ่งสามารถขยับนิ้วมากดได้ไม่ยากในขณะที่กำลังสนทนา
ขอบจอภาพด้านซ้ายขวา แคบบางตามสมัยนิยม ลดความกว้างของตัวเครื่อง จับถนัดมือมากขึ้น
กล้องถ่ายภาพ 13 ล้านพิกเซล Auto Focus และ LED Flash 1 ดวง อยู่ตรงกลางเครื่อง ดูมีความสมดุลกว่าบางรุ่นที่เลนส์กล้องอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ไม่ใช่ตรงกลาง
ขั้วทองเหลืองสำหรับเสียบ Quick charge docking ซึ่งไม่มีจำหน่ายในไทย ต้องฝากเพื่อนหิ้วจากญี่ปุ่น มีจำหน่ายในร้านขายโทรศัพท์มือถือ Kyocera
ไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 2600 mAh ถือว่าเพียงพอกับการใช้งาน 16-24 ชั่วโมง
i-mobile ระบุว่า Talk time นานถึง 1,110 นาที ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 2,600 mAh
แรงด้วยพลัง CPU SnapDragon Quad Core ความเร็ว 2.2 GHz
ขนาดพอดีมือ 138 x 69 x 9.9 mm. จับถนัด ไม่ใหญ่เกินไป ด้วยน้ำหนักเพียง 134 กรัม
หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ให้สีสันสวยงาม มีมิติสมจริง
ROM 32 GB และ RAM 2 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้ด้วย microSD card ความจุไม่เกิน 64 GB
รองรับ 4G LTE สำหรับ 3G ให้ความเร็ว HSDPA 14.4 Mbps / HSUPA 5.76 Mbps
กล้องหน้าแบบ Fixed Focus ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
กล้องนูนออกมาเล็กน้อย ต้องระมัดระวังในขณะวางตัวเครื่องบนโต๊ะ แต่ในกล่องมีแถมเคสพลาสติกใสพร้อมฟิล์มกันรอยหน้าจออยู่แล้ว
โลโก้ NFC โดดเด่นตามมาตรฐานโทรศัพท์มือถือญี่ปุ่น ที่เห็นกันบ่อยครั้งใน Sony Xperia รุ่นใหม่ๆ ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ดิจิตอลเป็นเรื่องง่ายๆ แค่สัมผัสกัน
หมายเลข IMEI ระบุไว้บนส่วนล่างของตัวเครื่องแบบถาวร ส่วนสติ๊กเกอร์ Barcode ที่ระบุ IMEI เป้นการติดชั่วคราว
SIM card ใส่ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง ซึ่งต้องแกะฝาปิดอย่างระมัดระวัง แล้วปิดให้แน่นทุกครั้ง โดยรุ่นนี้รองรับ Nano SIM แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 5c / 5s นั่นเอง
อีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่ i-mobile นำเสนอ คือ Smart Sonic Receiver ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดของเสียงสนทนา และฟังก์ชั่นที่ยืดเสียงพูดแบบเร็วๆ ให้ฟังเหมือนพูดช้าลงได้อย่างน่าประหลาดใจ ทำให้ลดปัญหาที่เกิดจากการฟังไม่ทัน
ในขณะที่หน้าจอดับในสถานะ Standby เราสามารถปลุกเครื่องให้ตื่นพร้อมใช้งานได้ด้วยการเคาะปลุก คล้ายกับ LG G2 โดยจังหวะของการเคาะหน้าจอคือ เคาะสั้นๆ 2 ครั้ง แล้วสัมผัสค้างไว้
NFC Sensor อยู่ที่โลโก้นี้ นำเอาอุปกรณ์ NFC อื่นๆ มาเชื่อมต่อได้ด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว
Lock screen สามารถใส่ Widget ได้หลายหน้าตามมาตรฐานของ Android 4.2 เป็นต้นไป
มีบอก Battery Percentage โดยไม่ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม บนแถบสีดำเหนือสุดของจอภาพ
Home Launcher ที่ติดมากับ i-mobile IQX Ken
เป็น Launcher ที่สามารถจัดหมวดหมู่การแสดงผลของแอพพลิเคชั่นได้อิสระ
มี Dolby Widget สามารถเปิดปิด เลือกโหมดได้จาก Home screen
Notification Center มีปุ่มเปิดปิดการเชื่อมต่อและฟังก์ชั่น คล้ายกับ Android ทั่วไป
ปุ่ม Dial Pad ขนาดใหญ่สำหรับกดโทรออก ซึ่งรุ่นนี้ใส่ได้ซิมการ์ดเดียว จึงไม่สับสนในการโทรออก
เมนูกล้อง เท่าที่ทดสอบ ถือว่าจับโฟกัสและบันทึกภาพได้ช้ากว่าแบรนด์ดังทั้งหมดในตลาด
รูรับแสงกว้าง ทำให้ภาพสว่าง ถ่ายในที่แสงน้อยได้ในระดับหนึ่ง
มีระบบเสียง Dolby ชดเชยเสียงให้เต็มอิ่มทุกย่านความถี่ ในขณะดูหนังและฟังเพลง
Drawer หรือหน้าแสดงรายการแอพพลิเคชั่น แสดงผลแบบ Grid เรียง 4 x 5 ไอคอน พร้อมเลือกหมวดหมู่ได้จาก Tab ที่ขอบจอภาพฝั่งขวา
หน้าจอมุมมองกว้าง สบายตา อ่านง่าย ตัวอักษรคมชัด แสดงผลภาษาไทยได้ถูกต้องในทุกส่วน
หน้าจอ Lock Screen ปลดล็อคได้หลายทิศทาง ปรับแต่งได้ตามต้องการ
เมนูภาษาไทย คล้ายกับ i-mobile รุ่นอื่นๆ
มาพร้อมกับ Android KitKat 4.2.2 คาดว่าจะอัพเดตเป็น 4.4.x ได้ในอนาคต
ปรับความแรงในการสั่นเตือนได้ แจ้งเตือนด้วย LED Notification ได้
สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ Android ก็มีเมนูปรับ UI ให้เป็น Easy mode ใช้งานง่าย ลดความซับซ้อน
ฝาปิดช่องใส่ microSD / SIM Card จะต้องกดปิดให้แน่น เพื่อป้องกันน้ำเข้าแผงวงจรในตัวเครื่อง
ทดสอบประสิทธิภาพ ทำคะแนนได้ดีมาก ถึง 32344++ ใกล้เคียงกับ LG G2 เพราะมี GPU 3D นั่นก็หมายความว่ารองรับ Games อย่างเต็มที่ ไม่ว่ากราฟฟิคจะสวยงามอลังการขนาดไหน IQX Ken ก็เอาอยู่ ลื่นไหล ไม่มีกระตุกอย่างแน่นอน
ตัวอักษรคมกริบบนจอภาพ Full HD
Sensor สัมผัสเมนูส่วนล่างของจอภาพ ทำได้ดีตามมาตรฐานญี่ปุ่น มีความไวและแม่นยำดีมาก
การแสดงผลในส่วนของสีดำ ทำได้ดี ดำลึก ไม่ใช่สีเทาม่วง ไม่ค่อยมีปัญหาแสงรั่วเล็ดลอด
มีฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน ยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้มากกว่า 1 วันได้
มี Pedometer ที่ตรวจจับนับการเดิน วิ่ง หรือนั่งรถในแต่ละวัน เอาใจคนรักสุขภาพ
แอพตกแต่งภาพ และแอพด้าน Social ก็มีมาให้มากมาย พร้อมใช้ทันที หากไม่ชอบ ก็สามารถลบทิ้งได้ง่ายๆ โดยรวมถือว่า i-mobile IQ X Ken ราคา 16,900 บาท เป็น Android smartphone ที่ผลิตในญี่ปุ่น โดย Kyocera แต่ตีตรา i-mobile โดดเด่นด้วยสเปคที่ท้าชนกับทุกแบรนด์ดัง และฟังก์ชั่นกันน้ำตามแบบฉบับของญี่ปุ่น ถือว่าน่าสนใจ และไว้ใจได้กับมาตรฐานญี่ปุ่น เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในญี่ปุ่น จัดได้ว่าดีที่สุดในโลกมากกว่าประเทศใดๆ บนโลกนี้
ข้อสังเกต
- ความจุแบตเตอรี่น่าจะให้มามากกว่า 3,000 mAh จึงจะเพียงพอตลอดทั้งวัน
- กล้องหน้าคุณภาพต่ำมาก และภาพมืด ไม่มีระบบ Auto Focus
- สินค้าล็อตแรก เป็น Android 4.2 ที่ถือว่าเก่าเกินไปแล้วในปัจจุบัน
- มีคีย์บอร์ดภาษาญี่ปุ่นด้วย
- หากปิดช่องใส่ SIM / microSD ไม่แน่น น้ำเข้าและเสียหายได้ทันที
- รองรับ 4G LTE
- ตัวเครื่องเป็นพลาสติกธรรมดา ไม่สมราคา
คู่แข่งหรือตัวเลือกอื่นในตลาด ที่เป็นระบบปฏิบัติการเดียวกัน
- LG G2
- Samsung Galaxy S4
- Sony Xperia Z1 / Z1 Compact
- HTC One M7
- Motorola X
ถ้าเห็นบทความนี้ประโยชน์ รบกวนช่วยกด LIKE + SHARE ให้ทีมงานหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^__^
Leave a Reply