รีวิว Huawei GR5 หรูเกินราคา ล้ำกว่าด้วยระบบสแกนลายนิ้วมืออัจฉริยะ
หัวเว่ย เปิดตัว GR5 นำเทรนด์เทคโนโลยีสแกนนิ้วสุดล้ำ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Smarter Touch” ที่โดดเด่นด้วยระบบการสแกนนิ้วมือจังหวะเดียวแบบ 360 องศา ซึ่งถูกพัฒนาให้มีความสามารถมากยิ่งขึ้น พร้อมโหมดการถ่ายภาพวีดิโอแบบ “Slow Motion” ที่มาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ในราคาเพียง 8,990 บาท
“Fingerprint ID 2.0” ถูกพัฒนาขึ้นมาอีกระดับ เพื่อช่วยในการจัดเก็บข้อมูลได้ปลอดภัยมากขึ้น โดยสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วเพียง 0.5 วินาที ด้วยระบบการสแกนนิ้วแบบ 360 องศา ไม่ว่าผู้ใช้งานจะสแกนจากมุมไหนก็สามารถจดจำลายนิ้วมือได้ทั้งห้านิ้วอย่างรวดเร็ว และสามารถใช้ในการสั่งงานได้หลากหลาย อาทิ รับสายเรียกเข้า ปิดเสียงนาฬิกาปลุก หรือแม้กระทั่งใช้แทนการกดชัตเตอร์ในการถ่ายภาพ
นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวีดิโอแบบ “Slow Motion” ได้ด้วย ส่วนตัวเครื่องก็มีดีไซน์เรียบหรูด้วยวัสดุอะลูมิเนียม-แมกนีเซียมอัลลอย ด้านหลังมีการออกแบบด้วยเทคนิคเซอร์คอนความเร็วสูงเพื่อเพิ่มแฮร์ไลน์ สวยงามโค้งมน โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว Full HD และแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 3000mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 35 ชั่วโมง มีให้เลือก 3 สี คือ สีขาว สีดำ และสีทอง
สเปคของ Huawei GR5
รหัสรุ่น |
GR5 |
ระบบปฏิบัติการ | Android 5.1 |
หน่วยประมวลผล | Snapdragon 616 | 4 x 1.5 GHz + 4 x 1.2 GHz |
เครือข่าย | LTE 4G + 3G |
ขนาดหน้าจอ | 5.5” Full HD |
จอแสดงผล | 1080 x 1920 |
กล้องด้านหลัง | 13MP |
กล้องด้านหน้า | 5MP |
ความจุแบตเตอรี่ | 3000mAh |
หน่วยความจำ | 2GB RAM + 16GB ROM |
สีตัวเครื่อง | สีขาว / สีดำ / สีทอง |
ขนาด | 151.3×76.3×8.15 มม. |
ราคาเปิดตัว | 8,990 บาท |
สรุปจุดเด่น 5 ด้านของ Huawei GR5
1. เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือแบบใหม่
- เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือรุ่นที่ 2
- ปลดล็อคเพียง 0.5 วินาที
- ระบบการระบุลักษณะแบบ 360 องศา
- ระบบสแกนนิ้วทั้งในขณะที่มือแห้งและเปียก
- ระบบการทำงานหลากหลาย:
- การปลดล็อคหน้าจอ
- การปลดล็อคหน้าจอพร้อมเปิดแอฟ หรือ พร้อมโทรหาเบอร์คนสำคัญ
- การรับสาย
- การปิดเสียงนาฬิกา
- การแสดงและล้างการแจ้งเตือน
- การถ่ายภาพ
- ระบบการทำงานอันชาญฉลาด – รูดหน้าจอลง และ แตะเพียงสองครั้งเพื่อแสดงและล้างการแจ้งเตือน
- ระบบความปลอดภัยที่มากขึ้น – จัดเก็บข้อมูลการสแกนนิ้วในชิปซึ่งช่วยป้องกันความเป็นส่วนตัวของคุณได้มากขึ้น
2. ดีไซน์หรูหราเกินราคา
- ตัวเครื่องผลิตด้วยอะลูมิเนียม-แมกนีเซียมอัลลอย 0.8 มม.
- เทคนิคขัดพ่นทรายด้วยเซอร์คอนความเร็วสูง
- ด้านหลังโค้งรับสัดส่วนกับมือ
- ลายเส้นโลหะด้านหลังของตัวเครื่อง
3. เทคโนโลยีการถ่ายภาพล้ำสมัย
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- รูรับแสงขนาด f/2.0
- ระยะถ่ายมาโคร 7 เซนติเมตร
- เซนเซอร์ CMOS ถ่าายภาพได้ดีในสภาวะแสงน้อย
- ถ่ายรูปแบบเร่งด่วนด้วยการสแกนนิ้ว
- คุณสมบัติเต็มรูปแบบ:
- การถ่ายภาพแบบ Slow motion
- โหมดถ่ายภาพ Time Lapse
- โหมดถ่ายภาพ Perfect Selfie
- โหมดถ่ายภาพแบบบิวตี้ถึง 10 ระดับ
- โหมดถ่ายภาพอาหาร
4. หน้าจอแสดงผลคมชัด
- จอแสดงผลความละเอียดสูงระดับ Full-HD ขนาด 5.5 นิ้ว
- เทคโนโลยีปรับโทนสีหรือความคมชัดโดยอัตโนมัติ
5. ประสิทธิภาพการใช้งานที่เหนือชั้น
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 มิลลิแอมป์
- มากถึง 5 – 2 วันสำหรับผู้ใช้งานปกติ
- มากถึง 1 วันสำหรับผู้ใช้งานหนัก
- ที่ชาร์จขนาด 2A ทำให้ชาร์จไฟได้รวดเร็วขึ้น
- ชิฟหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 616
- EMUI 4.0
สัมผัสดีไซน์และการใช้งานที่ให้ความประทับใจ
มั่นใจว่าหากใครได้ลองสัมผัส Huawei GR5 จะต้องประทับใจกันอย่างแน่นอน จนไม่อยากเชื่อว่านี่คือสมาร์ทโฟนราคาเพียง 8,990 บาท เพราะหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว ความคมชัดสูงระดับ Full HD ซึ่งหากเป็นสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ในระดับราคานี้ จะได้มาแค่เพียงหน้าจอ HD หยาบ ๆ เท่านั้น ส่วนตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียม-แมกนีเซียมอัลลอย ห่อหุ้มด้านหลังมาจนถึงขอบตัวเครื่องเกือบทั้งหมด ดูหรูหราอลังการอย่างมาก อย่างกับสมาร์ทโฟนราคา 2-3 หมื่นบาทเลยทีเดียว
โลโก้ Huawei อยู่ด้านล่างของขอบจอภาพ ขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่โตจนดูน่าเกลียด
เซ็นเซอร์วัดแสง กล้องหน้า และลำโพงสนทนา
ตัวเครื่องสีทอง ขอบรอบตัวเครื่องก็เป็นสีทองแวววาว หรูหรา มีระดับ
พอร์ต microUSB ลำโพงและไมโครโฟน แบ่งอยู่คนละข้างกัน ไม่ใช่ลำโพงสเตอริโอ
ช่องต่อหูฟัง อยู่ด้านบนตามมาตรฐาน
ถาดใส่ microSD และ SIM Card
ปุ่ม Power และ Volume
เครื่องใหม่แกะกล่อง จะมีแผ่นใสปิดทับ บอกทิศทางการใส่ SIM card และ microSD ที่ถูกต้อง ซึ่ง SIM Card ที่รองรับ เป็น nanoSIM กับ microSIM อย่างละซิม แยกถาดกัน
กล้องหลัง นูนขึ้นมาเล็กน้อย ล้อมกรอบด้วยสีทองแวววาว พร้อมไฟแฟลช LED 1 ดวง ถัดลงมาเป็นหลุมสแกนลายนิ้วมือ
GR5 มีเสน่ห์ของดีไซน์ที่ด้านหลังตัวเครื่อง วัสดุดีเยี่ยม ทนทาน หรูหรา ไม่มีปัญหารอยนิ้วมือ เป็นรอยขีดข่วนได้ยากมาก กระจกเลนส์กล้อง ก็ทนทาน เคลือบผิวให้ไม่ติดรอยมันจากนิ้วมือ จับถือได้ถนัดมือ ไม่ลื่นหล่นได้ง่าย ไม่รู้สึกถึงความร้อนในขณะใช้งานหนัก ถือว่าสมบูรณ์แบบจริง ๆ
ความสว่างหน้าจอ ถือว่าปานกลาง ไม่จ้าเกินไป ปรับอัตโนมัติตามสภาพแสงภายนอก ส่วนสีสันหน้าจอ จะเป็นโทนสีที่นุ่มนวล ไม่เข้มสด ไม่จัดจ้าน ระดับ Constrast ถือว่ากลาง ๆ โดยรวมถือว่าเป็นหน้าจอที่คมชัดดีมากยิ่งกว่าหน้าจอ AMOLED ที่มีความละเอียดเท่ากัน พิสูจน์ได้ด้วยตาเปล่า ในระดับราคาเท่านี้ ได้จอภาพระดับ Full HD ก็ถือว่าคุ้ม
ในด้านดีไซน์ ถือว่าได้คะแนนเต็ม เมื่อเปรียบเทียบกันในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหมื่น ยกให้ Huawei GR5 ยอดเยี่ยมทั้งวัสดุและการออกแบบ ไม่มีกั๊กหน้าจอ ซึ่งส่วนใหญ่ในตลาดกลุ่มนี้ จะให้หน้าจอที่หยาบ ภาพไม่สวย
จุดขายในด้าน Smart Touch ของรุ่น GR5 ที่สามารถเรียนรู้ว่าเป็นลายนิ้วมือของนิ้วใด ข้างใด ได้อย่างแม่นยำตามที่บันทึกไว้ในตอนแรก แล้วเราสามารถตั้งค่าได้ว่า สแกนนิ้วนี้หมายถึงสั่งให้สมาร์ทโฟนทำอะไร แยกให้แตกต่างกันในแต่ละนิ้วได้ รวมทั้งใช้ในการเลื่อนหน้าจอขณะเล่นแอปพลิเคชั่น ใช้การสแกนเพื่อเป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพได้สะดวก ใช้ปลดล็อคหน้าจอหรือรับสายโทรเข้าก็ได้ การสแกนเป็นแบบสัมผัส ไม่ใช่การถูนิ้วผ่านจุดสแกน จึงสแกนได้สะดวก ตอบสนองรวดเร็ว โดยรวมถือว่าทำได้ดีกว่า iPhone หลายเท่า
กล้องหน้า 5MP และกล้องหลัง 13MP ก็ถือว่าถ่ายภาพได้ดีในระดับที่น่าพอใจ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ทดสอบถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยอย่างในมินิคอนเสิร์ตตอนกลางคืน หรือถ่ายภาพระยะใกล้ ก็ถือว่ากล้องหลังให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ดีน่าพอใจ โฟกัสได้แม่นยำ ภาพค่อนข้างคม เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
กล้องหน้า ถือว่าให้มุมที่กว้างดี ถ่ายเพื่อนทั้งกลุ่มได้สบาย ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่อาจจะดูไม่มากนัก แต่ให้ความคมชัดที่ดีเยี่ยม ให้ความสว่างและเกลี่ยสีผิวได้ดูดีใกล้เคียงธรรมชาติ ไม่ดูหลอกตาเป็นใบหน้าพลาสติกหรือขาวชมพูแบบ Over เกินจริง ซึ่งคิดว่าน่าจะถูกใจผู้ที่ชื่นชอบถ่ายภาพ Selfie ทั้งชายและหญิง โหมด Beauty ก็สามารถปรับความเนียนได้มากถึง 10 ระดับ
ตัวอย่างคลิปวิดีโอ
ภายในคอนเสิร์ตที่มีแสงไฟหลากสีวาบไปมาอย่างรวดเร็ว กล้องอาจจะวัดแสงและโฟกัสได้ยาก แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอยอมรับกับคุณภาพของวิดีโอ ส่วนเสียงแตกพร่า เพราะจุดที่ยืนถ่ายค่อนข้างใกล้ลำโพงไปหน่อย
ทดสอบประสิทธิภาพ
Huawei GR5 ระดับราคา 8,990 บาท กับคะแนนการทดสอบที่ได้ 36048 คะแนน ถือว่าเหมาะสมและเพียงพอกับการใช้งานในระดับมาตรฐาน คุ้มค่าเมื่อเทียบราคากับประสิทธิภาพที่ได้มา เร็วลื่นพอตัว พอเล่นเกมระดับ 3D ได้ ตัวเครื่องมีความร้อนน้อยแม้ว่าจะใช้งานประมวลผลอย่างหนัก
ซอฟต์แวร์
Home screen (แบบไม่มี App Drawer) และ Quick Settings ตามสไตล์หัวเว่ย
เมนูตั้งค่าหลัก จัดกลุ่มเป็นหมวดหมู่เรียงยาวลงมา ค้นหาไม่ยาก ไม่ซับซ้อน
มาพร้อมกับ Android 5.1.1 ลุ้นว่าจะได้อัพเดตเป็น 6.0.x กันเมื่อไร
สั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวและวาดบนหน้าจอได้
คว่ำหน้าจอลงเพื่อปิดเสียงได้ | Navi Key ปรับเปลี่ยนได้
ปุ่ม Shortcut และตั้งค่าสั่งงานด้วยการสแกนลายนิ้วมือ
จุดสแกนลายนิ้วมือ สั่งงานได้ทั้ง Touch และ Scroll | กำหนดแอปพลิเคชั่นบางตัวให้ทำงานตลอดเวลาอยู่เบื้องหลังได้
ปลดล็อคหน้าจอผ่านสายรัดข้อมืออัจฉริยะได้ | แบตเตอรี่ใช้งานได้ 1 วันเศษ ต้องชาร์จทุกวัน แต่แบตเตอรี่ไม่เคยหมดระหว่างวัน จึงไม่ต้องพกสายชาร์จหรือ Power Bank
เหลือพื้นที่ใช้งานได้อีก 9GB กว่า | แยกเสียงเรียกเข้าของ SIM 1 กับ SIM 2 ได้
ปรับ Color Temperature และขนาดตัวอักษรได้ ปรับหน้าจอให้สว่างสู้แสงกลางแจ้งได้
ปกติ Android ทั่วไปจะปรับขนาดตัวอักษรได้ 4 ระดับ แต่หัวเว่ยปรับได้มากถึง 5 ระดับ
กล้องถ่ายภาพใช้งานง่าย ปรับตั้งค่าการถ่ายภาพได้เยอะ มีลูกเล่นสนุก ๆ ในการถ่ายภาพ
สรุปการทดสอบใช้งาน
ในระดับราคาไม่เกินหมื่นบาท ในขณะนี้ต้องยกให้ Huawei GR5 เป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าที่สุด ได้วัสดุที่ดีเลิศ หรูหรามีระดับ ใส่ใจรายละเอียดในการออกแบบและผลิตอย่างพิถีพิถัน สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งการถ่ายภาพ และแบตเตอรี่ที่เพียงพอกับการใช้งานตลอดทั้งวัน ในระดับราคา 8,990 บาท ไม่ต้องลังเลอีกแล้ว ฟันธง Huawei GR5 คุ้มจริง
สิ่งที่น่าประทับใจ
- วัสดุและดีไซน์ระดับ Premium อย่างแท้จริง หรูหราเกินราคา
- ด้านหลังตัวเครื่องเป็นโลหะ แต่ไม่เคยรู้สึกถึงความร้อนแม้ใช้งานหนัก
- แบตเตอรี่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปได้ทั้งวันทั้งคืน
- ถ่ายภาพได้สวย ดูเป็นธรรมชาติ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
- มี Food mode สำหรับเร่งสีของอาหารจานโปรดให้ดูน่าทานยิ่งขึ้น
- ชาร์จไฟได้ค่อนข้างเร็ว
ข้อสังเกต
- ลูกเล่นบางอย่างในการสแกนลายนิ้วมือที่มากกว่าฟังก์ชั่นพื้นฐาน ดูมากเกินความจำเป็นและไม่ค่อยลงตัวกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
- น่าจะมีตัวเครื่องสีชมพูแบบ Rose Gold เพิ่มอีกสี
คู่แข่งในระดับราคาเดียวกันและใช้วัสดุคล้ายกัน
Leave a Reply