รีวิว Asus ZenFone Max Plus จอใหญ่ 5.7 นิ้ว กล้องหลังคู่ 16MP แบตสุดอึด 4130 mAh มีสแกนใบหน้า ราคาย่อมเยา!
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ที่รักทุกท่าน สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่อึดๆ กล้องหลังเลนส์คู่ หน้าจอใหญ่ สเปคครบครัน และมีราคาไม่แพง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Asus แบรนด์ดังจากไต้หวันก็ได้รุกตลาดมือถือประเทศไทย ด้วยการเปิดตัว Asus ZenFone Max Plus เอาใจผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน
ชูจุดเด่นที่หน้าจอคมชัดขนาดใหญ่ 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 ที่มีขนาดตัวเครื่องเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนรุ่น 5.2 นิ้ว พร้อมกล้องหลังเลนส์คู่ มีฟีเจอร์ใหม่ปลดล็อคด้วยใบหน้า แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ยาวนาน รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และการ์ด microSD ได้พร้อมกันทันที รวมถึงสนับสนุนการเชื่อมต่อ 4G ได้ถึง 150Mbps โดยมีราคาวางจำหน่ายที่คุ้มค่าที่สุดเพียง 6,990 บาทเท่านั้น
และในวันนี้ทาง ninethaiphone จะขอนำเอา Asus ZenFone Max Plus มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจ ก่อนที่เพื่อนๆ จะลงทุนซื้อ โดยตัวเครื่องที่เราได้รับมารีวิวในครั้งนี้เป็นตัวเครื่องสีดำ (Deepsea Black) เฉดสีออกไปทางน้ำเงินเข้มๆ ไม่ใช่สีดมืดสนิท ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปติดตามชมพร้อมกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปค Asus ZenFone Max Plus
Features | Asus ZenFone Max Plus (M1) |
วันเปิดตัว : | – มกราคม 2560 |
ราคา : | – 6,990.- (ณ วันที่ 24 ก.พ. 61) |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 7.0 Nougat ครอบทับ ZenUI 4.0 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS |
– ขนาด 5.7 นิ้ว | |
– ความละเอียด 1440×720 พิกเซล (HD+) | |
– ขอบโค้ง 2.5D | |
– Multitouch | |
CPU : | – MediaTek MT6750T แบบ Octa Core |
GPU : | – ARM Mali-T860 |
RAM : | – 4GB |
ความจำตัวเครื่อง : | – 32GB |
– microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 16MP + 8MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
– focal length 35mm | |
– LED flash | |
– PDAF | |
– Super Resolution | |
– Time Lapse | |
– Auto HDR | |
– Beauty | |
– Panorama | |
– เลนส์มุมกว้าง 120 องศา | |
กล้องหน้า : | – 16MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
– เลนส์มุมกว้าง 85 องศา | |
Video : | – 1080p@30fps |
Battery : | – 4130 mAh รองรับ Fast Charging |
ขนาด : | – 152.6x73x8.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 160 กรัม |
รองรับซิม : | – dual SIM แบบ Triple Slots |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 3G WCDMA |
– 4G LTE (VoLTE) | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 b/g/n |
– Bluetooth 4.0 | |
– Micro-USB 2.0 | |
– OTG | |
– FM radio | |
– Asus PowerMaster | |
GPS : | – GPS |
– AGPS | |
– GLO | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Face Unlock | |
– Accelerator | |
– Proximity | |
– Ambient light | |
– Gyroscope | |
– E-Compass | |
สี : | – ทอง (Sunlight Gold) |
– เงิน (Azure Silver) | |
– ดำ (Deepsea Black) |
แกะกล่อง Asus ZenFone Max Plus
อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย
– ตัวเครื่อง Asus ZenFone Max Plus สีดำ (Deepsea Black)
– สาย Micro USB
– สาย OTG
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด (Ejector Pin)
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับ Fast Charging 5V 2A 10W
– คู่มือการใช้งาน
– เคสซิลิโคนแบบใส
– จุกหูฟังจำนวน 2 คู่
– หูฟังสมอลทอร์ค ZenEar
ทำความรู้จัก Asus ZenFone Max Plus
ด้านหน้า Asus ZenFone Max Plus มาพร้อมหน้าจอแบบ Full view ขอบจอแบบบางพิเศษขนาด 5.7 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 เพลิดเพลินไปกับความบันเทิงด้วยหน้าจอความละเอียด HD+ หรือ 1440×720 พิกเซล มีกระจกด้านหน้าขอบโค้ง 2.5D โดยอัตราส่วนจอภาพกับตัวเครื่องอยู่ที่ 80% รองรับการใช้งาน 2 หน้าจอได้แบบสบายๆ
ด้านหน้าส่วนบน ประกอบด้วย เลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.0, ลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา, ไฟแสดงสถานะ และเซ็นเซอร์ต่างๆ
ด้านหน้าส่วนล่าง พบปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps แบบ On Screen เหลือขอบล่างไว้เพียงเล็กน้อย
ด้านหลัง ตัวเครื่องบางด้วยขนาดเพียง 152.6x73x8.8 มิลลิเมตร ใช้วัสดุโลหะเกรดพรีเมี่ยม เป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอแสดงผล 5.7 นิ้ว ที่มีขนาดตัวเครื่องเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนรุ่น 5.2 นิ้ว ถือจับสะดวกสบายมากขึ้นไม่ใหญ่เทอะทะแต่อย่างใด มีเส้นเสารับสัญญาณพาดเป็นแนวนอนบริเวณด้านบนและด้านล่าง โดยมีตัวเครื่องให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ Deepsea Black, สีทอง Sunlight Gold และสีเงิน Azure Silver
ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย เลนส์กล้องคู่ความละเอียด 16MP + 8MP เลนส์มุมกว้าง 120 องศา จัดวางในรูปแบบแนวนอน ถัดมาเป็น LED flash และกึ่งกลางตัวเครื่องจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง มีโลโก้แบรนด์ Asus สกรีนเอาไว้บางๆ
ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB , รูไมค์สนทนา และลำโพงเสียง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nano SIM
สำหรับช่องใส่ซิมการ์ดของ ZenFone Max Plus เป็นแบบ Triple-Slot Tray สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด พร้อมกับ microSD Card ได้พร้อมกัน เนื่องจากมีช่องที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจน
ด้านขวาตัวเครื่อง พบปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อคหน้าจอ
การแคปภาพหน้าจอ กดค้างไปที่ปุ่มลดระดับเสียง + พาวเวอร์ทางด้านขวาตัวเครื่อง
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ ZenFone Max Plus ที่มาพร้อมชิปประมวลผล MediaTek MT6750T แบบ Octa Core หน่วยประมวลภาพกราฟิก ARM Mali-T860 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชันใหม่ล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 52222 คะแนน ถือว่าค่อนข้างน้อยพอสมควร แต่ประสิทธิภาพการใช้งานลื่นไหลดี ยังไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็นค่ะ
สำหรับสเปคการใช้งานของ Asus ZenFone Max Plus ตามฐานข้อมูลของแอปฯ AnTuTu เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ระบุว่ามีรหัสรุ่นโมเดล X018D ใช้ชิปเซ็ต MT6750 จีพียู Mali T860 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 ใช้หน้าจอ 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440×720 พิกเซล กล้องหลัง 15.9MP + 8.0MP กล้องหน้า 15.9MP และมีความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมด 18.86GB เป็นต้น
เมื่อทดสอบการเล่นเกมพบว่าระบบลื่นไหลดี ภาพสีสันพอใช้ได้ แต่ถ้าเป็นระดับ Full HD จะโอเคกว่านี้ค่ะ
Interface
หน้าจอ Lock screen จะมีการระบุถึงระยะเวลาในการใช้งานของแบตเตอรี่ล่าสุดเอาไว้ด้วย สามารถปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น
หน้า Home screen มีมาให้จำนวน 2 หน้า แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน จัดวางเป็นระเบียบไม่รกตา และสามารถเพิ่มหน้าได้ภายหลัง นอกจากนี้หากปัดหน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้า Home screen ด้านในที่จะรวมเมนูการใช้งานต่างๆ ที่ติดตั้ง
แอปพลิเคชันจาก Google มีให้ใช้งานอย่างครบครัน สามารถใช้งาน Google ได้อย่างรวดเร็วทันใจด้วยการปัดไปทางด้านซ้ายในหน้า Home screen และสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ Play Store ทั้งยังรองรับฟังก์ชันการใช้งานฟังก์ชัน Split Screen เรียกใช้งาน 2 หน้าจอโดยกดค้างไปที่ปุ่ม Recent Apps แล้วเลือกแอปฯ ที่ต้องการใช้งานค่ะ
หากกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอ Home Screen จะพาเข้าสู่หน้าจัดการหน้าจอหลัก มีการปรับแต่งวิดเจ็ต, แก้ไขหน้าจอหลัก, ปรับแต่งวอลเปเปอร์, ปรับแต่งธีม ZenUI, ล็อคหน้าจอ, ตั้งค่าระบบต่างๆ ภายในตัวเครื่อง แต่หากกดค้างไปที่ตัวแอปฯ จะสามารถเคลื่อนย้ายตัวแอปฯ ได้ทันที และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่องจะพาเข้าสู่เมนูปิดเครื่อง, รีสตาร์ทเครื่อง, โหมดเครื่องบิน และปุ่มฉุกเฉินค่ะ
เมื่อสไลด์หน้าจอลงจะพบกับหน้า Quick Settings มีการแจ้งเตือน การตั้งค่า หรือเปิดการใช้งานต่างๆ ที่เข้าถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยด้านล่างสุดจะเป็นการแจ้งเตือนต่างๆ และหากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะปรากฏหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด ในการเคลียร์แอปฯ จะสไลด์แอปฯ ไปทางขวามือเพื่อลบทีละแอปฯ ก็ได้ หรือจะกดไปที่รูปจรวดมุมขวาล่างเพื่อเคลียร์แอปฯ ทั้งหมดอย่างรวดเร็วก็ได้ค่ะ
เมนูการใช้งานภายในตัวเครื่อง
หน้าแสดงพื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง และสามารถปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดสบายตา เพื่อถนอมสายตาระหว่างใช้งาน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และสามารถปรับอุณหภูมิความเข้มของโทนสีเหลืองได้เองอีกด้วย
Asus ZenFone Max Plus ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้บริเวณด้านหลังตัวเครื่อง พร้อมรองรับลายนิ้วมือสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ
นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์จดจำใบหน้าสำหรับปลดล็อคการใช้งานตัวเครื่อง พร้อมรองรับ Smart Lock ตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ได้อีกด้วย
รองรับโหมดการใช้งานอย่างง่าย เหมาะสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ใช้งานระดับต้น
รองรับการตั้งค่าแบบกำหนดเอง ไม่ว่าจะเป็น Twin Apps ใช้งานสองบัญชีในแอปฯ เดียว, ตั้งค่าการใช้งาน Page Marker, ตั้งค่าเกมจีนี่ การแจ้งเตือนต่างๆ ของการเล่นเกม และการใช้งานโหมดสัมผัส ZenMotion ต่างๆ เป็นต้น
สำหรับ PowerMaster จะเป็นแอปฯ ที่ช่วยจัดสรรระบบพลังงานที่มีประสิทธิภาพในตัวเครื่อง ยืดอายุการใช้งานสมาร์ทโฟนให้นานมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จบ่อยๆ ด้วยระบบการจัดการที่หลากหลาย และแบตเตอรี่จะได้รับการประเมินว่าสามารถเหลือใช้งานได้อีกกี่ชั่วโมงหรือกี่วันอีกด้วย
สำหรับแอปฯ ตัวจัดการมือถือ จะประกอบไปด้วยหน้าการใช้ข้อมูลทั้งหมดภายในเครื่อง, PowerMaster ช่วยจัดการการใช้งานแบตเตอรี่, ตัวเร่งความเร็ว, การแจ้งเตือนต่างๆ, ล้างข้อมูลในตัวเครื่อง และการอนุญาตเข้าถึงสิทธิต่างๆ ภายในเครื่อง
แอปฯ SelfieMaster เอฟเฟกต์สำหรับตกแต่งภาพเซลฟี่ ได้แก่ ลบริ้วรอย, ผิวใสเรียบเนียน, ปรับโทนสีผิว, ปรับรูปหน้า ระหว่างถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวิดีโอ หรือไลฟ์สด ซึ่งสามารถปรับได้สูงสุดถึง 10 ระดับ ทั้งยังมี Photo Collage ที่ช่วยสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายเซลฟี่ของตัวเองให้สวยงาม สามารถใช้ฟังก์ชั่นการแก้ไขรูปภาพ การรวมภาพแบบคอลเลคชั่นเพื่อส่งต่อความสนุกให้กับเพื่อนๆ ได้อย่างไร้ขีดจํากัด และ Slideshow ช่วยสร้างภาพยนตร์ขนาดเล็กของตนเองได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ภาพถ่ายและวิดีโอในเครื่อง
โหมดเครื่องมือการใช้งาน เริ่มต้นที่เครื่องคิดเลข, นาฬิกาปลุก
ตัวจัดการไฟล์ภายในเครื่อง, เครื่องบันทึกเสียง และแอปฯ วัดสภาพอากาศ
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้าของ Asus ZenFone Max Plus ที่มาพร้อมความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มีโหมดแต่งสวย, GIF, ถ่ายปกติ และถ่ายเซลฟี่แบบพาโนรามา รองรับการถ่ายภาพโหมด Portrait หน้าชัดหลังเบลอ สำหรับโหมดแต่งสวย มีให้ปรับระดับผิวเนียนใส ผิวขาว ดวงตากลมโต และหน้าเรียว ปรับได้สูงสุด 10 ระดับ ขณะที่โหมดถ่ายภาพปกติมีให้เปิดใช้งานแฟลช, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ 2 วินาที 5 วินาที และ 10 วินาที, อัตราส่วนภาพถ่าย 1:1, 4:3, 16:9 และเปิดใช้งาน HDR
โหมดถ่ายภาพเซลฟี่พาโนรามา และโหมดถ่ายภาพ Gif Animation บันทึกภาพเคลื่อนไหวที่สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วของการเคลื่อนไหวได้เอง และสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD
ถัดมาเป็นส่วนของโหมดการใช้งานกล้องหลังความละเอียด 16MP + 8MP พร้อม LED flash ค่ารูรับแสง f/2.0 มีโหมดการถ่ายภาพ ได้แก่ โหมดถ่ายภาพปกติ และถ่ายภาพมุมกว้าง ที่รองรับการถ่ายภาพโหมด Portrait หน้าชัดหลังเบลอ
สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD ได้เหมือนกับกล้องหน้า รองรับโหมด Super Resolution ถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด สามารถถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล และโหมดถ่ายภาพ Gif Animation
โหมดแต่งสวย มีให้ปรับระดับผิวเนียนใส ผิวขาว ดวงตากลมโต และหน้าเรียว ปรับได้สูงสุด 10 ระดับ พร้อมรองรับโหมด Portrait เหมือนกับกล้องหน้า ใช้ได้ทั้งถ่ายภาพปกติ และถ่ายวิดีโอ มี โหมดมือโปรสามารถปรับตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ได้เอง
มีโหมดถ่ายภาพ Panorama ถ่ายภาพมุมกว้างแบบพาโนรามา โหมดถ่ายภาพ Slow Motion ถ่ายวิดีโอด้วยอัตราเฟรมสูงสุดที่ 120fpsหรือ 60fps ที่ความละเอียดแบบ Full HD เล่นภาพเคลื่อนไหวแบบช้า และฟิลเตอร์สีต่างๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Asus ZenFone Max Plus
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก Asus ZenFone Max Plus
สำหรับกล้องหน้าของ Asus ZenFone Max Plus มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 85 องศา ค่ารูรับแสง f/2.0 รองรับโหมดบิวตี้ที่ใช้งานง่ายๆ มีเอฟเฟ็กต์ปรับแต่งภาพต่างๆ โดยสามารถปรับค่าผิวขาวเนียนสวยไร้สิวปรับสมดุลของใบหน้าได้ทันทีถึง 10 ระดับ ไม่ว่าจะกำลังถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวิดีโอ หรือไลฟ์สด
โหมดบิวตี้มีให้ปรับแต่งค่าสีผิว ผิวอมชมพูปัดบรัชออน ผิวเนียนสวย ผิวขาว ความกลมโตของดวงตา และปรับความเรียวของคาง ถูกใจสายเซลฟี่อยู่ไม่น้อย จากภาพตัวอย่างเลือกปรับค่าผิวอย่างเดียวอยู่ที่ระดับ 3 ภาพที่ได้สวยเนียนเป็นธรรมชาติอยู่ โดยรวมทำออกมาได้ดีในระดับนึง มีโหมดปรับแต่งต่างๆ น่าจะถูกใจเพื่อนๆ ที่ชอบเซลฟี่ด้วยเหมือนกันค่ะ
จุดเด่น
– ใช้หน้าจอ IPS ขนาด 5.7 นิ้ว ขอบโค้ง 2.5D ระบบทัชสกรีนลื่นไหล
– ชิปเซ็ต MediaTek MT6750T แบบ Octa Core จับคู่จีพียู ARM Mali-T860
– หน่วยความจำแรมขนาด 4GB ความจุภายในตัวเครื่อง 32GB พร้อมรองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
– กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 16MP + 8MP ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม LED flash เลนส์มุมกว้าง 120 องศา ถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัด บันทึกวิดีโอได้ในระดับ 1080p@30fps
– กล้องหน้าความละเอียด 16MP เลนส์มุมกว้าง 85 องศา ค่ารูรับแสง f/2.0 มีโหมดบิวตี้ปรับผิวเนียน
– แบตเตอรี่ความจุ 4130 mAh รองรับ Fast Charging สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานจริงๆ แต่ระบบชาร์จไวยังไม่เวิร์คเท่าที่ควรค่ะ
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slots คือสามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด + microSD Card ได้อย่างพร้อมกัน เนื่องจากมีช่องที่แยกจากกัน
– สนับสนุน 4G LTE (VoLTE), Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0, Micro USB 2.0, OTG, GPS, AGPS
– รองรับ Face Unlock และ Fingerprint
– เป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 7 พันบาท สำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนแบตอึด กล้องคู่ และจอใหญ่ ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยค่ะ
ข้อสังเกต
– หน้าจอความละเอียดระดับ HD ไม่ใช่ Full HD
– โหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอยังไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่
– เครื่องได้คะแนนการทดสอบไม่แรงมากนัก ไม่เหมาะสำหรับเล่นเกมหนักๆ หรือกราฟิกเยอะๆ
– ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ดูเหมือนจะปลอดภัยมากกว่าสแกนใบหน้า
– รองรับ MicroUSB ไม่ใช่ USB-C
– เมื่อใช้งานไปได้สักพัก เครื่องจะมีอาการอุ่นๆ
– การชาร์จไฟที่รองรับ Fast Charging 5V 2A 10W ยังใช้เวลานานพอสมควร
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
– Asus Zenfone 4 Max Pro
– Gionee X1s
– Gionee A1 Lite
– Gionee M7 Power
– Huawei Y7 Prime
– nubia N2
– Xiaomi Redmi Note 4
– OPPO F5
– Moto E4 Plus
– Lenovo K8 Note
ขอขอบคุณ บริษัท เอซุสเทค (ประเทศไทย) จำกัด
Leave a Reply