รีวิว Asus ZenFone Live มาพร้อม Beauty Live เพิ่มความสวยทุกการไลฟ์สตรีมสด

รีวิว Asus ZenFone Live มาพร้อม Beauty Live เพิ่มความสวยทุกการไลฟ์สตรีมสด

สวัสดีครับเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งของทาง Asus ผ่านการรีวิวของผมครับ สำหรับสมาร์ทโฟนที่ผมจะมารีวิวในวันนี้เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในยุคนี้อย่างแน่นอน นั่นก็คือ Asus ZenFone Live ที่ถูกผลิตมาเพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับผู้ใช้งานที่ชอบอยู่ในโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของตัวกล้องที่มาพร้อมกับแอปฯ ลูกเล่นหลายรูปแบบ

ตัวอย่างเช่น การปรับแต่งรูปหน้าให้ดูเรียวได้ถึง 10 ระดับ, ปรับให้ดวงตาดูโตขึ้น, ปรับให้ผิวหน้าเนียนขึ้นแบบขาวอมชมพู และยังสามารถปรับได้ในโหมดวีดีโอแบบ Live อีกด้วย สำหรับ Asus ZenFone Live มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,990 บาทเท่านั้น ทั้งหมดนี้เป็นเพียงรายละเอียดเบื้องต้นเท่านั้น งั้นเราไปเริ่มทำความรู้จักกับเจ้า Asus ZenFone Live กันเลยดีกว่าครับ

ข้อมูลสเปค Asus Zenfone Live

Features	Asus ZenFone Live
วันเปิดตัว :	– 3 พฤษภาคม 2560
ราคา :	– 4,990.- (ณ วันที่ 27 มิ.ย. 60)
ระบบปฏิบัติการ :	– Android 6.0 Marshmallow
หน้าจอ :	– หน้าจอ IPS
	– ขนาด 5 นิ้ว
	– ความละเอียด 1280×720 พิกเซล
	– Multitouch
CPU :	– Snapdragon 410 Quad Core ความเร็ว 1.2GHz
GPU :	–
RAM :	– 2GB
ความจำตัวเครื่อง :	– 16GB
	– microSD card สูงสุด 128GB
กล้องหลัง :	– 13 ล้านพิกเซล
	– Soft light LED flash
	– ค่ารูรับแสง f/2.0
	– HDR
	– Panorama
	– Auto Focus
	– Touch Focus
	– Face Detection
กล้องหน้า :	– 5 ล้านพิกเซล
	– ค่ารูรับแสง f/2.2
	– Soft light LED flash
	– Auto Focus
	– Real Time Beautification
	– HDR Pro
	– Livestreaming
Video :	– 1080p
Battery :	– 2650mAh
ขนาด :	– 141.18×71.74×7.95 มม.
น้ำหนัก :	– 120 กรัม
รองรับซิม :	– Dual SIM
ระบบกันน้ำ :	–
ระบบเครือข่าย :	– 2G : 850/900/1800/1900 MHz
	– 3G : HSDPA 850/900/1900/2100 mAh
	– 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :	– WiFi 802.11b/g/n
	– Bluetooth 4.0
	– Micro USB 2.0
	– 3.5mm jack
GPS :	– GPS
	– A-GPS
	– GLONASS
Sensor :	– Accelerometer
	– Ambient light
	– Proximity
	– E-Compass
สี :	– ทอง
	– ชมพู
	– ดำ

แกะกล่อง Asus ZenFone Live

สำหรับตัว Asus ZenFone Live ถูกบรรจุอยู่ในกล่องสีเหลี่ยมแนวยาวสีชมพู ด้านหน้ากล่องมีรูปตัวเครื่องที่โชว์ให้เห็นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สำหรับสีของกล่องบรรจุจะเป็นสีเดียวกับสีตัวเครื่องคือถ้าเราสั่งสีอื่นกล่องก็จะเป็นสีแบบเดียวกับสีตัวเครื่องที่เราสั่งครับ

ด้านข้างของกล่องจะแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Beauty Live โหมดไลฟ์สดปรับหน้าสวย , กล้อง Selfie, LED Selfie Flash, กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิเซล, 2.5D Curved Glass และรองรับ 4G เป็นต้น

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– ตัวเครื่อง Asus ZenFone Live สีชมพู
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– สายชาร์จ micro USB
– หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ทำความรู้จักกับ Asus ZenFone Live

ด้านหน้า Asus ZenFone Live มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว  ความละเอียด 1280×720 พิกเซล ระบบทัชสกรีน ถือว่าคุ้มค่าสำหรับสมาร์ทโฟนราคาประหยัด

ด้านหน้าส่วนบน ประกอบไปด้วย เลนส์กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อมกับ LED Flash แบบ Moon Light LED Flash

ด้านหน้าส่วนล่าง มีด้วยกันทั้งหมด 3 ปุ่ม ได้แก่ ทางซ้ายคือปุ่ม Back , ตรงกลางคือปุ่ม Home และทางขวาปุ่ม Recent App

ด้านหลัง Asus ZenFone Live ด้วยการดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูเรียบหรู และน้ำหนักเบา บวกกับตัวอักษร Asus ทำให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น โดย Asus ZenFone Live มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีชมพู, สีดำ และสีทอง

ด้านหลังส่วนบน ประกอบไปด้วย เลนส์กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิเซล Soft light LED flash ค่ารูรับแสง f/2.0

ด้านหลังส่วนล่าง จะมีการระบุเลขโมเดลเครื่อง และสถานที่ผลิตเอาไว้

ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และรูไมค์ตัดเสียงรบกวน

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ลำโพงเสียง, พอร์ตเชื่อมต่อ micro USB และไมค์สำหรับสนทนา

ด้านซ้ายตัวเครื่อง จะมีเพียงแค่ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Dual SIM หรือเรียกอีกอย่างว่า Hybrid Slot ครับ

สำหรับถาดใส่ซิมแบบ Hybrid Dual SIM หรือเรียกอีกอย่างว่า Hybrid Slot ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้งานถาดซิมการ์ดที่เป็นถาดร่วม คือให้ผู้ใช้งานเลือกใช้งานว่าจะใส่ SIM + SIM เพื่อใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) หรือจะเป็น SIM + microSD Card เพื่อเลือกใช้ซิมการ์ดเดียวกับหน่วยความจำ

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยปุ่มปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

การแคปหน้าจอ กดไปที่ปุ่มพาวเวอร์ + ปุ่มลดเสียงค้างไว้ครับ

ทดสอบประสิทธิภาพ

สำหรับ Asus ZenFone Live ที่มาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 410 แบบ Quad Core ความเร็ว 1.2GHz เมื่อนำไปทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 27007 คะแนน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้สำหรับสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่ถึง 5,000 บาทครับ

สำหรับสเปคการใช้งานตามฐานข้อมูลจากแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด ระบุว่า Asus ZenFone Live มาพร้อม CPU Snapdragon 410 แบบ Quad Core ความเร็ว 1.2GHz  ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow หน้าจอความละเอียด 720×1280 พิเซล กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 4.9 ล้านพิกเซล หน่วยความจำ RAM 2GB และความจุ 16GB พร้อมกับรองรับรองรับเซ็นเซอร์ Accelerometer, Ambient light,Proximity และ E-Compass

ซอฟต์แวร์

การปลดล็อคหน้าจอตัวเครื่องด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาครับ

หน้า Home screen มีมาให้จำนวน 3 หน้าสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบครัน แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบ

เมื่อกดทัชสกรีนตรงหน้าจอด้านล่างที่มีเครื่องหมาย จุดกลม 6 จุด จะพบกับแอปฯ ที่ถูกซ่อนอยู่ภายในมีพื้นที่ Home screen ให้อีก 2 หน้า

เมื่อเราสไลด์หน้าจอจากด้านบนลงด้านล่างหนึ่งครั้งเราจะพบกับการแอปฯ ที่เราเพิ่งดาวน์โหลดและการใช้งานต่างๆ ก่อนหน้านี้ รวมทั้งแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ อีกด้วย และถ้าเราสไลด์หน้าจอจากด้านบนลงด้านล่างสองครั้งติดกันจะพบกับช่องทางการเชื่อมต่อมากมาย เช่น Wi-Fi, บลูทูธ, ไฟฉาย, ล็อกหน้าจอ, ตัวช่วยสร้างเสียง, โหมดบนเครื่องบิน และข้อมูลมือถือ เป็นต้น

 

ในส่วนของข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับตัวเครื่อง เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่โหมดการตั้งค่าแล้วเลือกไปที่เกี่ยวกับ ในส่วนนี้เมื่อกดเข้าไปแล้วจะแสดงให้เห็นถึงการอัปเดตระบบ, สถานะ, ข้อมูลทางกฎหมาย, ข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบ, หมายเลขรุ่น, เวอร์ชั่นของ Android, ระดับแพตช์ความปลอดภัยของ Android, ข้อมูลฮาร์แวร์และข้อมูลซอฟต์แวร์ครับ

สามารถดาวน์โหลดธีม หรือวอลเปเปอร์สวยๆ โดยไม่เสียค่าบริการได้ที่ร้านค้าธีมครับ

ในตัวเครื่องยังมีแอปฯ ดีๆ เกี่ยวกับคนรักสุขภาพติดมาให้ด้วย ซึ่งมีชื่อแอปฯ ว่า Asus ZenFit เป็นแอปฯ สำหรับไว้ใช้คำนวนการออกกำลังกาย และเพื่อนๆ สามารถเลือกใช้งานในโหมดต่างๆ ตัวอย่างเช่น โหมดเดินทางแอปฯ ก็จะคำนวนให้เราโดยอัตโนมัติ ถือได้ว่าเป็นแอปฯ ที่เหมาะกับคนในยุคปัจจุบันมากครับ

ในส่วนนี้จะเป็นแอปฯ สำหรับไว้ตรวจเช็คมือถือของเราในเรื่องการใช้งานต่างๆ

เพื่อนๆ สามารถโหลดแอปฯ หรือเกมส์ต่างๆ ได้ที่ Play Store ครับ

สำหรับ Asus ZenFone Live นั้นผมได้ลองโหลดเกมยอดฮิตอย่าง ROV มาเล่นเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่อง โดยปรับความคมชัดของภาพในตัวเกมเป็นแบบ HD หลังจากที่ลองเข้าไปเล่นดูแล้วพบว่า Asus ZenFone Live เกิดอาการภาพกระตุกเล็กน้อย แต่ก็สามารถเล่นได้ครับผม

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

กล้องหน้า Asus ZenFone Live

ในส่วนของกล้องหน้าบอกได้เลยว่ามันคือคุณสมบัติเด่นของ Asus ZenFone Live เลยก็ว่าได้ และคิดว่าน่าจะเหมาะสำหรับสาวๆ เพราะมีโหมดเพิ่มความสวยให้เลือกใช้งาน โดยมีโหมดต่างๆ ดังนี้ ทำหน้าให้เรียวได้ถึง 10 ระดับ, ปรับให้ตาโตขึ้น 10 ระดับ, ปรับหน้าเนียนอีก 10 ระดับ และยังปรับหน้าให้ดูขาวอมชมพูได้อีกด้วย

ในส่วนของกล้องหน้าก็ยังมีโหมดอื่นๆ ให้เพื่อนๆ ได้เลือกใช้งานอีกหลายโหมดด้วยกันครับ ไม่ว่าจะเป็น โหมดถ่ายภาพในตอนกลางคืน, โหมด HDR Pro, โหมดแสงน้อย และยังสามารถใส่เอฟเฟ็กต์ต่างๆ ได้อีกด้วยครับ

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะครับสำหรับ Asus ZenFone Live ยังมีแอปฯ สำหรับการไลฟ์สตรีมสดได้ทั้ง Youtube, Facebook, Instagram และในขณะการไลฟ์สตรีมสดยังสามารถปรับแต่งใบหน้าให้ดูสวยได้ถึงอีก 10 ระดับ รับรองว่าการไลฟ์สตรีมสดทุกครั้งของเพื่อนๆ จะต้องออกมาดูสวยดูหล่อแน่นอนครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้าจาก ASUS Zenfone Live

ทั้งหมดนี้คือภาพถ่ายในโหมดเพิ่มความสวยจากกล้องหน้าของ Asus ZenFone Live ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่ผมให้พี่ที่บริษัททดลองใช้งานในทุกโหมด โดยให้ปรับแค่ระดับ 5 ของทุกโหมดครับ ซึ่งจากภาพจะเห็นได้ถึงความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับภาพแรกที่ไม่ได้ใช้โหมดเพิ่มความสวยครับ

กล้องหลัง Asus ZenFone Live

ในส่วนของกล้องหลังก็จะมีโหมดหลักๆ ด้วยกันสองโหมด คือโหมดถ่ายภาพ และถ่ายวีดีโอ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถกดถ่ายวีดีโอได้ทันทีที่ปุ่มสีแดง ตัวกล้องก็จะทำการบันทึก และขึ้นเวลาบอกที่ด้านบนครับ และหากกดไปที่สัญลักษณ์สี่เหลี่ยมด้านล่างทางขาวมือ (ตามภาพ) ก็จะแสงโหมดการใช้งานต่างๆ ขึ้นมาให้เลือกใช้งาน

โหมดของการใช้งานมีดังนี้

– โหมดอัตโนมัติ กล้องจะทำการปรับทุกอย่างให้เราเองไม่ว่าในตอนนั้นเราจะยู่ในสภาพแสงแบบไหนก็ตาม

– โหมด HDR Pro กล้องจะทำการเพิ่มความคมชัดทั้งภาพ และสีของภาพ

– โหมดเพิ่มความสวย จะเหมือนกับในโหมดเพิ่มความสวยของกล้องหน้าที่หรับแต่งความสวยได้ถึง 10 ระดับเช่นกัน

– โหมดความละเอียด ตัวกล้องจะทำการเพิ่มความละเอียดให้กับภาพที่เราถ่าย เมื่อเลือกใช้โหมดนี้จะต้องรอการประมวนผลของกล้องสักเล็กน้อย

– โหมดเด็ก ตัวกล้องจะทำการล็อกภาพที่ใบหน้าของเด็กเพื่อลดปัญหาเวลาเราอยากถ่ายรูปเด็กแล้วเด็กไม่อยู่นิ่งๆ ให้เราถ่าย

– โหมดแสงน้อย ใช้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยแต่อาจต้องรอการประมวลผลสักระยะและสีของภาพจะออกโทนฟ้า

– โหมดกลางคืน ใช้ถ่ายภาพในที่มืดหรือใกล้มืดอาจจะต้องรอการประมวลผลของตัวกล้องสักระยะ

– โหมดเอฟเฟ็กต์ สามารถเลือกใช้ได้ตามชอบ

– โหมดเซลฟี่ ในโหมดนี้เราสามารถเลือกจะนวนใบหน้าได้ถึง 4 ใบหน้า โดยกล้องจะทำการล็อกโฟกัสที่ใบหน้าให้เราโดยอัตโนมัติ

– โหมดพาโนรามา คือโหมดถ่ายภาพหลายๆ ภาพมาต่อกัน เพื่อนๆ สามารถเลือกใช้งานโหมดนี้เพื่อเพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพได้

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Asus ZenFone Live

กล้องหลัง Asus Zenfone Live มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 Soft light LED flash จากการทดลองถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ พบว่ากล้องหลังมีความคมชัดพอสมควรแต่ในบางโหมดการใช้งานอาจจะต้องรอการประมวลผลของตัวกล้องสักระยะหนึ่ง ตัวอย่างเช่นในโหมดความละเอียดพิเศษเมื่อถ่ายภาพไปแล้วจะต้องถือ Asus ZenFone Live ค้างไว้และรอการประมวลผลของกล้องครับ

จุดเด่น

– มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Dual SIM ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้งานถาดซิมการ์ดที่เป็นถาดร่วม คือให้ผู้ใช้งานเลือกใช้งานว่าจะใส่ SIM + SIM เพื่อใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM) หรือจะเป็น SIM + microSD Card เพื่อเลือกใช้ซิมการ์ดเดียวกับหน่วยความจำ
– แบตเตอรี่ความจุ 2650mAh ใช้งานได้นานพอสมควร
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิเซล มีโหมดเพิ่มความสวยได้ถึง 10 ระดับ และยังมีแอปฯ BeautyLive ที่ไว้เพิ่มความสวยอีก 10 ระดับสำหรับในการ Live Facebook, Youtube และ Instagram
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม Soft light LED flash ภาพคมชัดพอสมควร
– ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 410 แบบ Quad Core ความเร็ว 1.2GHz
– หน่วยความจำ RAM 2GB + ความจำตัวเครื่อง ROM 16GB เพิ่มความจุได้ด้วย microSD สูงสุด 128GB
– ทำงานลื่นไหลด้วยระบบปฏิบัติการบนพื้นฐาน Android 6.0.1 Marshmallow
– ตัวเครื่องมีน้ำหนักแค่ 120 กรัมเท่านั้น ถือว่ามีน้ำหนักเบามาก
– สนับสนุน 2G : 850/900/1800/1900 MHz, 3G : HSDPA 850/900/1900/2100 mAh, 4G LTE
– รองรับ Wi-Fi: 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.0, GPS, micro USB 2.0
– ราคาไม่ถึง 5,000 บาท

ข้อสังเกต

– จากการใช้งานจริงของ Asus ZenFone Live เมื่อโหลดเกม ROV มาเล่นแล้วปรับความคมชัดของตัวเกมเป็นแบบ HD พบว่าตัวเครื่องมีอาการภาพกระตุกเล็กน้อย
– ในส่วนของกล้องหน้าที่มีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล ถือว่าค่อนข้างน้อยไปสักหน่อย หากเพิ่มความละเอียดขึ้นไปอีกนิดจะเพอร์เฟคมากกว่านี้
– โหมดของการถ่ายภาพความละเอียดพิเศษตัวกล้องมีการประมวลผลของภาพช้าไปนิดหน่อยครับ

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

– Huawei GR3
– OPPO Mirror 5
– HTC Desire 650
– Sony Xperia M4 Aqua
– Nokia 3
– Nokia 5
– vivo Y55
– Wiko U feel LITE

ขอขอบคุณ บริษัท เอซุสเทค (ประเทศไทย) จำกัด