รีวิว Asus ZenFone 5 สวยเฉียบครบทุกความต้องการในราคาสุดคุ้ม

 รีวิว Asus ZenFone 5 สวยเฉียบครบทุกความต้องการในราคาสุดคุ้ม

Asus Zenfone 5 กับราคาเปิดตัว 5,990 บาท  สร้างความปั่นป่วนในตลาดโทรศัพท์มือถือของเมืองไทยได้ทันทีที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป  เพราะดีไซน์ที่ยอดเยี่ยม บวกกับสเปคที่ดีเยี่ยมไร้ที่ติในทุกด้าน  ทำให้กลายเป็น Smartphone ที่หลายคนอยากได้ และพร้อมซื้อทันทีที่วางจำหน่าย ในราคาที่ไม่ต้องลังเลอีกแล้ว

เอซุส จะเริ่มจำหน่าย ZenFone 5 ในประเทศไทย ประมาณกลางเดือนพฤษภาคมนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ ผ่านทางช่องจำหน่ายร้านค้าโทรศัพท์มือถือและร้านค้าคอมพิวเตอร์ ซึ่งจำหน่ายแทบเล็ตและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอยู่ก่อนแล้ว น่าเสียดายที่วางจำหน่ายไม่ทันในงาน Thailand Mobile Expo วันที่ 8-11 พฤษภาคมนี้

เดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา  Asus ZenFone ได้รับรางวัลชนะเลิศ reddot award 2014  เป็นสิ่งการันตีได้อย่างดีว่า ดีไซน์ยอดเยี่ยมระดับโลก  น่าจะเป็น Smartphone ที่สวยที่สุดในโลกแล้วในปีนี้

Asus ในรุ่น ZenFone 5  มีด้วยกัน 5 สี คือ สีม่วง, ขาว, แดง, ดำ และสีทอง  นับเป็น Surprise อย่างมากที่โทรศัพท์มือถือราคา 5,990 บาท มีสีทองให้เลือกด้วย เป็นสีที่ผู้คนในแถบเอเชียชื่นชอบ สะท้อนรสนิยมหรู

สำหรับสีแดง หากใครได้สัมผัสเครื่องจริง จะต้องชื่นชอบ เพราะมีผิวสัมผัสที่ดีมาก ไม่ลื่นมือจนเกินไป สีแดงสวยงาม ไม่ได้แววแบบมันวาว แต่ก็เงางามไปกับการสะท้อนของมุมแสงไฟ

ในอดีต หากต้องการครอบครองโทรศัพท์สีแดงแบบนี้ จะต้องจ่ายเงินเกินสองหมื่นบาท เพื่อเลือกรุ่นท็อปสุดของ HTC ในสมัยนั้น แต่ปัจจุบันด้วยราคาเพียง 5 พันปลายๆ ก็สามารถซื้อได้แล้ว

มาดูด้านหน้ากันบ้าง เป็นกระจก Gorilla Glass 3 ป้องกันรอยขีดข่วน ทนทาน เคลือบดำตัดแสงสะท้อน ทำให้ภาพชัดใสมาก ให้สีดำที่มีมิติ และป้องกันรอยนิ้วมือได้ในระดับหนึ่ง เช็ดทำความสะอาดง่าย

ด้านล่าง ใช้วัสดุที่ดี เงางามเหมือนอลูมิเนียมกลึง คล้ายกับคอมพิวเตอร์ Asus ZenBook ในอดีต

ด้านบน มีช่องลำโพงเป็นขีดสีเงิน และรูกล้องหน้าขนาดเล็ก ดูเรียบหรู

ด้านข้างทุกด้าน จะเห็นเป็นสีเครื่องตามฝาหลังนั่นเอง วัสดุดีเยี่ยมในทุกส่วน

ปุ่มที่สันด้านข้างเครื่อง จะมาอยู่รวมกันที่สันเครื่องด้านขวาทั้งหมด ด้านอื่นก็เนียนเรียบ  จากภาพจะเห็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียง  ตำแหน่งของปุ่ม เกือบตรงกับปลายนิ้วทั้ง 3 เมื่อถือเครื่องด้วยมือข้างซ้าย  ถ้าปุ่มเหล่านี้เลื่อนลงมาอีกนิด จะตรงกับปลายนิ้วพอดี แต่ก็ไม่มีปัญหาในการใช้งาน สามารถคลำหาในขณะโทรคุยได้ไม่ยาก

ด้านบนฝั่งซ้าย จะเป็นช่องต่อหูฟัง  และรูเล็กๆ เป็นไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวน

หน้าจอ Lock Screen ของ ZenFone ที่มาพร้อมกับ Asus ZenUI ทุกรุ่น สวยงามลงตัวทั้งตัวเครื่องและซอฟต์แวร์ภายในเครื่อง นี่คือความสมบูรณ์แบบที่หลายคนชื่นชอบ

ZenUI เป็นระบบ Interface ที่สวยงาม ทันสมัย สีสันสดใส ลื่นไหล ตอบสนองได้น่าประทับใจมาก ไม่ช้าหน่วง และไม่เปลืองหน่วยความจำของตัวเครื่อง  ถือว่าในปัจจุบัน Interface ZenUI ของ Asus ZenFone  มีความสวยงามและตอบสนองได้รวดเร็วที่สุด ดีกว่า HTC, Sony, Samsung, LG ที่พยายามออกแบบให้สวยงาม แต่ผู้ใช้กลับไม่ประทับใจ เพราะตอบสนองไม่ทันใจ

จากสเปคของ Asus ZenFone 5  จะเห็นได้ว่า ใช้ CPU Intel Atom แบบหลาย Core คล้ายกับที่ใช้ในคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก ที่เรียกว่า NetBook ในอดีต  ปัจจุบันถูกพัฒนาให้เล็กลงมาก เพื่อมาใช้กับ Smartphone ได้  ยังคงประสิทธิภาพของความเร็วที่ดี แต่ประหยัดพลังงานและไม่มีปัญหาเรื่องความร้อน

จอภาพขนาด 5 นิ้ว ใหญ่กำลังดี จับถนัดมือมากที่สุดแล้ว  ใช้จอภาพคุณภาพสูงมาก แบบ IPS เคลือบดำตัดแสงสะท้อน  ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล  แม้ว่ายังไม่ใช่ความละเอียดสูงขนาด Full HD แต่ก็ค่อนข้างคมกริบ จุดเม็ดพิกเซลมีขนาดเล็กมาก ให้สีสันที่สวยงามเทียบเท่าโทรศัพท์มือถือราคาเกิน 15,000 บาทเลยทีเดียว  หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้ว ในระดับราคานี้ของคู่แข่ง จะเป็นจอภาพคุณภาพต่ำ ภาพหยาบ ไม่เคลือบดำตัดแสง สีสันไม่สดใส และมีมุมมองจอภาพที่แคบกว่า  ต้องยอมรับว่าจอภาพชนิด IPS เป็นจอแสดงผลที่ดีที่สุด  รวมทั้งในรุ่นนี้เป็นจอภาพที่ทนทานต่อการขีดข่วนได้ดี และใช้งานได้แม้สวมถุงมือ ไม่มีปัญหาในฤดูหนาวกลางหิมะ

กล้องถ่ายภาพด้านหลัง ให้ภาพที่สวยงามอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่า ระดับราคานี้จะทำได้  ใช้เซนเซอร์ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 ออโต้โฟกัส ที่เรียกว่า Asus PixelMaster Camera  ทำให้ภาพถ่ายมีความสว่างและคมชัด เก็บรายละเอียดได้ดีแม้ในสภาวะแสงน้อย  มาพร้อมกับ LED Flash แบบ 1 ดวง ก็ถือว่าสว่างเพียงพอแล้ว

ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องหลังของ Asus ZenFone 5 ที่ไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆ คลิกเพื่อดูขนาดจริง 100%

คุณภาพของภาพถ่ายจากกล้องหลัง ถือว่ายอดเยี่ยมเกินราคา เทียบเท่า Smartphone ราคา 1-2 หมื่นบาท หรือดีกว่าด้วยซ้ำไป เพราะใช้ Sensor BSI จาก Sony  ส่วนกล้องหน้าใช้ Sensor แบบธรรมดาจาก Panasonic ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่ให้ภาพถ่ายค่อนข้างมืด ไม่ค่อยคมชัดในสภาวะแสงน้อย

ช่องลำโพงขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง  ลำโพงระบบ Asus SonicMaster ให้เสียงที่ชัดใส ไม่แหลมจัดจ้านเกินไป มีเสียงเบสพอประมาณ เสียงไม่แตกพร่าเมื่อเปิดดัง

มาดูดีไซน์ของตัวเครื่องในทุกมุมกันอีกครั้ง ก่อนจะไปดูกันในส่วนของซอฟต์แวร์

อ่านมาถึงจุดนี้แล้ว ก็คงจะประทับใจกันในส่วนของดีไซน์และสเปคที่สวยงามลงตัว คุ้มค่าเกินราคาจริงๆ  แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ต้องพูดถึงกันเพิ่มเติม ได้แก่

  • ROM ของตัวเครื่องมีขนาด 8GB ก็ยังเหลือเพียงพอสำหรับการติดตั้งแอพพลิเคชั่นทั่วไปมากมาย  แต่สำหรับเกมและการเก็บข้อมูลที่เป็นภาพถ่าย วิดีโอ เพลง ภาพยนตร์ แนะนำให้เก็บลง microSD card ที่รองรับได้ถึง 64GB
  • รับรอง microSIM card 2 ซิม เหมาะสมกับไลฟสไตล์ของคนไทย
  • มาพร้อมกับ Android 4.3 ที่จะอัพเกรดเป็น 4.4 ได้ในอนาคต
  • แบตเตอรี่ขนาด 2,110 mAh ซึ่งถือว่าเยอะเพียงพอกับการใช้งานเต็มวันพอดี
  • มีวิทยุ FM ซึ่งรุ่นแพงๆ ของยี่ห้อดัง ตัดวิทยุทิ้งไปหมดแล้วอย่างไร้เหตุผล

ทั้งหมดนี้ คือข้อมูลของตัวเครื่อง สำหรับให้ผู้อ่านพิจารณาประกอบการตัดสินใจ  หลายคนอ่านแล้วก็คงตัดสินใจซื้อได้ทันทีแบบไม่ลังเล เพราะไม่มีอะไรจะคุ้มค่าเท่านี้แล้ว กับเงิน 5,990 บาท  ดีเยี่ยมทุกอย่าง จะมีให้ติก็เพียงเรื่องเดียว คือ กล้องหน้าที่ไม่ค่อยถูกใจคนชอบถ่าย Selfie  ส่วนเรื่องศูนย์บริการ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะติดต่อกับทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายหรือจุดรับเครื่องซ่อมแห่งเดียวกับผลิตภัณฑ์กลุ่มคอมพิวเตอร์ Asus ได้เลย

มาดูในส่วนของซอฟต์แวร์กันบ้าง

   

หน้าจอ Lock Screen จะมีบอกนาฬิกา สภาพอากาศ และปุ่มลัดสำหรับเข้าสู่กล้องถ่ายภาพ / โทรศัพท์ / ส่ง SMS  เมื่อปลดล็อคหน้าจอก็จะพบกับ Home Screen ที่เรียบง่าย ทันสมัย ปรับแต่งได้ตามใจชอบ

     

หน้า Notification Center เป็นไอคอนกลมดูทันสมัยและสวยงาม เข้าใจง่าย เปิดปิดฟังก์ชั่นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

     

เมนูการตั้งค่า สวยงาม เป็นระเบียบดีมาก  มาพร้อมกับ Android 4.3 ที่ต้องรอคอยการอัพเดตในอนาคต  แต่ในความเป็นจริง 4.3 ก็ใช้งานได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาหรือข้อจำกัดอะไรที่จำเป็นต้องเลือกซื้อ Android 4.4 เท่านั้น  เรื่องนี้ไม่ได้ถือเป็นข้อบกพร่อง เพราะลูกเล่นของเวอร์ชันเก่ากับใหม่ แตกต่างกันเล็กน้อย

     

สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้ Smartphone ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Easy mode  เพื่อให้ดูใช้งานง่ายเหมือนโทรศัพท์มือถือธรรมดาๆ  หน่วยความจำมีเหลือให้ใช้งานได้เกือบ 5GB  ส่วนในหน้า Lock Screen ก็สามารถปรับแต่งได้อิสระ

     

ตั้งค่าการใช้งานทั้งสองซิมการ์ด แยกดูปริมาณ Data ได้  ส่วนการติดตั้งเกมลงในหน่วยความจำเครื่อง ทำให้หน่วยความจำเครื่องเต็มเร็ว จะต้องย้ายไปที่ microSD card

     

ฟังก์ชั่นประหยัดพลังงาน ยืดอายุแบตเตอรี่  และถัดไปเป็น Share Link แชร์ข้อมูลระหว่างเครื่อง ที่มี Wizard ให้ผู้ใช้เชื่อมต่อและแชร์ข้อมูลกันได้ง่ายๆ

        

มีแอพสำหรับการจดหรือวาดลง Note และถัดไปเป็นการปรับค่าสีของจอภาพ

     

แอพใช้ ZenFone เป็นรีโมทคอนโทรลควบคุมคอมพิวเตอร์, MyAsus สิ่งดีๆ ที่เอซุสมอบให้ผู้ใช้, แอพบันทึกเสียง

     

วิทยุ FM, แอพเล่นเพลง, แอพไฟฉาย

     

แอพจัดการไฟล์, แอพอีเมล, แอพบันทึกงานที่ต้องทำ

     

เมนูเกี่ยวกับนาฬิกาและการจับเวลา

     

เมนูการจัดการสมุดโทรศัพท์

     

เมนูปรับแต่งโหมดเสียง, ตารางนัดหมายบนปฏิทิน, เครื่องคำนวณ

     

เมนูโทรศัพท์, โหมดการใช้พลังงาน, Link ให้สั่งงาน ZenFone ได้บนจอภาพคอมพิวเตอร์

  

เมนูโยนภาพจาก ZenFone ออกจอทีวี  และ Asus ให้พื้นที่เก็บข้อมูล 5GB บน Cloud แบบตลอดชีพ

บทสรุป

ทั้งหมดนี้ เป็นลงตัวที่สมบูรณ์แบบทั้งด้านดีไซน์ สเปค ลูกเล่นมากมาย แต่ราคาเพียง 5,990 บาท  จึงไม่ต้องแปลกใจว่า Asus ZenFone 5 น่าจะขายดีจนขาดตลาดในบางช่วงเวลาหรือบางสี เพราะความเหนือชั้นกว่าคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันนั่นเอง ราคาถูกเกินคาดขนาดนี้ ไม่มี Android phone รุ่นไหนจะให้ได้เท่านี้จริงๆ  และเชื่อว่าหลายยี่ห้ออาจต้องปรับลดราคาลงมาสู้จนได้

ตัวเลือกอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน