รีวิว Asus Zenfone 2 Laser ZE550KL โฟกัสชัดเป๊ะ แม่นยำรวดเร็วแม้ในที่มืด

รีวิว Asus Zenfone 2 Laser ZE550KL โฟกัสชัดเป๊ะ แม่นยำรวดเร็วแม้ในที่มืด

TY-Asus-Zenfone-2-Laser-2

แนะนำ Asus Zenfone 2 Laser (ZE550KL) 1.2GHz/2GB/16GB

ทันทีที่เปิดตัว Zenfone 2 Laser สู่สาธารณชนครั้งแรกในโลก  ก็สร้างความฮือฮาได้อยู่ไม่น้อย เพราะเอซุส กล้าที่จะนำเอา Laser ช่วยโฟกัสถ่ายภาพในที่มืด ที่มีในสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปสุดระดับเรือธงของแบรนด์อื่นระดับราคาเฉียด 2 หมื่นบาท มาใส่ไว้ใน Zenfone 2 Laser ที่ราคาจำหน่ายถูกกว่า 3 เท่า!!

ไม่ใช่สักแต่ว่ามีเลเซอร์ช่วยโฟกัส แล้วใช้งานไม่ดีเท่ารุ่นเรือธงระดับ 2 หมื่นบาท  จากการทดสอบใช้งานตลอด 2 สัปดาห์ก่อนเขียนบทความรีวิวชิ้นนี้  ได้ทดสอบแล้วว่า เลเซอร์ที่มีใน Zenfone 2 Laser นั้น สามารถช่วยโฟกัสได้ดี ทำงานได้เร็ว แม่นยำในทุกสภาพแสงจริง เทียบเท่ารุ่นแพง ๆ ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ

สเปคและราคา Asus Zenfone 2 Laser

12186343_1078975055470591_4666887720126749086_o

รหัสรุ่น ZE550KL เป็นรุ่นท็อปสุดจากตระกูล Zenfone 2 Laser ที่เลือกมารีวิวในบทความนี้ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 6,990 บาทเท่านั้น มีของแถมเพิ่ม คือ ZenPower (Power Bank คุณภาพดี) กับหูฟัง ZenEar จากงาน Commart Comtech ต้นเดือน พ.ย. 2558 ที่ผ่านมาครั้งล่าสุด ซึ่งมีสเปคที่น่าสนใจ ดังนี้

  • CPU Quad Core Qualcomm Snapdragon 410 1.2GHz (64 Bit) + Android 5.0 (64 Bit)
  • GPU Adreno 306 ประมวลผลกราฟฟิก
  • หน้าจอ 5.5 นิ้ว IPS HD 1280×720 Corning® Gorilla® Glass 4
  • แรม 2GB / หน่วยความจำ 16GB เพิ่มความจุได้ด้วย microSD
  • 2 SIM 4G LTE 150 Mbps (รองรับ 2G/3G/4G ทั้งสอง SIM)
  • PixelMaster Camera กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล / กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล
  • Battery แบบ Lithium-Polymer ความจุสูงถึง 3000mAh

4 จุดเด่นที่สำคัญของ Asus Zenfone 2 Laser

1) เลเซอร์โฟกัสที่กล้องหลัง ทำให้จับโฟกัสภาพได้รวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียงแค่ 0.03 วินาที

euoewutpowut

ปกติแล้ว การโฟกัสภาพของกล้องในสมาร์ทโฟน จะใช้การจับภาพและประมวลผลของเซ็นเซอร์รับภาพ ซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้เมื่อถ่ายภาพในที่มีแสงน้อย  เนื่องจากเซ็นเซอร์ไม่สามารถรับภาพเพื่อประมวลผลสำหรับการโฟกัสได้

ซึ่งที่ผ่านมา กล้องและสมาร์ทโฟนบางรุ่นจะแก้ไขด้วยการยิงแฟลชขึ้นมาหนึ่งครั้ง เพื่อช่วยในการจับภาพก่อนถ่ายจริง ทำให้การเก็บภาพช้า ไม่ทันใจ จนบางครั้งอาจทำให้พลาดช่วงเวลาสำคัญไป  แต่สำหรับใน Zenfone 2 Laser ที่มีการเพิ่มแสงเลเซอร์เข้ามาในกล้องหลัง  ซึ่งแสงเลเซอร์นี้จะยิงตรงไปยังวัตถุที่ต้องการเก็บภาพ แล้วสะท้อนกลับมา เพื่อให้กล้องสามารถประมวลผลพร้อมปรับระยะโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

โดยเฉพาะในที่มีแสงน้อย Zenfone 2 Laser ก็จะจับโฟกัสได้เร็วและแม่นกว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบโฟกัสแบบปกติ  ทำให้สามารถจับและถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ หรือจะถ่ายภาพบุคคลก็ทันต่อทุกสถานการณ์

2) กล้องหลังและกล้องหน้าความละเอียดสูง มีโหมดให้ใช้มากมาย พร้อมแฟลช Real Tone ไฟสองสี

Asus-Zenfone-2-Laser-Camera

กล้องหลังของ Zenfone 2 Laser มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (ZE550KL / ZE500KL) ซึ่งนอกเหนือจากความละเอียดภาพที่สูงแล้ว ยังมีชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับรูปถ่ายของคุณได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ 5 ชิ้น ซึ่งช่วยให้ภาพออกมาคมชัด สีสันสดใส พร้อมด้วยค่ารูรับแสงกว้างถึง f/2.0 ช่วยให้การเก็บแสงสว่างในภาพทำได้ดีขึ้น ได้ภาพที่สว่าง มีมิติชัดตื้น ได้ภาพสวยงาม สำหรับกล้องหน้าก็ให้ความละเอียดสูง 5 ล้านพิกเซล เพื่อภาพที่คมชัดสวยงาม ทั้งยังได้ภาพที่ครบถ้วนด้วยเลนส์ที่เก็บภาพได้กว้างถึง 85 องศา จึงทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกับเพื่อน ๆ เป็นเรื่องง่าย  ส่วนแฟลชแบบ Real Tone นั้น ใช้หลักการผสมแสงจากไฟแฟลช 2 สี เพื่อให้แสงแฟลชที่ออกมายังตัวแบบดูเป็นธรรมชาติ ให้ภาพที่ไม่สว่างเกินจริง

อีกจุดเด่นของกล้องถ่ายรูปใน ASUS Zenfone 2 Laser ก็คือโหมดการถ่ายภาพที่มีมาให้เลือกใช้มากมายกว่า 18 โหมด เพื่อให้สะดวกต่อการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Low Light ที่ออกแบบมาสำหรับถ่ายภาพในที่มีแสงน้อย หรือจะเป็นโหมด Super Resolution ที่ช่วยให้สามารถเก็บภาพได้ความละเอียดสูงสุดถึง 52 ล้านพิกเซล รวมถึงโหมด Manual ที่เปิดให้ผู้ใช้งานปรับตั้งค่าก่อนถ่ายภาพด้วยตนเองได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นค่าความเร็วชัตเตอร์ ระยะโฟกัส ค่าความไวแสง เป็นต้น

3) รองรับ 4G LTE ทั้งสองซิม (ZE550KL / ZE500KL)

review_asus_zenfone2laser_20151031_161513

Zenfone 2 Laser มาพร้อมกับการรองรับ 2 ซิมแบบ Dual SIM Dual Stand by โดยรองรับการเชื่อมต่อ 4G/3G/2G ทั้งสองซิม  ทำให้นอกจากจะสามารถสแตนด์บายรับสายได้ทั้งคู่พร้อมกันแล้ว ยังทำให้การสลับใช้งานแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องง่ายอีกด้วย  ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่จำเป็นต้องใช้เน็ตทั้งสองซิม สลับกันใช้ตามสถานที่และสถานการณ์ เช่น ซิมหนึ่งเป็นเน็ตส่วนตัว อีกซิมเป็นซิมเน็ตของออฟฟิศสำหรับใช้ทำงานโดยเฉพาะ เป็นต้น

ซึ่งการใช้งานร่วมกับ Zenfone 2 Laser ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน 4G LTE ได้เต็มความเร็วแบบไม่ต้องสลับซิมไปมาเหมือนในสมาร์ทโฟนทั่วไปที่ช่องซิมสองมักจะรองรับแค่การเชื่อมต่อแบบ 3G/2G เท่านั้น หรือในอีกกรณีก็คือผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ แล้วจำเป็นต้องซื้อซิมของต่างประเทศเพื่อใช้งาน ก็สามารถซื้อซิมมาใช้กับช่องใส่ซิมใดก็ได้ ไม่จำเป็นว่าต้องใส่ร่วมกับช่องหนึ่งเท่านั้น เพิ่มความสะดวกในการใช้งานขึ้นไปอีกระดับ

4) กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4

GORILLA GLASS ASUS ZEN FONE 2

Zenfone 2 Laser มาพร้อมกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4 จาก Corning ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องของความทนทานที่สูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นความทนทานต่อรอยขีดข่วน การกระแทก การตกกระทบ ทำให้หน้าจอของ Zenfone 2 Laser มีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการวางเครื่องบนโต๊ะแบบคว่ำหน้าจอ ใส่เครื่องไว้ในกระเป๋าถือ ก็ทำได้สบาย  นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการส่งผ่านแสงที่ดี ทำให้แสงสว่างและสีสันจากจอแสดงผล ส่งมาถึงตาผู้ใช้งานได้โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพลง ทำให้หน้าจอ Zenfone 2 Laser มีทั้งความแข็งแกร่งและความสวยงามในเวลาเดียวกัน

 

แกะกล่อง Asus Zenfone 2 Laser

review_asus_zenfone2laser_20151031_160634

Zenfone 2 Laser ที่ได้รับมารีวิวจาก Asus Thailand ในครั้งนี้ เป็นเครื่องที่มาพร้อมกับฝาหลังสีขาว และแถมฝาหลังสีทองมาให้อีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งปกติไม่ได้แถม  แต่เห็นว่าคนไทยชื่นชอบความหรูหราของสีทองมากกว่าสีขาว จึงขอเปลี่ยนฝาหลังเป็นสีทองแทน

review_asus_zenfone2laser_20151031_161322

review_asus_zenfone2laser_20151031_161333

review_asus_zenfone2laser_20151031_161338

สีขาวและสีทอง สะท้อนบุคลิกที่แตกต่างกัน อาจจะซื้อฝาหลังเพิ่มได้ที่ศูนย์บริการ เพื่อเปลี่ยนสีให้เข้ากันกับแฟชั่นเครื่องแต่งกาย หรือเปลี่ยนเพื่อแก้เบื่อก็ได้ ถือว่าเรียบหรูดูดีทั้งสองสี

kv-product

สีแดงกับสีเทา ก็ดูสวยงาม ถ้าเลือกไม่ถูก ก็ซื้อฝาหลังไว้เปลี่ยนให้ครบทุกสีก็ได้

review_asus_zenfone2laser_20151031_161524

ฝาหลัง แกะได้ค่อนข้างยาก เพราะแน่นหนามาก และแข็งแรงมากกว่าสมาร์ทโฟนยี่ห้อดังบางราย

review_asus_zenfone2laser_20151031_161504

แบตเตอรี่ ถอดเปลี่ยนได้ ความจุสูงถึง 3000mAh ใช้งานได้ยาวนาน

review_asus_zenfone2laser_20151031_160835

review_asus_zenfone2laser_20151031_160850

review_asus_zenfone2laser_20151031_160910

หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว ตัวเครื่องจึงมีขนาดใหญ่ แต่ฝาหลังโค้งรับอุ้งมือ บวกกับขอบสันเหลี่ยมหนา 3.9 mm. ทำให้จับได้ค่อนข้างพอดีมือ ไม่ลื่นหลุดมือแล้วตกหล่นได้ง่าย  งานประกอบถือว่าดีสมราคา แข็งแรง ไม่มีเสียงกรอบแกรบ

review_asus_zenfone2laser_20151031_160702

ช่องลำโพง รูขนาดเล็กเรียงเป็นแนวยาว ดูดีทีเดียว

review_asus_zenfone2laser_20151031_160651_001

review_asus_zenfone2laser_20151031_160710

กล้องหลัง ไฟแฟลชทูโทน และช่องยิงเลเซอร์โฟกัส พร้อมปุ่ม Volume ด้านหลัง

review_asus_zenfone2laser_20151031_161147

ปุ่ม Volume ขนาดใหญ่ที่ด้านหลัง ตรงกับตำแหน่งวางนิ้วชีพอดี ทำให้ปรับระดับเสียงในขณะสนทนาได้สะดวก หรือใช้เป็นปุ่มชัตเตอร์กดถ่ายภาพ Selfie ก็ได้เช่นกัน สะดวกดี

review_asus_zenfone2laser_20151031_161045

review_asus_zenfone2laser_20151031_161033

review_asus_zenfone2laser_20151031_161006

เสน่ห์ของตระกูล Zenfone 2 อยู่ที่ฝาหลังที่เรียบหรูสไตล์ Zen ดูดีแม้ว่าวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกล้วน แต่แข็งแรง ไว้ใจได้ ใส่ใจทุกรายละเอียด

 

ทดสอบประสิทธิภาพ

sdkjlsdkjglksd klfjlkjglweoghwegl kdflkjgoirngoinrog glkhroighoiwrghoirgh ngklnglknalgnrgp kegkerkjgeowfoiuw

Asus Zenfone 2 Laser ทำคะแนน Benchmark ได้ดีน่าพอใจ ถือว่าคุ้มค่ากับราคา 6,990 บาท ลื่นไหลดี ไม่มีอาการหน่วง ตอบสนองเร็ว หน้าจอสัมผัสไวและแม่นยำ

IMG_1520

ทดสอบเล่นเกมยอดนิยม ใหม่ล่าสุดอย่าง Need for Speed : No limit  ความคมชัดระดับ HD บนหน้าจอรุ่นนี้ ก็ถือว่าให้อรรถรสที่ดีพอสมควร แม้ว่าไม่คมกริบอย่าง Zenfone 2 รุ่นที่เป็นหน้าจอ Full HD ก็ตาม แต่ก็ได้ข้อดีตรงที่ประหยัดพลังงานกว่า เล่นเกมต่อเนื่องมีความร้อนน้อยกว่าที่คิด ยังไม่รู้สึกว่าร้อนในระดับอุ่น ๆ ทำให้เล่นเกมต่อเนื่องได้นาน แบตเตอรี่ลดระดับช้า  รวมทั้งทดสอบการเปิด Youtube หรือชมภาพยนตร์ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น ก็ไม่รู้สึกถึงความร้อนเลย  ถือว่าทำได้น่าพอใจ แต่ถ้าอยากได้ความคมชัดมากกว่านี้ ก็คงต้องเพิ่มงบอีกเล็กน้อย ขยับไปเล่น Zenfone รุ่นที่ใช้จอภาพระดับ Full HD

ในส่วนของ Software ก็ยังคงสวยงามดูดีและใช้งานง่ายตามสไตล์ Zenfone เป็นเอกลักษณ์ที่หลายคนชื่นชอบมาตั้งแต่ Zenfone รุ่นปี 2014  มาพร้อมกับลูกเล่นมากมายและตอบสนองได้รวดเร็ว

  • มาพร้อม Android 5.0.2 แบบ 64 บิท โดยใช้อินเทอร์เฟสเป็น ZenUI ที่มีส่วนอำนวยความสะดวกในการใช้งานหลายๆ อย่าง ทั้งยังใช้งานได้ง่าย
  • มีส่วนให้ปรับแต่งหน้าตา การทำงานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับไอคอน ปรับรูปแบบตัวอักษร ก็สามารถทำได้ในตัว ZenUI เลย ไม่ต้องลงแอปฯ เสริม
  • มีตัวช่วยปรับแต่งการทำงานของแอปฯ เช่น ตั้งค่าแอปฯ ที่จะเปิดทำงานอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่องครั้งแรก ปรับระดับการใช้พลังงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องให้ลงตัวที่สุด
  • ZenMotion ที่เพิ่มความสะดวกในการใช้งานแม้ขณะปิดหน้าจออยู่ เช่น การเคาะหน้าจอสองครั้งติดกันเพื่อเปิดหน้าจอ, การวาดตัว C เพื่อเปิดแอพกล้อง เป็นต้น
  • สามารถตั้งค่าปุ่มแคปเจอร์หน้าจอแบบง่ายๆ ได้ด้วยการกดปุ่ม Recent apps ค้างไว้ โดยเข้าไปที่ Settings > ASUS customized settings
  • มี Easy mode เพื่อการใช้งานที่ง่ายยิ่งขึ้นสำหรับผู้สูงอายุ หรือเด็ก ด้วยหน้าตาที่เรียบง่าย ไอคอนขนาดใหญ่ ง่ายต่อการสังเกต

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

P_20151031_041812

P_20151031_043903

P_20151101_105018

P_20151101_105159

P_20151101_105928

P_20151101_111534

P_20151109_172412

กล้องหลัง แม้ว่า Asus ยังคงใช้ CMOS จาก Toshiba เช่นเดิม แต่ก็รู้สึกได้ว่า ถ่ายออกมาได้สวยกว่า Zenfone 2 รุ่นปกติ การวัดแสง แสงเงา สมดุลขาว สีสัน ดูสมจริงใกล้เคียงกับที่ตามองเห็นภาพจริง  โฟกัสได้รวดเร็ว แม่นยำ ความเร็วในการโฟกัสแตกต่างอย่างชัดเจนกับสมาร์ทโฟนอื่นในระดับราคาเดียวกันที่ไม่มี Laser Focus

จากตัวอย่างภาพ เป็นการถ่ายในโหมด Auto  โดยมีให้ใช้งานมากถึง 18 โหมด สำหรับกล้องหลัง โหมดที่น่าสนใจก็เช่น Low Light ที่ช่วยให้เก็บภาพในที่มีแสงน้อย ถ่ายภาพกลางคืนได้ดีขึ้น, Super Resolution ที่ช่วยเก็บรายละเอียดภายในภาพได้ครบถ้วน กับภาพความละเอียดสูงสุดกว่า 52 ล้านพิกเซล

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

P_20151109_172015_BF copy

กล้องหน้า จะเป็นโหมด Beauty โดยอัตโนมัติ แต่ก็สามารถปรับระดับ Beauty ได้เองตามต้องการ  จากตัวอย่างภาพ เป็นการเปิดกล้องแล้วถ่ายทันที ไม่มีการปรับค่าใด ๆ  ทั้งนี้สามารถปรับแต่งได้หลากหลายตั้งแต่ก่อนถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นการบรัชแก้ม, ปรับโครงหน้า, ปรับขนาดตา, ปรับความเนียนของใบหน้า เป็นต้น  กล้องหน้าก็สามารถถ่ายภาพในโหมด Low light ได้เช่นกัน

หลังจากถ่ายภาพแล้ว สามารถส่งภาพต่อให้เพื่อนได้อย่างง่ายดายด้วยแอพ Share Link  ซึ่งไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการรับส่งข้อมูล (จะใช้ส่งข้อมูลอื่นในเครื่องก็ได้เช่นกัน)

ตัวช่วยในการปรับแต่งภาพเบื้องต้น เช่น PhotoCollage สำหรับจัดเรียงหลายภาพรวมในภาพเดียว และ MiniMovie สำหรับทำวิดีโอคลิปสั้น ๆ ตามธีมที่มีมาให้ในแอปฯ ก็มีให้ใช้งานทันทีใน Zenfone 2 Laser โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่ม

 

สรุปการทดสอบใช้งาน

สิ่งที่ประทับใจ

  • Dual SIM Dual Standby ใช้งาน 4G/3G/2G ได้ทั้งสองซิม ทำให้สะดวกกับทุกการเชื่อมต่อ ไม่ต้องถอดสลับซิมการ์ดบ่อย
  • การใช้งานทั่วไป ชมภาพยนตร์ เล่นเกม ก็ถือว่าไหลลื่นดีพอสมควร
  • ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ใช้งานได้ 1 วันพอดี หรือ 1 วันกว่า ๆ ไม่จำเป็นต้องชาร์จระหว่างวัน
  • เลเซอร์โฟกัส ได้ผลดีจริงในสภาวะแสงน้อย
  • RAM 2GB เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและการเล่นเกม
  • หน้าจอสีสวยสดใสสมจริง มีฟังก์ชั่นลดแสงสีฟ้า ถนอมสายตา

ข้อสังเกต

  • พลาสติกสีดำ สันขอบเครื่อง โดยเฉพาะด้านล่าง เป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย
  • ขอบจอภาพ ค่อนข้างหนา ดูไม่ค่อยทันสมัย
  • เคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อปลุกเครื่องให้หน้าจอติดได้ เนื่องจากปุ่ม Power อยู่ไกลเกินนิ้วเอื้อมถึง
  • ฝาหลัง แกะเปิดได้ยากมาก
  • คู่แข่งจากแบรนด์จีนในระดับราคานี้ ให้จอภาพ Full HD แล้ว
  • กล้องหน้า ถ่ายภาพได้เนียน แต่ยังไม่คม

ตัวเลือกอื่น ในระดับราคาใกล้เคียงกัน