รวมฟีเจอร์เด่นของ iPhone X ที่ยังไม่พบในสมาร์ทโฟน Android มีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย!

รวมฟีเจอร์เด่นของ iPhone X ที่ยังไม่พบในสมาร์ทโฟน Android มีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย!

iPhone X

หลังจากที่ Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone X หรือสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปี โดยมาพร้อมจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นในอนาคต และในวันนี้สื่อข่าวชื่อดังได้ทำการรวบรวมฟีเจอร์เด่นๆ ของ iPhone X ที่ปัจจุบันยังไม่พบในสมาร์ทโฟน Android เผยออกมาให้เราได้ชมกัน ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยค่ะ

Face ID

1

ฟีเจอร์สแกนใบหน้าโฉมใหม่ที่มาแทน Touch ID สแกนลายนิ้วมือแบบเก่าๆ  ทำงานร่วมกับกล้องหน้า TrueDepth เพื่อจดจำใบหน้าใช้ในการปลดล็อคตัวเครื่อง, การสั่งซื้อสินค้าผ่าน Apple Pay ทำงานด้วยการฉายจุดแสงที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นกว่า 30,000 จุดบนใบหน้า กล้องอินฟราเรดจะอ่านรูปแบบบนใบหน้า Apple เคลมว่ามีความแม่นยำกว่า TouchID

แต่กระนั้น Samsung Galaxy S8 ก็เคยมาพร้อมกับฟีเจอร์สแกนใบหน้าที่สามารถปลดล็อคตัวเครื่อง พร้อมยืนยันตัวตนใช้บริการต่างๆ แต่แตกต่างตรงที่ฟีเจอร์สแกนใบหน้าของ Samsung สามารถเก็บข้อมูลได้ 2 มิติ ไม่ใช่เก็บมิติโครงหน้าการตรวจสอบจึงไม่รัดกุมเท่ากับ Face ID ของ iPhone X

True Tone Display

2

สำหรับ iPhone X มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436×1125 พิกเซล (458ppi) การแสดงผลแบบ True Tone อัตราส่วนคอนทราสต์ที่ 1,000,000 ต่อ 1 รองรับฟีเจอร์ 3D Touch และการแสดงผล HDR ทั้งแบบ Dolby Vision และ HDR10 เป็นเทคโนโลยีแสดงผลที่ปรับอุณหภูมิสีตามแสงในสภาพแวดล้อมแบบอัตโนมัติ

รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 60fps

3

กล้องหลังเลนส์คู่ของ iPhone X ถูกปรับปรุงใหม่กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 12MP เลนส์ Wide รูรับแสง f/1.8 + 12M เลนส์ Telephoto รูรับแสง f/2.4 พร้อมฟิลเตอร์สีใหม่ พิกเซลรายละเอียดดีขึ้น มีระบบกันภาพสั่น OIS แบบออปติคอลทั้งสองเลนส์ ISP ถูกปรับปรุงใหม่ รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K แบบ 60fps และมีไฟแฟลช True Tone จำนวน 4 ดวง ซึ่งในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะมีสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่รองรับารบันทึกวิดีโอ 4K แต่ยังไม่มีรุ่นใดที่สามารถบันทึกเฟรมได้ถึง 60fps

รองรับการบันทึกวิดีโอ Slow Motion 1080p สูงสุด 240 fps

4

iPhone X สามารถบันทึกวิดีโอ Slow Motion แบบ Full HD ได้สูงสุดที่ 240fps ขณะที่ iPhone 7 บันทึกได้สูงสุด 120 เฟรมต่อวินาที ของความละเอียด Full HD

Portrait Lightning

5

โหมดถ่ายภาพ Portrait Lighting  การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล ผู้ใช้งานสามารถปรับโทนแสงของใบหน้าได้ในขณะถ่ายภาพ และหลังถ่ายภาพ ใบหน้าดูมีมิติมากกว่าเดิม ระบบจะจับโครงสร้างใบหน้าแล้วสร้างเอฟเฟ็กต์แสงแบบที่ใช้ในสตูดิโอให้การถ่าย Portrait สวยงามมากยิ่งขึ้น

Animoji

6

อิโมจิโมเดลแบบ 3 มิติ เปลี่ยนแปลงใบหน้าตามรูปแบบต่างๆ ขยับเคลื่อนไหวได้ตามรูปหน้าของผู้ใช้งาน สามารถถ่ายเป็นคลิปวิดีโอพร้อมมีเสียงพูดแล้วส่งผ่าน iMessage ได้ด้วย โดยผู้ใช้งานสามารถบันทึกการแสดงสีหน้าของผู้ใช้ผ่านกล้อง TrueDeph พร้อมผสานเข้ากับ Animoji ที่จะขยับตามใบหน้าของผู้ใช้

กล้องหน้าเซลฟี่ TrueDepth  

7

iPhone X มาพร้อมกล้องหน้าเทคโนโลยีกล้องหน้า TrueDepth สามารถแยกแยะมิติของวัตถุ และฉากหลังได้ละเอียดกว่ากล้องหน้าของสมาร์ทโฟนทั่วไป ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้สวยดูดีมีมิติมากยิ่งขึ้น

แฟลช Quad LED True Tone พร้อม Slow Sync

8

มาพร้อมแฟลช Quad-LED True Tone จำนวน 4 ดวง แต่ไม่ใช่ของใหม่มากนัก เนื่องจากเคยถูกนำมาใช้แล้วกับ iPhone 7 แต่ข้อแตกต่างของ iPhone X คือมาพร้อม Slow Sync สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้สวยงามยิ่งขึ้น

ขุมพลังตัวแรกที่มาพร้อม Neural Engine

63

iPhone X มาพร้อมชิปเซ็ต Apple A11 Bionic ซึ่งเป็นชิปตัวแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยี Neural Engine ประสิทธิภาพการประมวลผลของ AI ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการแยกเสียง ใบหน้า หรือการทำงานอื่นๆ โดยมีนวัตกรรมการผลิต 10 นาโนเมตร แบบ 6 คอร์ 64 บิต ประหยัดพลังงาน และประสิทธิภาพแรงกว่า A10 กว่า 2 เท่า แบ่งเป็น 4 คอร์ เร็วขึ้นกว่าซีพียู A10 Fusion ถึง 70% และคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ประมวลผลการทำงานเร็วขึ้นกว่า 25% พร้อมโปรเซสเซอร์ร่วม M11

สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ไร้ขอบด้านล่าง

10

iPhone X เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ไม่มีขอบเครื่องด้านล่างเลย ส่วนเซ็นเซอร์ต่างๆ นั้นถูกย้ายไปไว้ที่ขอบบนตัวเครื่องแทน ขณะที่สมาร์ทโฟนหน้าจอไร้ขอบในปัจจุบันที่ถูกเปิดตัวออกมานั้นยังมีให้เห็นบ้างประปราย

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.phonearena.com