รวบรวม 12 ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ก่อนเปิดตัวพรุ่งนี้!

รวบรวม 12 ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ก่อนเปิดตัวพรุ่งนี้!

นับถอยหลังอีกเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นก็จะเข้าสู่กำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่มีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 7 กันยายนนี้แล้ว โดยงานจัดขึ้น ณ เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ช่วงเวลา 10.00 น. หรือเวลาเที่ยงคืนของประเทศไทยนั่นเอง

ล่าสุด หลังจากที่มีข่าวลือข่าวหลุดออกมาแบบไม่เว้นแต่ละวัน ก็ได้มีการสรุปฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ออกมาให้เราได้ชมกันแล้ว โดยข้อมูลดังกล่าวถูกรวบรวมมาจากข่าวลือก่อนหน้านี้ทั้งหมด พร้อมกับอ้างอิงจากคำคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เราไปชมกันเลยว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

1. ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังตัวใหม่ล่าสุด Apple A10 ที่ผลิตโดย TSMC ซีพียูแบบ dual core ความเร็ว 2.4GHz – 2.45GHz

2. มีความจุเริ่มต้นที่ 32GB, 128GB และมากสุดถึง 256GB สำหรับ iPhone 7 จะมาพร้อมกับ RAM 2GB ขณะที่ iPhone 7 Plus จะมี RAM ขนาด 3GB

3. ตัวเครื่องมีให้เลือกมากถึง 5 สี ได้แก่ สีเงิน, สีทอง, สีโรสโกลด์,สีดำด้าน และสีดำเงาวาว หลังจากที่มีภาพหลุดของถาดใส่ซิมการ์ดหลุดออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน

4. กันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IPX7 เช่นเดียวกับ Apple Watch รุ่น original คืออยู่ในน้ำความลึกไม่เกิน 1 เมตร ได้นานสูงสุด 30 นาที

5. ไม่มีช่องแจ็คเสียบหูฟังอีกต่อไป iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะถูกตัดช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออก โดยคาดว่า Apple อาจแถมอะแดปเตอร์สำหรับแปลงพอร์ต Lightning มาให้ในกล่อง หรืออาจเปลี่ยนมาใช้หูฟังไร้สาย AirPods ขณะที่พื้นที่ว่างหลังจากถูกตัดช่องแจ็คออกไป จะถูกแทนที่ด้วยเซ็นเซอร์หน้าจอ Force Touch ก็เป็นได้

6. ลำโพงสเตอริโอเสียงคุณภาพแบบใหม่ อาจจะดูเหมือนว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะมาพร้อมลำโพงคู่ที่ด้านล่างแทนที่ช่องเสียบหูฟัง แต่นั่นอาจเป็นเพียงแค่ดีไซน์ตัวเครื่องเท่านั้น ลำโพงด้านล่างยังคงมีเพียงแค่หนึ่งตัว อีกฝั่งจะเป็นไมโครโฟน แต่จะมีการเพิ่มคุณภาพเสียงเข้าไปแทน มีการพัฒนาลำโพงด้านบนที่ปกติไว้ฟังเสียงสนทนาให้ขับเสียงออกมาได้ด้วย ซึ่งจะมีลำโพงระบบเสียงสเตอริโอจากลำโพงด้านล่าง และลำโพงหูฟัง

7. ปุ่มโฮมแบบสัมผัส เพื่อให้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สามารถกันน้ำได้อย่างดีเยี่ยม หลังจากที่ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรถูกตัดออกไป ปุ่มโฮมก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งจะเปลี่ยนมาเป็นปุ่มโฮมแบบสัมผัส และรองรับเทคโนโลยี Force Touch ตอบสนองต่อแรงกดหนักเบา

8. จอภาพคมชัด มีข้อมูลระบุว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะมาพร้อมหน้าจอเทคโนโลยีในการแสดงผลแบบเดียวกับ iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว แสดงขอบเขตสีที่กว้างขึ้น คุณภาพสีสมจริงมีมิติมากยิ่งขึ้น

9. มาพร้อมกับกล้องหลังเลนส์คู่ (เฉพาะ iPhone 7 Plus) โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว $40 หรือประมาณ 1,400 บาท ที่ทำให้ iPhone 7 Plus แพงกว่า iPhone 6s Plus เลนส์คู่จะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ชุดเลนส์ 6 ชิ้น ขนาดพิกเซลใหญ่ขึ้น พร้อมแฟลช LED ถึง 4 ดวง และเทคโนโลยีลดภาพสั่นไหว OIS

10. อัพเกรดแฟลชเพิ่มขึ้นเป็น LED 4 ดวง 2 ดวงแรกให้แสงโทนเย็น อีก 2 ดวงให้แสงโทนอุ่น พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์ใหม่ ambient light เพื่อการถ่ายภาพที่ดียิ่งขึ้น

11. อัพเกรดเซ็นเซอร์ Proximity รับรู้ระยะห่างและตอบสนองได้เร็วขึ้น อันมีประโยชน์ต่อการจดจำท่าทาง หรือ Gesture Recognition

12. รองรับ FeliCa NFC สำหรับรุ่นที่ทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น ทำงานเร็วกว่าบริการ Apple Pay จะสามารถใช้แทนบัตรโดยสาร และซื้อสินค้าผ่านบริการต่างๆ

สำหรับสเปคการใช้งานก่อนหน้าระบุว่า iPhone 7 จะมาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334×750 พิกเซล พร้อม RAM LPDDR4 ขนาด 2GB แบตเตอรี่ความจุ 1960mAh กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9 ขณะที่ iPhone 7 Plus มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD พร้อม RAM LPDDR4 ขนาด 3GB แบตเตอรี่ความจุ 2910mAh กล้องหลังเลนส์คู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9

สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องจะไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก แต่ Apple เชื่อว่านวัตกรรมและฟีเจอร์ใหม่ๆ จะเป็นจุดขายแล้วโน้มน้าวให้ผู้ใช้งาน iPhone รุ่นเก่าเปลี่ยนมาใช้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ทว่านักวิเคราะห์ก็ได้มีการประเมินเอาไว้แล้วว่าทั้งสองสมาร์ทโฟนจะมียอดขายลดลงจากรุ่นก่อนหน้า

โดยคาดว่า iPhone 7 จะมียอดขายราว 65 ล้านเครื่องในปลายปีนี้ ขณะที่ iPhone 6s ทำยอดขายไปได้ 82 ล้านเครื่องเมื่อช่วงปลายปี 2015 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจะเป็นความจริงหรือไม่ เราคงต้องมาติดตามกันอีกครั้งในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 7 กันยายนนี้ หากมีข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมจะมาแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.macrumors.com