พรีวิว สัมผัสแรก HP Elite x3 อุปกรณ์ 3-in-1 สำหรับนักธุรกิจ เป็นทั้ง Smartphone, Laptop และ Desktop
HP Elite x3 อุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณทำการติดต่อผู้คน หรือเข้าถึงแอปพลิเคชั่น และข้อมูลต่าง ๆ ที่คุณสนใจได้อย่างสะดวกง่ายดาย โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ อุปกรณ์ 3-in-1 สำหรับใช้ในงานธุรกิจชิ้นแรกของโลก ที่นำเอาประสิทธิภาพและพลังของเครื่อง PC ตลอดจนคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมมารวมไว้ในอุปกรณ์ที่ทันสมัยและปลอดภัยสำหรับการเชื่อมต่อเมื่อคุณต้องการทำงานชิ้นสำคัญ
ใช้งานสะดวกเพราะสามารถปรับเปลี่ยนจากรูปแบบ Smartphone มาเป็นแบบ Desktop เพียงเชื่อมต่อ HP Elite x3 เข้ากับ Desk Dock ที่เป็นอุปกรณ์เสริม แล้วเชื่อมต่อกับจอภาพ จอทีวี หรือ Projector ก็จะสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพคล้ายกับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ
หรือเชื่อมต่อกับ Lap Dock ที่มีลักษณะเหมือน Laptop ดีไซน์บางเฉียบ มาพร้อมจอภาพที่แสดงผลแบบไร้ขอบเกือบเต็มจอขนาด 12.5 นิ้ว และน้ำหนักเบาเพียง 1 กก. รวมถึงแป้นพิมพ์กันน้ำขนาดใหญ่พร้อมไฟเรืองแสงอีกด้วย ก็สามารถทำงานนอกสถานที่ได้เหมือนเป็น Laptop หรือ Notebook ทันที
ความสามารถที่ยอดเยี่ยม บวกกับความยืดหยุ่นในการใช้งานด้านธุรกิจ ทำให้ HP Elite x3 กวาดรางวัลมากมายจากหลายสำนักดังภาพข้างต้น สำหรับผู้ที่สนใจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ https://www.hpstorethailand.com/th/hp-elitex3
สเปค
มาดูในส่วนของตัวเครื่อง HP Elite x3 ที่เป็นหัวใจหลักกันก่อน ใช้ CPU Snapdragon 820 เหมือนกันสมาร์ทโฟนระดับเรือธงหลายรุ่นในตลาดระดับบน มี RAM 4GB หน้าจอขนาดใหญ่มากถึง 5.96 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล สีสันสดใสด้วยหน้าจอชนิด AMOLED
รองรับ 4G LTE และ Wi-Fi มาตรฐาน AC ROM ความจุ 64GB ใส่การ์ดหน่วยความจำเพิ่มได้สูงถึง 2TB ส่วนกล้องหลัง 16MP และ กล้องหน้า 8MP
จุดเด่น
มีการปรับจูนเสียงลำโพงโดยวิศวกรจากเครื่องเสียงแบรนด์หรู B&O ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ HP มายาวนาน ลำโพงคู่อยู่ที่ด้านหน้า ให้มิติเสียงที่กว้าง มีระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างเมื่อใช้โทรสนทนา
ระบบความปลอดภัยดีเยี่ยม ปกป้องข้อมูลสำคัญในตัวเครื่อง เข้ารหัส 128 บิตลงถึงระดับชิป หากเครื่องถูกขโมยไป มีการตรวจสอบว่าผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของเครื่องพยายามเข้ามาใช้เครื่อง ระบบและข้อมูลก็จะถูกล็อกทันที จะพยายามงัดแงะ ถอดชิปออกไปถอดรหัสล้วงข้อมูล ก็ไม่สามารถทำได้
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4150mAh ใช้งานได้ยาวนานเกินหนึ่งวันแน่นอน ผ่านการทดสอบความทนทาน ใช้งานทางทหารได้ ไม่เสียหายจากการตกที่ความสูง 4 ฟุต และทนทานต่อละอองหยดน้ำ ฝุ่นผง ดินทราย
อุปกรณ์เสริมมากมาย เพื่อให้ใช้งานทางธุรกิจได้เต็มประสิทธิภาพ
ราคา 29,900 บาท พร้อมอุปกรณ์เสริมตามภาพ ส่วน Lap Dock จำหน่ายแยกต่างหาก ทั้งหมดนี้ เริ่มจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้
สัมผัสเครื่องจริง
เอชพี ได้จัดงานเปิดตัว Elite x3 ไปแล้วในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่จะพร้อมจำหน่ายจริงในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพราะฉะนั้นบทความนี้ เป็นการพรีวิว ทดลองสัมผัสในเบื้องต้นจากเครื่องที่เป็น Demo Unit ที่ใช้โชว์ในงานหลายประเทศ รายละเอียดบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องจริงที่จะจำหน่ายในประเทศไทย
หน้าจอและตัวเครื่อง มีขนาดใหญ่ ใหญ่กว่า Samsung Galaxy A9 Pro ที่บางคนน่าจะเคยทดลองเล่นจาก Demo หน้าร้านกันบ้างแล้ว คงพอจะจินตนาการกันได้กว่าใหญ่ขนาดไหน
ปุ่มและช่องใส่ SIM / microSD card อยู่ด้านข้างคล้ายกับสมาร์ทโฟนทั่วไป
ด้านหลังมีโลโก้ HP แบบใหม่ที่ใช้เฉพาะกับผลิตภัณฑ์รุ่น Premium เท่านั้น
นอกจากจะสแกนม่านตาแล้ว ก็ยังกำหนดให้สแกนลายนิ้วมือได้ด้วยในบางกรณี ทำให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
โครเมียมท้ายเครื่อง และโลโก้ B&O เพิ่มความหรูหราเหนือระดับ
กล้องหน้าและระบบสแกนม่านตา
ตัวเครื่อง ดูไม่ค่อยหนา ยังพอพกพาได้สะดวก ใส่กระเป๋ากางเกงบางแบบได้ หากเป็นกางเกงรัดรูปที่มักทำกระเป๋าตื้น ใส่แล้วตัวเครื่องอาจโผล่ออกมาประมาณ 1 ใน 3
นี่คือ HP Desk Dock มากับชุดจำหน่ายแล้ว และ Wireless Charger ที่แยกจำหน่าย
เสียบเข้ากับ HP Desk Dock ดูดีทีเดียว
HP Desk Dock มีพอร์ตมากมาย ได้แก่ LAN, DisplayPort, USB-A และ USB-C โดย HP Desk Dock จำเป็นต้องใช้ไฟเลี้ยงด้วยการเสียบ AC Adapter
พอร์ตท้ายเครื่องของ HP Elite x3 เป็นพอร์ต USB-C โดย Dock จะไม่ทำงานหากเสียบกับสมาร์ทโฟนอื่น
เมื่อต่อจอมอนิเตอร์ หรือทีวี ก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทันที ต่อเม้าส์กับคีย์บอร์ดผ่านทางพอร์ต USB ท้าย Desk Dock ได้อารมณ์เหมือนใช้งาน Windows 10 ทั่วไป
นี่คือ Lap Dock ซึ่งไม่ใช่ Laptop หรือ Notebook แต่ให้มองว่าเป็นจอภาพพร้อมคีย์บอร์ดไร้สายในตัวเดียวกัน สำหรับเชื่อมต่อกับ HP Elite x3 ได้แบบต่อสายและไร้สาย ซึ่งใต้แผงคีย์บอร์ด มีแบตเตอรี่แบบชาร์จได้สำหรับจ่ายไฟให้คีย์บอร์ดกับจอภาพในตัว
Lap Dock น้ำหนักเบามาก วัสดุและดีไซน์ถือว่าระดับพรีเมี่ยมเลยทีเดียว
เมื่อกางหน้าจอออก บานพับจะยกให้คีย์บอร์ดลอยขึ้นทำมุมลาดเอียง
ดูเผิน ๆ ทุกคนต้องมองว่า Lap Dock คือ Laptop แน่นอน เพราะใช้งานได้เหมือน Laptop ปกติ เมื่อเชื่อมต่อกับ HP Elite x3 ก็เหมือนดึงภาพจากสมาร์ทโฟนมาขยายออกเต็มจอ ใช้งาน Word Excel PowerPoint หรือเปิดดูเอกสาร PDF ได้เต็มตา แต่เป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อเพิ่มเติม ในชุดจำหน่ายปกติ มีแถมแค่ Desk Dock กับ Silicone Case
Wireless Charger และเคสสำหรับใช้คู่กันเพื่อชาร์จไร้สาย ก็มีจำหน่ายแยก
พรินเตอร์แบบพกพาจากเอชพี ก็เป็นอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องพรินต์ในขณะทำงานนอกสถานที่ ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก ใส่ถุงผ้า หิ้วไปได้ทุกที่
สรุป
HP Elite x3 ให้ความสะดวกสบายในการทำงาน ช่วยให้ธุรกิจราบรื่น ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงที่ไม่ว่าจะใช้งานหนักขนาดไหน ก็อยู่ได้นานเกินวัน ออกไปนำเสนองานด้วย PowerPoint นอกสถานที่ ก็แค่เสียบ Desk Dock ต่อออกจอทีวีได้ทันที เตรียมงาน แก้ไขเอกสาร ก็เชื่อมต่อกับ Lap Dock นั่งชิลล์ที่ร้านกาแฟ เมื่อกลับมาถึงบ้านหรือโต๊ะทำงาน ก็ต่อออกจอมอนิเตอร์ ทำงานต่อสบาย ๆ โดยการใช้เม้าส์กับคีย์บอร์ด งานราบรื่นเพราะไฟล์ทุกอย่างที่ทำงานค้างไว้ ก็ยังอยู่ใน HP Elite x3 หรือย้ายไปทำงานต่อที่เครื่องอื่นก็เพียงแค่แชร์ไฟล์ลง Microsoft OneDrive ทั้งหมดนี้คือ EcoSystem ของ Microsoft ที่เอื้อต่อการทำงาน Office ให้ธุรกิจไม่มีสะดุดด้วย Hardware ของ HP
ตัวเลือกอื่นที่ทำงานได้ใกล้เคียงกับ HP Elite x3
- Microsoft Lumia 950 / 950XL พร้อม Display Dock
Leave a Reply