ผู้ใช้งานแชร์ประสบการณ์สุดซวย!! ที่เกิดจากความสะเพร่าของพนักงาน Samsung
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เรียกได้ว่าในช่วงนี้ Samsung จะถูกร้องเรียนและถูกแชร์ประสบการณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบจากผู้ใช้งานอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดเราไปพบกระทู้บทความหนึ่งของคุณ Oputjunk จาก Pantip.com ที่มีชื่อบทความว่า “ความซวยของลูกค้า หรือ ความสะเพร่าของพนักงาน Samsung ?” โดยเจ้าของกระทู้ได้มาเล่าและแชร์ประสบการณ์การใช้บริการที่ศูนย์ Samsung สาขาสแควร์วัน
ซึ่งเจ้าของกระทู้บอกเลยว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าของกระทู้จะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน เริ่มเรื่องมาจากที่ Samsung Galaxy Note 4 ของเจ้าของกระทู้เกิดชารฺจไฟไม่เข้า เปอร์เซ็นของแบตเตอรี่ลดฮวบ เลยไปซื้อแบตเตอรี่ที่ Samsung Shop สาขาสแควร์วัน และเมื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่พบว่าแบตเตอรี่มันลดลงแทนที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อทำการชาร์จ และที่สำคัญมันลดลงเป็นวินาทีค่ะทางเจ้าของกระทู้จึงได้กลับไปเล่าเหตุการณ์และปัญหาในการชาร์จแบตเตอรี่ข้างต้นให้ทาง Samsung Shop สาขาสแควร์วันฟัง
ทางพนักงานแจ้งแต่เพียงว่าให้ลงเฟิร์มแวร์ใหม่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดมีผลสรุปที่ว่าทาง Shop นำแบตเตอรี่ที่น่าจะเสื่อมมาจำหน่ายให้กับเจ้าของกระทู้และเกือบทำให้เจ้าของกระทู้เสียเงินกว่าสามหมื่นซื้อเครื่องใหม่เพราะความสะเพร่าของพนักงาน และทุกครั้งที่เข้าไปใช้บริการเจ้าของกระทู้จะต้องเล่าเหตุการณ์ซ้ำๆ วนไปหลายรอบเลยให้กับพนักงานฟังโดยไม่มีการจดบันทึกอะไรไว้เลย เราไปชมเนื้อหาภายในบทความนี้กันเลยค่ะ
วันนี้จะขอเล่าประสบการณ์การใช้บริการที่ศูนย์ Samsung สาขาสแควร์วันครับ เป็นประสบการณ์ที่คงไม่ลืมง่ายๆ แน่นอน มันเริ่มจากวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคมตอน 17.00 น. มือถือ Samsung Galaxy Note 4 ของผมชาร์จไฟไม่เข้าครับเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ลดฮวบๆ เสียบชาร์จก็ไม่เข้าผมเลยตรงดิ่งไปที่ศูนย์ Samsung ที่สแควร์วันเพื่อซื้อแบตเตอรี่เตอรี่ 1 ก้อน
รวมเวลาทั้งหมด 15 นาทีกว่าผมก็ได้แบตเตอรี่มาครับ ผมถามพนักงานว่าประกันกี่เดือนครับพนักงานตอบ “1 เดือนค่ะ” ผมอึ้งเล็กๆ คือระยะเวลาประกันน้อยมากๆ ร้านประจำของผมที่ MBK ยังให้เวลาประกันแบตเตอรี่ iPhone มาตั้ง 3 เดือน (คือผมใช้ iPhone 4s อีกเครื่องด้วยครับ ใช้มาไม่มีปัญหาจนอย่างเข้าปีที่ 3 แบตเตอรี่มันเริ่มเสื่อม
และปีที่ 4 จอมันเริ่มไม่ดี ผมก็เอาไปเปลี่ยนกับร้านนี้ตลอดประกันทุกอย่างต่ำ 3 เดือนอัพที่เล่ามาไม่ใช่อะไรครับ อยากจะเปรียบเทียบให้ฟังถึงระยะเวลาประกัน) หลังจากที่ผมได้คำตอบ ผมก็พูดกับพนักงานไปว่า “โอ้โหร้านตู้ที่ MBK ยังประกันให้ตั้ง 3 เดือน หึหึ”
หลังจากที่ผมได้แบตเตอรี่ไปผมก็เอาไปใช้งานที่ทำงานใกล้ๆ สแควร์วันเลยครับ ก็ใช้ได้ดีไม่มีปัญหาผมก็เอามาเสียบกับสายชาร์จตอนที่มัน 35% ซึ่งผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงจากที่เปิดมาใหม่ 52% พอเสียบสายชาร์จมันก็ขึ้นว่า fast charging ปกติไม่มีอะไร แต่สักพักแบตเตอรี่มันลดลงแทนที่จะขึ้น
แสดงว่ามันชาร์จไฟไม่เข้า เมื่อเห็นเป็นแบบนี้ในใจคิดเลยว่าซวยแล้วแบตเตอรี่ไม่ได้เสื่อมไอ้ที่เสียคือที่ชาร์จ ผมเลยวิ่งกลับไปซื้อที่ชาร์จบวกสาย
ชาร์จอีกรอบซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่ซื้อแบตเตอรี่ไปได้ประมาน 45 นาทีเอง “โอเคผมโง่เองไม่เช็คให้ดีก่อน แต่ถือว่าไม่เป็นไรแบตเตอรี่ก็ 6-7 เดือนแล้ว เปลี่ยนไปก็ไม่เสียเนอะ” ผมคิดในใจเบ็ดเสร็จค่าเสียหายวันนั้นประมาน 2,200 บาท
กลับบ้านไปผมก็เลยล้างเครื่องเองครับ (เครื่องหมดประกันแล้วครับเมื่อเดือน 1 นี่เอง) ลงเฟิร์มแวร์ใหม่ผ่าน safe mode ก็ได้เครื่องที่เร็วกว่าเดิม แล้วก็ปรับ setting ใหม่ พยายามให้แบตเตอรี่ลดน้อยที่สุดครับ ทีนี้ก็ใช้ไปเรื่อยจนวันรุ่งขึ้นคือวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม แบตเตอรี่มันก็จะหมดครับ
ผมเข้าห้องน้ำอยู่ตอนแบตเตอรี่มันลดไปถึง 15% ผมวิ่งออกไม่ทันเสียบชาร์จเลย ทั้งๆ ที่ไม่กี่ก้าวเองก็ถึงที่เสียบชาร์จในใจก็คิดว่า “มันคงเป็นแบตเตอรี่ใหม่ ยังงงๆ กับการใช้งานมั้ง” แล้วผมก็เสียบชาร์จครับหลังจากที่เครื่องมันดับไปแล้วนะ ปรากฏว่ามันชาร์จไม่เข้าคือเสียบสายชาร์จแล้ว แต่ไฟไม่เข้า
แถมแบตเตอรี่มันยังลดลงเป็นวินาที ย้ำ!!! เป็นวินาที คือ 15…14…13…12…11 จนไปที่…1 แล้วก็ 0 แล้วก็ดับ งงครับมันขึ้น fast charging ด้วยนะ งงดิครับผมก็เลยถอดแบตเตอรี่ออก แล้วใส่แบตเตอรี่เสียบชาร์จใหม่ โดยไม่เปิดเครื่องครับมันถึงชาร์จเข้า ก็งงมากว่าทำไมเป็นแบบนั้น สักพักผมก็เลยเดินไปที่ศูนย์ที่สแควร์วันอีกเป็นวันที่สอง
ผมบอกอาการไปว่ามันชาร์จไฟไม่เข้า บลาๆ พนักงานเอาเข้าไปเช็คครับ แต่ผลที่ได้คือฮาร์ดแวร์คือการจ่ายไฟไม่ได้ผิดปกติอะไร น่าจะมาจากซอฟต์แวร์ พนักงานเลยเสนอให้ล้างเครื่องลงเฟิร์มแวร์ให้ใหม่ ผมก็โอเคครับล้างก็ล้างก็เลยตกลงให้ลงเฟิร์มแวร์ใหม่ไม่มีค่าบริการครับ รู้สึกดีมาก กลับบ้านซิครับรออะไรละ
วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม Samsung Galaxy Note 4 มีอาการชาร์จไฟไม่เข้าอีกแล้วอะไรกันผมงงแล้วก็งงว่ามันจะอะไรอีกผมถึงขั้นเอา iPhone น้องถ่ายคลิปเลยว่ามันลดเป็นวินาทีจิงๆ แล้วก็กลับไปให้พนักงานดูอีกครั้งแล้วก็เล่าปัญหาว่าชาร์จไม่เข้าอีกครั้ง เล่าใหม่เลยเหมือนครั้งที่แล้วเลย
พร้อมให้ดูคลิปด้วยที่มันลดเปอร์เซนต์แบตเตอรี่อย่างไวนั่นละ พนักงานก็หายไปสักพักแล้วเดินออกมาพร้อมบอกว่า “น่าจะมาจากปัญหาที่ลูกค้าเปิด Bluetooth กับ location service ไว้อะคะ มันเลยกินแบตเตอรี่ แบตเตอรี่หมดไว ตอนชาร์จควรเปิด flight mode บลาๆๆ ”
งงดิครับ “ผมใช้มาเป็นปี Bluetooth มัน connect กับ Moto360 มาเป็นปีๆ เกี่ยวอะไรกับ Bluetooh!? แล้ว location service เนี่ย เป็นฟีเจอร์นึงของเครื่อง มันกินแบตเตอรี่ก็จิง ผมเปิดเป็น high accuracy มาตลอดตั้งแต่ใช้เครื่องมาไม่เคยมีปัญหานะ นี่ชาร์จไฟไม่เข้า แบตเตอรี่ลดเป็นวินาทีไม่น่าใช่ป่าว”
ผมตอบพนักงานไปแบบนี้ แต่พนักงานพูดกลับมาอย่างละมุนละไมว่า “มันไม่มีปัญหาที่เครื่องจิงๆ นา” ผมฟังแบบนั้นก็โกธรไม่ลงครับ พนักงานดูเชื่อจิงๆ ว่ามันไม่ได้มีปัญหาจากเครื่อง ซึ่งทำให้ผมเชื่อ (ด้วยก็ได้) ไปด้วย กลับบ้านอย่างคอตกครับงงกับโชคชะตา แบตเตอรี่หมดไว ชาร์จไม่เข้า รอบนี้ใช้เวลารับบริการไปเกือบ 1 ชั่วโมงครับคนเยอะ
พอถึงบ้านผมคิดหนักเลยครับ เลยเริ่มหาข้อมูลจะซื้อ iPhone 6s Plus ประชดชีวิตแพงก็ยอมแต่ต้องไม่เสียหรือเอ๋อแบบ Samsung เครื่องนี้อีก ยอมรับว่าเสียดายฟีเจอร์ multi-tasking ของ Samsung Galaxy Note 4 มากๆ เพราะผมใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้เป็นหลัก เลยตัดสินใจไม่ซื้อ iPhone 5 หรือ iPhone 5s ในตอนนั้น
พอวันรุ่งขึ้นคือวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม ผมก็ไปศูนย์ AIS ครับ ไปลองจับ iPhone กะว่าวันศุกร์คงต้องซื้อแล้วล่ะ เพราะไว้ใจ Samsung Galaxy Note 4 ไม่ได้ แต่ไม่รู้ทำไม ผมแวะเข้าไปในช็อปของ Samsung ผมเดินตรงเข้าไปถามพนักงานคนนึงครับ ผมคาดว่าน่าจะเป็นซีซ่าร์นะ ผมเล่าอาการชาร์จไม่เข้าบลาๆให้พนักงานคนนั้นฟัง
พนักงานคนนั้นบอกกับผมว่า “ขอโทดนะครับ ขอปิดเครื่องถอดแบตเตอรี่หน่อย” แล้วปรากฏว่าแบตเตอรี่มันลดลงไป จากก่อนที่จะปิดเครื่องถอดแบตเตอรี่จาก 30%กว่า เหลือ 20%นิดๆ พนักงานบอกผมว่า “ผมเดาว่ามันน่าจะมาจากอาการเสื่อมของแบตเตอรี่นะ แบตเตอรี่ไม่ปกติครับ” ผมนี่เกือบซื้อ iPhone ไปแล้ว
ค่าเสียหาย 32,700 บาทเลยนะ!! กับการที่ซื้อแบตเตอรี่เสื่อมมาใช้ ลงเฟิร์มแวร์ไปอย่างต่ำสองครั้งเดินเข้าศูนย์มา 3วัน!! ช่างที่ศูนย์สแควร์วันนี่ไหวพริบน้อยกว่าซีซ่าร์ของช็อป Paragon อีก!!!! ผมเลยตรงดิ่งไปศูนย์ที่สแควร์วันอีกรอบ แล้วเล่าอาการใหม่หมดอีกรอบเหมือนเดิม เพราะพนักงานใหม่ครับ
ก็เล่าไปว่า “เนี่ยแบตเตอรี่น่าจะมีปัญหานะให้พนักงานที่ Samsung Paragon ดูเค้าถอดแบตเตอรี่แล้วลดลงไปเยอะ เค้าสันนิษฐานว่าแบตเตอรี่ที่ซื้อมาไม่ได้ถูกกระตุ้นเซลล์ชาร์จนานจนมันอาจเสื่อม ซึ่งมันเกิดได้แต่น้อย” พนักงานหายไปสักพักครับ แต่มันมีเหตุการณ์นึงคือแบตเตอรี่ของผมมันไม่ติด serial number อะไรสักอย่าง
บวกกับวันนั้น internet มีปัญหาไม่สามารถเข้าระบบได้ว่าผมซื้อไปจิงไหม ซื้อไปตอนไหน บลาๆ พนักงานเลยเสนอให้ผมมาใหม่วันพรุ่งนี้ พร้อมนำซองแบตเตอรี่กับใบเสร็จมาด้วย สรุปการเข้าศูนย์สแควร์วันในวันที่ 4 เบ็ดเสร็จรอไป 50 นาทีครับ ผลคือเปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่ได้เพราะไม่ได้พกใบเสร็จบวกกับซองแบตเตอรี่มาด้วย คิดว่ายังไงก็โชคดีที่ไม่ต้องเสียตังสามหมื่นกว่าไปซื้อ iPhone ฮ่าๆๆ
พอวันพุธที่ 24 พฤษภาคม ผมมาที่ศูนย์ตั้งแต่เช้าเลยครับ 10 โมงเลย ก็รับคิวแล้วได้พนักงานอีกคนครับ พนักงานถามว่า “อาการเป็นอะไรคะ” คือว่านี่เป็นวันที่ 5 ที่ผมเข้ามาเพราะเรื่องแบตเตอรี่เสื่อมที่เสียตังซื้อมาจากศูนย์ Samsung ที่สแควร์วัน ผมต้องเล่ารายละเอียดให้ทุกครั้งที่ผมเข้ารับบริการ ซ้ำๆ ซากๆ ไม่มีการบันทึกปัญหาอะไรไว้เลย
ทั้งๆ ที่จิงๆ มันคือความสะเพร่าของฝ่าย Samsung นะ ผมเลยขึ้นเลยครับ อารมณ์เสียมากพูดกับพนักงานอีกคนที่รับเรื่องผมเมื่อวานว่า “ไม่มีการบันทึกอะไรไว้เลยเหรอ? ต้องเล่าใหม่อีกแล้วใช่มั้ย? อะไรกัน? มาบอกเค้าทีว่ารับเรื่องไว้เมื่อวานมันจะได้จบๆ โอยเสียเวลาอีก” คือผมเสียเวลามา 5 วันกับแบตเตอรี่เสื่อมก้อนนี้ครับ คิดดูเถอะ ผมจะต้องเล่าวนไปวนมากี่รอบเนี่ย ตายๆๆๆ
พนักงานคนเมื่อวานเคลียร์ให้ผมด้วยละครับ ผมก็รอแบตเตอรี่ใหม่ไปแต่ผมก็เล่าด้วยว่าผมอยากให้เช็คที่ชาร์จด้วย เพราะผมเข้าใจว่าที่ชาร์จเสียไง ในวันเสาร์ผมเลยมาซื้อที่ชาร์จไปด้วย ซึ่งจิงๆ มันคือแบตเตอรี่ที่เสียอะ พนักงานก็เอาเข้าไปเช็คให้ ปรากฏว่าที่ชาร์จไฟแอมป์มันตกครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันตกได้ยังไง ผมก็เชื่อนะเพราะตอนนั้นอยากให้มันจบๆ สักทีไม่อยากหัวเสียต่อแล้ว
ความพีคมันมาอยู่ตรงที่ประมาณ 2-3 นาทีต่อมา พนักงานที่เป็นคนรับเงินผมตอนวันเสาร์ เดินออกมาบอกว่าสรุปคือ “แบตเตอรี่มันไม่ใช่แบตเตอรี่ที่ขายปกติ มันคือแบตเตอรี่ของตัวเครื่องตอนที่ซื้อมาตอนแรกอะคะ แล้วมันก็ไม่ได้ติดสัญลักษณ์ มอก.มาด้วย” ผมงงเลย พูดแบบนี้จะให้ลูกค้าเค้ามาเช็คตอนเค้าซื้อมั้ยว่ามันมีมอก. ติดหรือซีเรียลมันตรงกับซอง หรือเป็นรหัส FA SN
อะไรของคุณมันเป็นหน้าที่ของคนขายคือ “คุณ” ไม่ใช่เหรอที่ “สะเพร่า” ไม่เช็คให้ลูกค้าก่อนจะส่งมาหาถึงมือเค้า? แล้วพนักงานซ่อมทำไมสะเพร่ามาก ถึงขนาดที่แบตเตอรี่เสื่อมแค่เช็คจากเปอร์เซนต์ที่ลดลงไปเป็น 10 หลังถอดแบตเตอรี่-ใส่แบตเตอรี่? แล้วทำไมช่างไม่รู้เหรอว่าแบตเตอรี่มันไม่ใช่รหัส FA SN อะไรที่คุณว่ามา?
ยังครับยังความพีคยังไม่หมด หลังจากที่ผมยื่นโมโหมือสั่นเริ่มขึ้นเสียงใส่ว่าทำไมสะเพร่ากันขนาดนั้นและไม่ใช่ความผิดของลูกค้าไหม เมื่อเจอประโยค “แต่วันนี้แบตเตอรี่หมดนะคะ ต้องรอก่อนค่ะ” เพิ่มเติมมาจากพนักงานคนนั้นมันทำให้ผมสุดจะบรรยายครับ กลั้นอารมณ์ไม่ถูกเลย โมโหมากวุ่นวายมา 5 วัน รวมๆ แล้วไม่น่าน้อยกว่า 3 ชั่วโมงเลยเมื่อรวมกันทั้ง 5 วัน ผมต้องรอแบตเตอรี่อีก! รอ! รออะไร!!
ผลจากความสะเพร่าของใครฝ่ายไหนโดนลบข้อมูลไปกี่ครั้ง เกือบต้องเสียตังค์หลายหมื่นซื้อมือถือใหม่ เพราะอะไร!? พนักงานเสนอคืนเงินแบตเตอรี่แทนการรอครับ ผมนี่อึนมากรอก็รอ ผมต้องกลับมือเปล่าเพราะไม่มีแบตเตอรี่ แล้วแบตเตอรี่เก่าก็เสื่อม โอยมันช้ำแบบบอกไม่ถูก ใครไม่โดนไม่รู้หรอกครับทำอะไรไม่ได้ต้องรอ
ผมถามไปว่าแบตเตอรี่มากตอนไหน พนักงานตอบว่าบ่ายๆ วันนี้คือวันพุธนี่ละเดี๋ยววโทรแจ้งอะไรแบบนั้น ผมก็รอที่สยามอะครับ รอถึงบ่ายโมงครึ่ง แล้วก็เดินเข้าไปขอเงินคืน ยอมแพ้ครับไปซื้อที่อื่นก็ได้ไม่ไหวแล้ว แต่มันทำให้ผมรู้นะว่าผมต้องเช็คหมายเลขซีเรียลกับตรามอก. ก่อนรับของมา ตลกจิงๆ
ผมเล่ามายาวมากอยากแชร์ประสบการณ์เฮงซวยนี้จิงๆ คือมันสุดจะทนผมต้องรอให้มันผ่านไปสองวันก่อน เพราะไม่งั้นผมจะเล่าด้วยความอคติสุดๆ แต่อย่างไรก็ตามผมคงไม่ใช้ Samsung อีกแล้วละด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทั้งฮาร์ดแวร์ (ผมเปลี่ยนตัวกล้องมาสองรอบ ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้ใช้ ลักษณะอาการมันคือครั้งแรกโพกัสไม่ได้หลังจากซื้อมาประมาน 4 เดือน
แล้วก็ต้องเปลี่ยนอีกครั้งตอนเดือน10 กับอาการภาพที่โชว์ตอนถ่ายเป็นเหมือนน้ำๆ ทั้งจอเลย แล้วก็เป็นเส้นดำๆ ขีดๆ และเปลี่ยนแบตเตอรี่มาตอนใช้ไปได้ 7 เดือนเพราะแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม ถอดเข้าออกแล้วแบตเตอรี่ลดเยอะ แล้วมันก็เสื่อมอีกก้อนตอนเดือน 11 แต่พนักงานบอกว่ามันปกติ ซึ่งผมก็เชื่อครับ เพราะทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องเชื่อนั่นละ ทั้งๆ ที่แบตเตอรี่มันไม่ปกติแน่ๆ เหมือนรอบแรกนั่นละ)
ส่วนเรื่องพนักงานที่ไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องเครื่องเท่าไหร่ เอะอะอะไรก็จะให้ล้างเครื่องลงเฟิร์มแวร์ใหม่ตลอด (มีครั้งนึงเจ้านาฬิกา Moto360 มันมีระบบปลดล๊อกหน้าจอด้วยนาฬิกานั่นละครับ แล้วมันกลายเป็นการปลดล๊อกที่ต้องปลดสองชั้น ผมไปถามเจ้าหน้าที่ไม่มีใครตอบได้สักคนว่าทำไมผมต้องปลดล๊อกสองครั้ง
แก้ยังไงให้มันปลดล๊อกแค่ทีเดียวแน่นอนว่าพนักงานเสนอให้ลงเฟิร์มแวร์ใหม่เช่นเคย ผมซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องและนาฬิกาก็ต้องไปหาความรู้เอาเองครับจึงรู้ว่ามันเอาฟีเจอร์ในมือถือนี้ออกได้) รวมถึงเรื่องสะเพร่าครั้งนี้ ดูๆ แล้วไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร แต่ลองนึกดูนะครับ ถ้าผมไม่เดินเข้าไปถามซีซ่าร์ที่ช็อป Paragon
ผมจะรู้ไหมว่าปัญหามันเกิดจากแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นความสะเพร่าของพนักงาน ช่าง หรืออาจเป็นจาก QC ของ Samsung เอง? ผมอาจต้องเสียเงินสามหมื่นบวกๆ กับความสะเพร่าแบบนี้ เป็นเรื่องที่ผมตัดสินใจไม่ใช้ Samsung หลังจากนี้อีกแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ Oputjunk จาก www.pantip.com
Leave a Reply