นักวิเคราะห์ชี้! iPhone 8 จะมียอดขายถล่มทลาย จากนั้นจะถดถอยลงต่อเนื่องถึง 10 ปี
เมื่อไม่นานมานี้ Andrew Uerkwitz นักวิเคราะห์จาก Oppenheimer ได้ออกมาคาดการณ์ถึงยอดขาย iPhone 8 หรือ iPhone รุ่นปี 2017 โดยระบุว่า iPhone รุ่นดังกล่าวจะมียอดขายที่ถล่มทลาย อันเนื่องมาจากเป็นรุ่นครบรอบ 10 ปี นับตั้งแต่ iPhone รุ่นแรกเปิดตัวเมื่อปี 2007 และมีกระแสข่าวว่าจะมีการยกเครื่องใหม่หมด โดยปีงบประมาณ 2018 ของ Apple จะเริ่มขึ้นวันที่ 30 กันยายน 2017
จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์คนดังกล่าวเปิดเผยว่า iPhone 8 จะสามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 245 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นราว 9% จากยอดจำหน่าย 225 ล้านเครื่อง ตามปีงบประมาณ 2017 และจะเป็นยอดเติบโตครั้งสุดท้าย เนื่องจากนักวิเคราะห์เชื่อว่ายอดขาย iPhone จะลดน้อยลง เป็นผลมาจากราคาที่สูงขึ้น ขณะที่มือถือสมาร์ทโฟนจากแบรนด์อื่นมีการพัฒนาประสิทธิภาพขึ้นในระดับที่ใกล้เคียงกัน
และเป็นเรื่องยากที่ Apple จะเพิ่มราคาสมาร์ทโฟนของตัวเองให้สูงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ James Cakmak นักวิเคราะห์จาก Monness Crespi Hardt ระบุว่าหลังจากที่ iPhone 8 ทำยอดขายได้แบบถล่มทลาย Apple จะต้องเผชิญกับวิกฤติขาลงถดถอยลงเรื่อยๆ ไปอีกอย่างน้อยถึง 10 ปีกันเลยทีเดียว และหลังจากผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้วการทำตลาดของ Apple จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกต่อไป
อย่างไรก็ดี Andrew Uerkwitz ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าระยะเวลาการเปลี่ยนรุ่นของ iPhone ช้ากว่าเรือธงค่ายอื่นๆ และ Apple ยังตามหลัง Google และ Amazon ในด้านเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) เป็นอย่างมาก และอีกกระแสหนึ่งพูดถึงแน้วโน้มของ Apple ที่จะขยายตัวในตลาดสมาร์ทโฟนมือสอง โดยคาดว่าจะเติบโตขึ้น 3 เท่า ภายในปี 2020
นั่นหมายถึงผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนจะหันไปซื้อเครื่องมือสองกันมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน Apple คงจะมองการณ์ไกลได้ดีขึ้น โดยเริ่มมีการนำ iPhone เครื่อง Refurbished มาวางขายบน Store ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยมีราคาต่ำกว่าเครื่องใหม่แกะกล่องเกือบ 3,500 บาท ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีไม่น้อยเลย ส่วนอนาคตของ Apple จะเป็นจริงตามที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้หรือไม่ เราคงต้องมาลุ้นกันต่อไปค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.phonearena.com
Leave a Reply