ทำไม? Huawei Mate 40 Pro 5G ถึงเป็นเพื่อนคู่ใจสุดล้ำที่หัวเว่ยเคยมีมา
ใกล้ถึงเวลาที่เราทุกคนกำลังจะก้าวสู่ทศวรรษใหม่กันแล้ว เราพร้อมแล้วหรือยังที่จะปรับวิถีชีวิตให้ล้ำหน้ายิ่งขึ้นในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อนทุกสิ่ง โดยเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและทำให้ชีวิตง่ายขึ้นแบบไม่ต้องพกพาอะไรเยอะ เสมือนเพื่อนคู่กายที่พกไปไหนก็สบายใจ
ซึ่งก่อนจะสิ้นปีนี้ หัวเว่ยก็ได้ประกาศการเปิดตัว The Best Mate Ever หรือ “เพื่อน” ที่ดีที่สุดนั่นเอง เรามาดูกันดีกว่าว่า สิ่งที่ทำให้ Huawei Mate 40 Pro 5G เป็นเพื่อนคู่ใจที่ล้ำที่สุด พร้อมก้าวสู่ปี 2021 ไปกับเราได้ต้องมีความ “สุด” ในด้านไหนบ้าง หัวเว่ยก็มีคำตอบให้เราแล้ว
เพื่อนที่ทรงพลัง: สุดยอดด้วยขุมพลัง 5G ตามทันทุกความต้องการในชีวิตประจำวัน
เมื่อวันเวลาผ่านไป เรายิ่งมีความต้องการดีไวซ์ที่ประมวลผลตามการใช้งานของเราให้ทันใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพข้อมูลข่าวสาร หาร้านอาหาร หรือโลเคชั่นต่าง ๆ การใช้อินเทอร์เน็ตฆ่าเวลาทั้งการสตรีมคอนเทนต์ หรือการเล่นเกม
รวมถึงการใช้งานฟีเจอร์อัจฉริยะที่ต้องการการตอบสนองที่ว่องไว เพราะคนเราใช้ชีวิตแบบไม่ได้อยู่กับที่ตลอดเวลามากขึ้น ดังนั้นที่พึ่งของเราก็เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากสมาร์ทโฟน หัวเว่ยจึงคิดค้นชิปเซ็ตที่เติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ทุกมุมขึ้นมา
Huawei Mate 40 Pro 5G ทำงานด้วยชิปเช็ต Kirin 9000 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตแบบ 5G SoC หมายความว่าเป็นชิปเซ็ตที่รองรับสัญญาณ 5G สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ System-on-Chip มีเล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมาคือ 5 นาโนเมตร แต่ทรานซิสเตอร์มีมากกว่า 1.53 หมื่นล้านตัว ปกติ 5G ก็ส่งผลให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตเร็วกว่า 4G ถึง 3 เท่าอยู่แล้ว
ยิ่งมีทรานซิสเตอร์มาก ก็ยิ่งทำให้การประมวลผลยิ่งเร็วและแรงขึ้นไปอีก แต่แทนที่จะใช้พลังงานมาก ชิปเซ็ตนี้ที่รวมเอาระบบและโมเด็ม 5G ไว้ในตัว และโครงสร้าง CPU ที่ทำงานได้ 3 ระดับ ก็ทำให้ประหยัดพลังงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
นอกจากตัว CPU แล้วก็ยังมี 24-Core Mali-G78 GPU ที่ทำให้การเล่นเกมลื่นไหลกว่าเดิม และ NPU ประมวลผล AI ได้ดีที่สุดในขณะนี้อีกด้วย สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับผู้ใช้ไม่ว่าจะหยิบมือถือขึ้นมาทำงาน หรือเล่นเพลิน ๆ ก็ทำได้ตามใจสั่งได้ในเวลาไม่กี่วินาทีแบบเต็มประสิทธิภาพ
เพื่อนนักสร้างสรรค์: สุดยอดตากล้องมืออาชีพ ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ
เทรนด์การใช้งานโซเชียลมีเดียจากการวิจัย Digital 2020 ของ We Are Social นั้น การใช้งาน Facebook และ YouTube ยังคงมาเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับคนไทย เท่ากับว่าการบันทึกความทรงจำ และเล่าเรื่องในชีวิตประจำวันได้เปลี่ยนจากการเขียนไดอารี่ หรือบล็อกออนไลน์ มาเป็นอัลบั้มภาพนิ่ง และวิดีโอ กันเป็นส่วนใหญ่แล้ว หลายคนใช้กล้องระดับโปรเพื่อให้ภาพออกมาดีที่สุด เพราะการที่ผลงานออกมาดี ได้รับคอมเมนต์ และไลค์มาก ก็จะกลายเป็นเรื่อง
น่าจดจำและความภูมิใจของคนเล่าเรื่อง ส่วนใหญ่คนที่เล่นกล้องมักจะรัก และสนุกกับการใช้กล้องจริง ๆ แต่ก็จะทราบดีว่าการเล่นกล้องต้องถือกระเป๋ากล้องไปตามที่ต่าง ๆ พก SD Card, Card Reader และต้องนำทุกอย่างที่ถ่ายลงเครื่องอีกที ซึ่งใช้อุปกรณ์เยอะและต้องทำหลายขั้นตอน บางครั้งจึงอยากใช้ดีไวซ์ที่ทดแทนวัสดุอุปกรณ์เหล่านี้ได้เพื่อความคล่องตัว
ฟีเจอร์กล้องที่ Huawei Mate 40 Pro 5G ได้บรรจุมาเรียกได้ว่าคิดแทนทั้งช่างภาพ และวิดีโอครีเอเตอร์มาหมดแล้ว ในด้านการถ่ายภาพนั้น สามาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อม กล้องหลังแบบ AI Camera 3 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องเลนส์กว้าง Super Sensing Wide Camera, กล้องเลนส์กว้างพิเศษที่ถ่ายแบบซีเนมาติก Ultra Wide Cine Camera
และกล้องซูม Periscope Telephoto Camera ที่ซูมแบบออปติคัลได้ที่ 5x และซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุดถึง 50x ที่มีเซ็นเซอร์ใหญ่ 1/1 28” RYYB สามารถรวบรวมแสงขณะถ่ายในที่แสงน้อยออกมาสวยสีจัดชัดเจนแบบไม่ต้องพึ่ง Night Mode ใด ๆ
ส่วนกล้องหน้าแบบ Ultra Vision Selfie Camera ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมกล้อง 3D Depth Sensing Camera มีความสามารถในการเก็บเฟรมถ่ายเซลฟี่ได้ตามจำนวนเพื่อน ๆ ที่เพิ่มเข้าเฟรมมามากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริม และไม่เกิดการบิดเบี้ยวของภาพ ทำให้สามารถบันทึกความทรงจำเวลาเที่ยวแบคแพคได้สบาย
สำหรับด้านวิดีโอ กล้องของ Huawei Mate 40 Pro 5G ก็สามารถถ่ายวิดีโอได้ในความละเอียดสูงระดับ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที (fps) ทั้งกล้องหน้าและหลัง โดยสามารถถ่ายทีละช็อต ปรับให้ถ่ายพร้อมกันทั้งหน้าและหลังเลยก็ได้
โดยไม่ว่าคุณจะกำลังถ่ายบนรถที่สั่นสะเทือน หรือเดินถ่ายแล้วมือไม่นิ่งโหมด Steady Shot ก็จะช่วยลดความสั่นสะเทือนได้ประหนึ่งใส่ stabilizer ในโปรแกรมตัดต่อ สามารถถ่ายแบบ Tracking Shot โดยตั้งกล้องไว้เฉย ๆ แล้วปล่อยให้ AI ช่วยซูมตามบุคคล หรือวัตถุหลักที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ได้เอง และใครที่เพิ่งเริ่มตัดต่อเป็นอาจจะใช้โหมด Story Creator มีเอฟเฟอค์ต่าง ๆ พร้อมช่วยตัดต่ออัตโนมัติแบบรวดเร็วและง่ายดายราวกับมือโปร
เพื่อนที่เชื่อใจได้: สุดยอดการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ไร้ขีดจำกัด
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงบ่อยที่สุดเวลาออกจากบ้านทั้งวัน คือเราต้องพกอะไรใส่กระเป๋าไปบ้าง สมัยนี้เวลาไปตระเวนกินกับเพื่อน เดทกับคนรัก หรือปาร์ตี้ยามค่ำคืน คงไม่มีใครอยากพกของเยอะให้หนักกระเป๋า สาว ๆ อาจต้องการใช้กระเป๋า Crossbody ใบเล็ก ๆ ใบเดียว
ส่วนหนุ่ม ๆ คงอยากจะพกแค่โทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ก็พอแล้ว แต่ถ้าอยากให้แบตเตอรี่โทรศัพท์อยู่ยงคงกระพันเช้ายันดึกหลายคนก็อยากพกสายชาร์จพร้อมแบตเตอรี่สำรองเพื่อความอุ่นใจ แต่คุณจะไม่มีความกังวลนั้นเลยถ้าสามารถแวะนั่งพักระหว่างวัน ชาร์จมือถือได้ภายในเวลาอันสั้น แล้วให้แบตอยู่ได้ยาว ๆ
สิ่งที่ Huawei Mate 40 Pro 5G เพิ่มมาเพื่อสร้างความสบายใจสูงสุดให้กับผู้ใช้คือการมีแบตเตอรี่ความจุ 4,400 mAh ที่สามารถอยู่ได้นานกว่า 9 ชั่วโมง แม้ใช้งานหนัก สมมติว่าคุณออกจากบ้านไปทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ประมาณช่วงเย็น ๆ ก่อนออกไปสังสรรค์กับเพื่อนก็ชาร์จโทรศัพท์ที่ทำงาน
สำหรับสาย Huawei Wired SuperCharge 66W ปกติจะใช้เวลาเพียง 46 นาที ส่วนบางคนที่นั่งทำงานไปด้วยดูโทรศัพท์ไปด้วยอาจจะใช้แท่น Huawei Wireless SuperCharge 50W แทนก็ได้ เมื่อแบตเต็มจนพอใจก็สามารถทิ้งสายชาร์จ หรือแท่นชาร์จไว้ที่ออฟฟิศ แล้วไปเที่ยวต่อได้แบบตัวเบาหายห่วง
“เพื่อน” สำหรับคนส่วนใหญ่หมายถึงบุคคลที่อยู่ด้วยแล้วให้ทั้งความสนุก และความอุ่นใจ ช่วยเติมเต็มให้การมีชีวิตอยู่เป็นไปในทางที่ดีขึ้น และเป็นที่พึ่งพิงให้กันได้ตลอดเวลา สำหรับโลกดิจิทัลที่หมุนเร็วขึ้นทุกวันนั้นจะหมายถึงสมาร์ทดีไวซ์ที่เป็นผู้ช่วยในทั้งยามทำงาน ยามท่องเที่ยว และการใช้ชีวิตประจำวันในแต่ละวันก็ได้ การที่มี “เพื่อน” ที่ทั้งเก่ง ฉลาด และอึดแบบ Huawei Mate 40 Pro นั้น ปี 2021 ก็คงจะน่าตื่นเต้นขึ้นสุด ๆ
Huawei Mate 40 Pro วางจำหน่ายแล้วในสี Mystic Silver และ Black ในราคา 34,990 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อระหว่างวันที่ 3 – 31 ธันวาคม 2563 ผ่านทางหน้าร้าน Huawei Experience Store ทุกสาขา และเว็บไซต์ Huawei Online Store โฉมใหม่
รวมถึงร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รับฟรีทันทีของสมนาคุณมูลค่ารวม 7,970 บาท ได้แก่ ปากกา Huawei M-Pen 2, เคสไฟวงแหวน Huawei Ring Light Case และแท่นชาร์จเร็วไร้สาย Huawei SuperChargeTM Wireless Charger Stand พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากหัวเว่ยมูลค่า 1,619 บาท
อันได้แก่ บริการซ่อมบำรุงถึงบ้าน (Door to Door service), บริการบำรุงรักษาเครื่อง 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี, Huawei CLOUD STORAGE 5GB ตลอดชีพ + 50GB ให้ใช้ภายในระยะเวลา 1 ปี รวมถึงฟรีค่าใช้บริการ Huawei VDO 1 เดือน และเช่าหนังฟรี 5 เรื่องใน Huawei Movie Pass
Leave a Reply