ช้ำใจอีกราย! ซื้อ iPhone 7 Plus จาก dtac เครื่องมีปัญหาปัดความรับผิดชอบซะงั้น!

ช้ำใจอีกราย! ซื้อ iPhone 7 Plus จาก dtac เครื่องมีปัญหาปัดความรับผิดชอบซะงั้น!

เกิดเป็นประเด็นขึ้นมาอีกหนึ่งรายสำหรับกรณีปัญหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple อย่าง iPhone 7 Plus จากกระทู้บทความล่าสุดที่มีชื่อว่า “ซื้อ iPhone 7 Plus เครื่องมีปัญหา แต่ศูนย์ dtac ปัดความรับผิดชอบ ควรทำยังไงดีคะ” ของคุณพู่กันสีขาว&ดาวกระดาษ จาก Pantip.com ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เจ้าของกระทู้เพิ่งซื้อ iPhone 7 Plus จากศูนย์ dtac

ใช้งานได้ไม่ทันไรที่ชาร์จแบตเตอรี่เกิดมีปัญหาชาร์จแล้วเครื่องสั่น กล้องหลังดำมืดไม่ปกติ เดินทางไปที่ศูนย์ iService ปรากฏว่ากล้องสามารถเปลี่ยนได้ แต่ที่ชาร์จแบตเตอรี่ไม่สามารถเปลี่ยนได้เพราะซีเรียลนัมเบอร์ของที่ชาร์จกับตัวเครื่องไม่ตรงกัน ซึ่งเจ้าของกระทู้ระบุว่าทาง dtac ปัดความรับผิดชอบพร้อมกับแจ้งว่าซื้อของออกจากร้านแล้วคือจบ ให้ไปคุยที่ iCare ต่อเอง เราไปชมบทความนี้กันเลยค่ะ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปนี่เป็นครั้งแรกในการตั้งกระทู้ (เรายืมไอดีของเพื่อนมาโพสต์ค่ะ) เพราะเรามีเรื่องที่จะปรึกษากับทุกท่านค่ะ สรุปแบบสั้นๆ เพิ่งซื้อ iPhone 7 Plus แต่ที่ชาร์จแบตเตอรี่มีปัญหา ชาร์จแล้วเครื่องสั่น และกล้องหลังดำมืด ไปที่ศูนย์ iService กล้องเปลี่ยนให้ได้แต่สายชาร์จเปลี่ยนไม่ได้

เพราะซีเรียลนัมเบอร์ของที่ชาร์จแบตกับตัวเครื่องไม่ตรงกัน ให้กลับมาร้องเรียนที่ dtac แต่ dtac ไม่รับผิดชอบ บอกซื้อของออกจากร้านแล้วคือจบ ให้ไปคุยที่ iCare ต่อเอง ควรทำยังไงต่อไปดีคะ

เรื่องตามเหตุการณ์จริง!!!! เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 เราไปซื้อโทรศัพท์ iPhone 7 Plus จากทางศูนย์ dtac สาขาที่ซีคอนแสควร์มาค่ะ คืนนั้นหลังจากกลับมาที่บ้านประมาณ 5 ทุ่ม เราก็ชาร์จแบตโทรศัพท์ปรากฏว่าโทรศัพท์เกิดอาการสั่น (ดังคลิปที่แนบมา) ซึ่งพี่เขยเราก็ให้อัดคลิปเผื่อไว้ก่อน

แต่ในตอนนั้นเราทุกคนก็เข้าใจว่ามันน่าจะเป็นที่ปลั๊กสามตาที่บ้าน (ตอนนั้นชาร์จผ่านปลั๊กสามตาค่ะ) พี่เขยเราจึงให้เราถอดไปชาร์จกับปลั๊กของที่บ้านไม่ต้องผ่านปลั๊กสามตา ซึ่งปรากฏว่าสามารถชาร์จได้ปกติเราก็ไม่ได้เอะใจอะไร หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร จนมันมีอีกครั้งในช่วงคืนที่เราจะออกต่างจังหวัด (คืนวันที่ 30)

คืนนั้นที่ชาร์จเป็นเหมือนเดิมมีอาการสั่นหนัก เราก็พยายามขยับๆ ตอนนั้นก็ยังคิดว่าเป็นที่ปลั๊กสามตาก็ย้ายปลั๊ก แต่ปรากฎว่ามันก็ไม่หายต้องขยับอยู่หลายทีจนสามารถชาร์จได้ แล้วเราก็ออกเดินทางไปต่างจังหวัด ตอนนั้นที่ชาร์จเริ่มออกอาการชัดเจนแล้ว พอกลับมาจากต่างจังหวัด อยู่ๆ กล้องหลังก็ไม่สามารถใช้ได้ (ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรสามารถใช้ถ่ายรูปได้ เรายังถ่ายหน้าชัดหลังเบลออยู่เลย)

จนประมาณวันที่ 4 มกราคม เราก็รีบเอาโทรศัพท์ไปเข้าศูนย์ ก่อนหน้าที่จะไปเราก็สอบถามจากพี่เขย ซึ่งก็แนะนำว่าให้เราไปที่ศูนย์ iCare ที่พาราไดซ์ เราเองก็ค้นหาข้อมูลจากกูเกิลด้วยเพราะไม่แน่ใจว่าจะต้องไปที่ไหน ตอนนั้นเราจึงโทรหาศูนย์ dtac ปรึกษาเรื่องอาการดังกล่าว (วันนั้นครบ 10 วันที่ซื้อโทรศัพท์)

ซึ่งทางน้องฟ้า (พนักงานคอลเซ็นเตอร์) แจ้งเราว่าให้เราไปแจ้งที่ศูนย์ dtac ใหญ่ ซึ่งเราก็ถามย้ำไปว่าเราจะต้องไป iCare เลยไหม ทางน้องฟ้าก็ยืนยันว่าให้ไปที่ศูนย์ dtac ก่อน ซึ่งเราก็เดินทางไปศูนย์ dtac พาราไดซ์ ตามที่น้องฟ้าแนะนำปรากฏว่าเราไปยืนรอเข้าคิวอยู่ 30 กว่านาที แต่เมื่อถึงคิวเรา

พนักงานแค่เอาที่ชาร์จมาลองแล้วก็แจ้งว่าที่ชาร์จเราเสีย กล้องเราก็เสีย ให้เราไปที่ iCare ได้เลย ซึ่งเราก็เข้าใจว่าเปลี่ยนที่นี่ได้เพราะถามน้องฟ้าแล้ว ตอนนั้นเราก็โมโหเพราะมันเสียเวลา และเราก็พยายามที่จะถามแล้วเพื่อจะให้ได้รับการดำเนินการเร็วๆ ซึ่งตอนนั้นทางพนักงานก็ขอโทษ แล้วก็แจ้งว่าทาง dtac รับไว้ได้แต่มันจะช้าให้ไปที่ iCare เลยดีกว่า แล้วเราก็ไปที่ศูนย์ iCare ด้วยตัวเอง

พอไปถึงศูนย์ iCare ทาง iCare ก็แจ้งว่าที่นี่ไม่มีกล้อง กล้องหมด ไม่สามารถเปลี่ยนได้เลย ต้องทิ้งโทรศัพท์ไว้ 7-14 วัน ซึ่งเราไม่อยากทิ้งโทรศัพท์ไว้ เพราะต้องใช้งาน จึงถามทาง iCare ว่ามีที่ไหนสามารถเปลี่ยนได้แบบไม่ต้องทิ้งเครื่อง ทาง iCare ก็แนะนำให้เราโทรไปหาตามสาขาต่างๆ ถ้าสาขาไหนมีกล้องก็เปลี่ยนได้

เราก็ไล่ตามโทรสรุปว่าเราไปได้ที่ iService ของเซ็นทรัลพระราม 9 (ตอนนั้นเราถามทาง iCare ด้วยว่าอาการกล้องแบบนี้มันผิดปกติไหม ทำไมอยู่ๆ ใช้ได้แล้วก็มาใช้ไม่ได้ พนักงานก็บอกเป็นปกติเดี๋ยวเปลี่ยนก็หาย ส่วนเรื่องสายชาร์จพนักงานบอกเหมือนจะเปลี่ยนได้เลย เพราะในรอบนี้พนักงานเข้าใจว่าเป็นที่สาย

แต่จริงๆ มันเป็นที่หัวชาร์จซึ่งต้องส่ง Apple แต่แนะนำว่าให้เราไปเปลี่ยนที่เดียวกับกล้องเลย) อีกสองวันต่อมาจึงไปที่เซ็นทรัลพระราม 9 ซึ่งเมื่อเราไปถึงทางศูนย์พนักงานก็ตรวจสอบอาการตามปกติ บอกกล้องสามารถเปลี่ยนแล้วรอรับได้เลย ภายใน 4 ชั่วโมง แต่สายชาร์จมีปัญหาจริงๆ ที่พีคกว่านั้นคือ พนักงานเช็คซีเรียลนัมเบอร์ของเครื่อง กับหัวสายชาร์จแล้ว ไม่มีรหัสตรงกัน ไม่สามารถเปลี่ยนได้

พนักงานบอกว่าต่อให้ส่งหัวชาร์จไปที่ Apple ทางนั้นก็ตีกลับอยู่ดี ให้เรากลับไปที่ศูนย์ dtac ที่ซื้อแล้วให้ไปถามว่าทำไมซีเรียลนัมเบอร์ถึงไม่ตรงกัน ตอนนั้นเราโกรธและกังวลมาก ในใจคิดว่าโดนหลอกแน่ๆ แต่ก็ใจดีสู้เสือรีบไปถามจึงขับมาที่ซีคอนต่อเลย มาถึงศูนย์ที่ซื้อทางศูนย์ไม่รับผิดชอบอะไรเลย

พูดแค่ว่าถ้าซื้อออกไปแล้วไม่สามารถกลับมาเปลี่ยนได้ถือว่าเช็คแล้ว แต่ในวันที่เราไปคุยกับศูนย์ทางศูนย์ลองที่ชาร์จมันก็ไม่มีปัญหาอะไร เราเลยบอกให้เสียบไปสักพัก มันก็มีปัญหา โทรศัพท์สั่นจริงๆ ซึ่งเราไม่เข้าใจ และงงมากว่าการดูแลลูกค้าดูแลแบบนี้หรอ เราซื้อโทรศัพท์มาแพงมากจึงคาดหวังกับโทรศัพท์ไว้สูง

บวกกับเราซื้อกับร้านที่เรามั่นใจในเครือข่ายคือใช้มานานมากแล้ว แต่ปรากฏว่าพอเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นทางร้านกลับไม่รับผิดชอบอะไรเราเลย มีการถามกลับว่าเราไปวางสลับกับใครไว้รึเปล่าอีกด้วย เรามั่นใจว่าไม่ใช่เพราะสายยังใหม่อยู่แล้วเราเพิ่งซื้อไปเราก็มีความหวงของมาก ที่สำคัญคลิปที่พี่เขยเราให้อัดในวันนั้นมันก็ยังขึ้นว่าอัดคืนวันที่ 25

ซึ่งก็เป็นวันเดียวกับที่เราซื้อโทรศัพท์ตอนนี้เราไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี ในส่วนของกล้อง เราสามารถเปลี่ยนได้ทันทีเพราะว่าอยู่ในประกัน แต่ในส่วนของสายชาร์จ ทางศูนย์ dtac ไม่รับผิดชอบ แล้วยังบอกว่าเราไปเปลี่ยนที่ชาร์จกับใครรึเปล่า เหมือนปัดความรับผิดชอบ!!!!! เราควรทำยังไงต่อไปดีทั้งๆ ที่ทั้งหมดเราคิดว่า dtac ควรจะเปลี่ยนให้ เพราะเรามั่นใจว่าเราไม่ได้สลับที่ชาร์จกับใครเลยจริงๆ รบกวนปรึกษาผู้มีความรู้ทุกท่านด้วยค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณพู่กันสีขาว&ดาวกระดาษ จาก www.pantip.com