งานเข้าอีกแล้ว! ผู้ใช้งานร้องเรียนเหตุ TrueMove H หักค่าบริการ True Internet จากบัญชีธนาคารซ้ำซ้อนซ่อนเงื่อน
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เรามีกระทู้บทความของ คุณ Patty Hewes จาก Pantip.com ที่ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์และร้องเรียนถึงบริการของ TrueMove H ซึ่งทางเจ้าของกระทู้นั้นผูกบัญชีไว้กับค่าบิลอินเตอร์เน็ตโดยทุกๆ เดือน TrueMove H จะหักค่าบริการผ่านบัญชีนี้ แต่เนื่องจากยอดเงินในบัญชีไม่พอกับค่าใช้จ่าย เจ้าของจึงได้ค้างค่าบริการอยู่เป็นจำนวนเงิน 1,679 บาท และได้ชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคารกสิกร
เมื่อชำระเงินแล้วปรากฎว่ายังไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ และวันถัดมาพบว่าในบัญชีถูก TrueMove H หักค่าบริการออกไปอีก 1,679 บาท ซึ่งเป็นการหักซ้ำซ้อน เมื่อทวงถามไปยัง Call Center TrueMove H กลับได้รับคำตอบว่า ไม่มียอดเงินก่อนหน้านี้ที่เจ้าของกระทู้ชำระผ่านแอพพลิเคชั่น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้นเราไปชมบทความนี้กันเลยค่ะ
เหตุการณ์ข้อเท็จจริงของเจ้าของกระทู้ก็คือ เจ้าของกระทู้ได้นำสมุดบัญชีไปผูกไว้กับค่าอินเตอร์เน็ต True (เป็นเครื่อง Shared Wifi โดยต้องมีการสมัครซิมการ์ดเบอร์โทร การชำระเงินโดยให้ทำการหักผ่านบัญชีในแต่ละเดือน แต่เนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ไม่ได้ใส่เงินในบัญชีไว้พอกับค่าใช้จ่ายเลยทำให้เป็นหนี้ติดค้างค่าบริการอยู่ 1,679 บาท แล้วก็ได้ดำเนินการชำระผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคารกสิกรในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ในยอดเงินดังกล่าว
แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งาน Interne ได้ ซึ่งเจ้าของกระทู้ ก็มัวยุ่งอยู่เลยยังไม่ได้ไปจัดการโทรหรือติดต่อไปยัง True แต่แล้วในวันที่ 28 พฤศจิกายน ก็ได้รับข้อความจากบัญชีธนาคารกสิกรไทยดังกล่าวว่ามีการหักยอดเงิน จำนวน 1,679 บาท จากบริษัท True ไปอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการหักบัญชีซ้ำในยอดค่าใช้จ่ายเดิม เจ้าของกระทู้จึงได้ติดต่อไปยัง True ผ่านทาง Call Center แต่ได้รับการปฏิเสธว่าไม่มียอดดังกล่าวเข้ามาจริง?!?! แต่เจ้าของกระทู้ก็ได้ยืนยันว่ามีหลักฐานการหักเงินในบัญชี ทางเจ้าหน้าที่ True เลยบอกให้ส่งเอกสารมาทาง MMS ซึ่งต้องเป็นเบอร์ True เพื่อจะส่งฟรี หรือส่งมาทางแฟกซ์?!?
ยอมรับว่าตอนนั้นโกรธขึ้นมาเลยเพราะมันยุ่งยากมาก เพราะเบอร์มือถือที่ใช้อยู่ไม่ใช่ของ True ซึ่งวิธีที่เหลือคือการแฟกซ์ และการแฟกซ์คือการที่ เจ้าของกระทู้ต้องปริ้นภาพออกมาแล้วไปที่ร้านเพื่อส่งแฟกซ์ เจ้าของกระทู้ขอเป็น email หรือวิธีอื่น แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นนโยบายของบริษัท?!!
คือท่าทีการรับเรื่องหรือนโยบายรับเรื่องที่ลูกค้าเป็นผู้เสียหายแย่ไปไหมคะ ทำไมถึงเป็น email ไม่ได้ หรือส่งด้วยวิธีอื่นที่มันยุ่งยากน้อยกว่าการส่งแฟกซ์เราเลยเกิดคำถามขึ้นมาว่าทำไมเราต้องมาเสียเวลา เสียความรู้สึกอะไรต่างๆ ในการตามเงินที่เป็นของเราจากคนที่ขโมยโกงเอาเงินเราไปโดยไม่บอกไม่กล่าว เพราะถ้าเจ้าของกระทู้ไม่ได้สมัคร SMS รับความเคลื่อนไหวจากเงินในบัญชี จะรู้มั้ยว่า True ได้ทำการลักขโมยเงินออกไปจากบัญชี แล้วจะมีหลักฐานอะไรอย่างอื่นไปยืนยันกับเขายังไง
ในตอนเช้าวันเดียวกันกับที่โทรไปหาเจ้าหน้าที่ TrueMove H (คือเสียเวลาช่วงวันหยุดตอนเช้าอันแจ่มใส มานั่งกดโทรศัพท์หาวิธีส่งข้อความ สมัคใช้งาน MMS ในเครือข่ายอื่น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ เพราะทางระบบบอกว่าน่าจะเกิดเหตุขัดข้องกับตัวโทรศัพท์ เจ้าของกระทู้ จึงได้ลองสอบถามไปยังเพจ TrueMove H ให้ช่วยตามเรื่อง พร้อมกับส่งหลักฐานที่เป็นข้อความยืนยันการหักเงินดังกล่าวไปด้วย แต่ก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมที่ว่า “ไม่มีการตัดยอดเงินในบัญชีดังกล่าวแต่อย่างใด มีเพียงบิลเดียวที่ชำระไปวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558
เราตามเรื่องจนผ่านไปหลายวัน แล้วตัวเราเองก็ไม่มีเวลาจะมาเสียให้เรื่องแบบนี้ตลอด ก็เลยต้องปล่อยมันให้เป็นไปก่อน ขอไปจัดการชีวิตด้านอื่นบ้าง จนเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม (ผ่านไป 4วัน ก็ได้รับ Facebook Messenger ทาง inbox จากเพจ TrueMove H
มาสักที!!! แต่ยังก่อนท่านผู้ชม เงื่อนไขในการคืนเงิน (ที่ขโมยไป คือ ภายใน 25 วัน?! วันนี้เราก็เลยไปยกเลิกมาเรียบร้อย แต่ไม่วายโดนพนักงาน TrueMove H ให้กำลังใจด้วยคำพูดที่ว่า ” 25 วันอาจจะไม่ชัวร์นะคะ ถ้าชัวร์จิงๆ คือ 45 วันไปแล้วได้แน่ค่ะ แต่คือสัก 25 วันไปแล้ว ลองเอาสมุดธนาคารไปอัพนะคะ
พูดสีหน้าเฉยๆ บริษัทไม่ได้ทำอะไรผิดค่ะ ลูกค้าที่น่าสงสาร ต้องรอไปเอง ตามทวงเงินเอง หาหลักฐานมาเอง หาไม่ได้ก็เชิดเงินไป โกงมันหลายๆ เจ้า เนียนๆ ไป เพราะไม่มีใครรู้ ก็อย่างที่เล่ามาตามนี้นะคะ เจ้าของกระทู้ ก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่โดนบริษัท TrueMove H โกง ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวคืน ถึงแม้จะเป็นเงินจำนวนไม่กี่พันบาท แต่ถ้าหลายๆเจ้ารวมกันก็หลายบาท
ก็อยากจะเตือนภัยคนที่เป็นสมาชิก TrueMove H ให้คอยตรวจสอบดูดีๆ เพราะจากที่อ่านมาหลายกระทู้ บริษัทนี้เค้าโด่งดังมากค่ะ เรื่องของการโกงเงินชาวบ้านแบบเนียนๆ แล้วก็ตามยากตามเย็น ขนาดมีหลักฐานชัดๆ แบบนี้เค้ายังเล่นนโยบายนู่นนี่นั่นประวิงเวลาออกไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะเบื่อตายไปเองค่ะ
แต่เจ้าของกระทู้ ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะที่ผ่านมาเสียทั้งเวลา เสียความรู้สึก เสียประโยชน์ต่างๆ อันพึงจะได้รับถ้าหากไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมา เลยอยากจะให้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจสมาชิกคนอื่นๆ ว่าควรระวัง และสำหรับผู้ที่กำลังจะตัดสินใจมาใช้บริการ ขอแนะนำว่าอย่ามาเลยค่ะ ไม่งั้นวันใดวันหนึ่งคุณอาจจะเป็นเหยื่อรายต่อไป
เพราะเค้าก็ทำสำเร็จมาแล้วในหลายๆ ครั้ง มีทั้งผู้เสียหายที่รู้ หรือไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่มีหลักฐาน หรือรู้และมีหมดทุกอย่างแต่ไม่มีเวลาจะมาตามเรื่อง อยากให้ช่วยๆ กันดันขึ้นเป็นกระทู้แนะนำให้หน่อยนะคะ จะได้เตือนหลายๆ คน ถึงเหตุการณ์ที่เราผู้บริโภคตกเป็นเหยื่ออย่างไม่มีทางสู้ ในส่วนของ เจ้าของกระทู้ นั้นก็คงต้องรอเงินที่ตัวเองโดนโกงไปต่อ
ซึ่งถ้ายังไม่คืนก็คิดว่าเราต้องลงมือทำอะไรบ้างแล้วค่ะ ตอนนี้ในกลุ่มคนที่รู้จักก็มีเพื่อนๆ แล้วก็คนสนิทหลายคนก็โดนโกงด้วยรูปแบบวิธีการต่างๆ สมัครใจจะเข้าร่วมหลายคนด้วยกัน เพราะตอนนี้มาตรา 222/1 ของประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งเป็นบทบัญญัติใหม่กำลังจะออก ผู้เสียหายสามารถร่วมลงชื่อกันเป็นโจทก์ฟ้องดำเนินกระบวณพิจารณาคดีแบบกลุ่มได้ค่ะ เพราะถึงแม้เราจะไม่มีอำนาจอย่างบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่เราก็สามารถรวมกันเพื่อต่อสู้ การกระทำที่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างนี้ได้นะคะ อย่างน้อยก็ควรทำให้สังคมได้รับรู้ถึงการกระทำทุจริตและจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของบริษัทขี้โกงแบบนี้ต่อไปค่ะ
ทั้งนี้ทาง True Intelligence ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลและตอบคำถามต่างๆ ภายใน Pantip ได้มาให้ข้อมูลดังนี้ค่ะ
สวัสดีครับ คุณ Patty Hewes
ตรวจสอบข้อมูลจากหมายเลข TrueMove H ซึ่งแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับช่องทางการชำระค่าบริการ คุณ Patty Hewes สมัครหักค่าบริการผ่านบัญชีธนาคารอัตโนมัติทุกเดือน ซึ่งโดยปกติระบบจะแจ้งยอดค่าบริการไปยังธนาคารก่อนวันครบกำหนดชำระครับ โดยระบบจะส่งแจ้งยอดเพื่อหักค่าบริการทุกๆ รอบบิลครับ หากในวันที่ต้องหักค่าบริการ มียอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอ ระบบจะนำยอดค้างชำระ รวมกับยอดค่าบริการของรอบบิลถัดไปครับ และส่งหักพร้อมกันครับ
สำหรับยอดค่าบริการ 1,679 บาท เป็นยอดค่าบริการ 4 รอบบิลครับ เนื่องจากยอดเงินในบัญชีไม่เพียงพอ (ซึ่งตามที่คุณเกิดเหตุสุดวิสัยที่ไม่ได้ใส่เงินในบัญชีไว้พอกับค่าใช้จ่าย แจ้งว่าเกิดเหตุสุดวิสัยที่ไม่ได้ใส่เงินในบัญชีไว้พอกับค่าใช้จ่าย ทางธนาคารจึงไม่สามารถหักยอดค่าบริการในแต่ละรอบบิลได้ครับ แต่หลังจากที่มียอดเงินในบัญชีธนาคารเพียงพอแล้ว ระบบของธนาคารจึงหักค่าบริการเข้า TrueMove H ครับ
สำหรับในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งคุณ Patty Hewes ชำระค่าบริการจำนวน 1,679 บาท ผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารกสิกร ยอดเงินจำนวนนี้ก็เข้าระบบในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 ครับ แต่ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ยังมีการหักเงินจำนวน 1,679 บาท จากบัญชีธนาคารกสิกรที่คุณ Patty Hewes สมัครหักค่าบริการผ่านบัญชีธนาคารอัตโนมัติไว้อีกนั้น (ยอดนี้เข้าระบบ พฤศจิกายน 2558 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558
เนื่องจากทางระบบส่งยอดที่ต้องหักค่าบริการจำนวน 1,679 บาท ไปยังธนาคารก่อนแล้ว (ก่อนวันที่ 26 ตุลาคม 2558 ถึงแม้ว่าจะมีการชำระค่าบริการผ่านช่องทางอื่นแล้ว แต่พอในบัญชีธนาคารมียอดเงินเพียงพอ ทางระบบของธนาคารจึงหักค่าบริการตามปกติครับ และคุณ Patty Hewes ไม่ได้ทำเรื่องยกเลิกการหักค่าบริการผ่านบัญชีธนาคารไว้ครับ
สำหรับยอดเงินที่ชำระค่าบริการเกินในระบบ แนะนำรอใบแจ้งค่าบริการของรอบบิลสุดท้ายซึ่งระบบจะคำนวณยอดสุทธิอีกครั้งว่ามียอดค่าบริการจำนวนเท่าใด หรือมียอดค่าบริการที่ชำระเกินจำนวนเท่าใด แล้วสามารถทำเรื่องขอยอดเงินคืนได้ครับ ซึ่งช่องทางในการส่งเอกสารนอกจากการส่ง MMS (จากเบอร์พฤศจิกายน 2558 หรือส่งแฟกซ์แล้ว สามารถส่งทางอีเมล์ หรือแนบรูปทางหลังไมค์ได้ครับ
และหลังจากที่ True Intelligence ได้มาให้ข้อมูลและชี้แจงแล้วทางเจ้าของกระทู้ก็ได้ตอบกลับดังนี้ค่ะ
เรียน คุณ Intelligence
1. ช่องทางดังกล่าวที่คุณพูด ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนที่ติดต่อไปบอกเลยนี่คะว่าสามารถทำได้ มีแต่ยืนยันจะให้ส่งแฟกซ์มาเท่านั้น และย้ำอยู่แค่นั้น บอกแค่ว่าเป็นนโยบายบริษัท
2. แล้วการติดต่อไปไม่เคยได้รับการติดต่อกลับมาเลย และไม่มีการอธิบายอะไรทั้งสิ้น นี่ยังไม่รวมถึงการตัดยอดที่เกิดจากความผิดพลาดของบริษัทคุณเองที่มียอดการชำระไปแล้ว แต่ดันมาหัก แล้วโทษลูกค้าเองว่าคุณไม่ได้ยกเลิกการสมัครผูกบัญชีไว้เอง เพราะตอนแรกก็กะว่าจะเป็นลูกค้าต่อ แต่มาเจอแบบนี้ก็ไม่เอาแล้วค่ะ
3. ถ้าการที่ติดค่าบริการแล้วได้ชำระไปแล้ว เป็นเหตุอันควรอ้างให้มาขโมยเงินโดยเป็นยอดเต็ม โดยไม่มีกฎข้อไหนบอกว่าเบี้ยปรับการชำระผิดนัดให้หักเท่ากับจำนวนเงินที่ติดไว้ได้เต็มที่ อย่างนี้ก็แย่ไปค่ะ
4. ขอรายละเอียดทั้ง 4 เดือนด้วยนะคะว่าเดือนไหนบ้างเพราะถูกระงับการให้บริการตั้งแต่ 28 ตุลาคม แล้วค่ะซึ่งหลังจากจ่ายไปแล้ว และถูกเรียกเก็บซ้ำ รวมไปสามพันกว่าบาท ก็ไม่ได้มีการเปิดให้ใช้บริการแต่อย่างใด ทั้งๆที่มีการแจ้งไปแล้วว่าชำระแล้วและขอเปิดใช้บริการต่อ
5.หลังจากเก็บเงินซ้ำไม่มีการติดต่อกลับมาเลยจากทางบริษัท และที่คุณพูดว่า “แต่ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ยังมีการหักเงินจำนวน 1,679 บาท จากบัญชีธนาคารกสิกรที่คุณ Patty Hewes สมัครหักค่าบริการผ่านบัญชีธนาคารอัตโนมัติไว้อีกนั้น เนื่องจากทางระบบส่งยอดที่ต้องหักค่าบริการจำนวน 1,679 บาท ไปยังธนาคารก่อนแล้ว (ก่อนวันที่ 26 ตุลาคม 2558) ”
เท่ากับอันนี้หลักฐานชัดเจนเลยค่ะว่ารู้ว่ามีเงินเข้าไปแล้ว แต่ไม่ยอมคืน แต่มาแจ้งอีกที ณ วันที่ 2 ธันวาคม ก่อนหน้าที่ติดต่อไป บอกว่าไม่มีข้อมูลว่าได้รับเงิน ตกลงระบบรู้หรือไม่รู้กันแน่คะว่ามีเงินเข้า?? แต่ถ้าพูดแบบนี้คือยอมรับแล้วสินะคะว่าตอนทวงถาม (วันที่ 28 พฤศจิกายน นั้นระบบมีเงินเข้าแล้วแต่กลับตอบว่าไม่มีเพื่อที่จะไม่รับผิดชอบ
6. ค่าบริการไม่มีแล้วค่ะ เพราะวันนี้ไปยกเลิกมาแล้ว แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถูกยกเลิกไปแล้วตั้งแต่ตุลาคมในวันดังกล่าว เคลียร์ไปแล้วนะคะ ทีนี้ขอเงินที่เก็บเกินไปคืนได้รึยังคะ ติดนโยบายอะไรอีกรึเปล่า?
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ Patty Hewes จาก www.pantip.com
Leave a Reply