ความคืบหน้ากรณี “Samsung Galaxy Note 4 หน้าจอด้านในแตกเอง”

ความคืบหน้ากรณี “Samsung Galaxy Note 4 หน้าจอด้านในแตกเอง”

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราขอมานำเสนอกระทู้ภาคต่อเกี่ยวกับการใช้งานมือถือ Samsung Galaxy Note 4 และการบริการหลังการขายของ Samsung กันค่ะ ซึ่งบทความนี้เป็นของ คุณ ผ่านพ้นจึงค้นพบ จาก Pantip.com ซึ่งเมื่อกระทู้ที่แล้วได้กล่าวถึงอาการหน้าจอด้านในแตกเอง ทั้งที่เพิ่งซื้อมาใหม่ทางเจ้าของกระทู้ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำเครื่องตกแต่อย่างใด เมื่อเข้าไปที่ศูนย์ Samsung ทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่าอาการดังกล่าวที่ว่านี้ เหตุเกิดจากเพราะการกดทับจากการใช้งานของลูกค้า แต่ทางเจ้าของกระทู้ก็ได้ยืนยันว่าไม่เคยทำเครื่องตก ไม่ได้ทำแตกเอง ตัวเครื่องด้านนอกก็ไม่ได้เกิดรอยใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการแกะเครื่องเพื่อทำการตรวจสอบก็พบว่าในตัวเครื่องไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่ก็ย้อนกลับไปที่กรณีเดิมว่าเกิดจากการกดทับ และทางเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ช่วยได้เพียงแต่ให้ส่วนลดค่าซ่อม 50% ทางเจ้าของกระทู้จึงได้มาทวงถามว่าทาง Samsung จะแก้ปัญหานี้อย่างไร

และล่าสุดทางเจ้าของกระทู้ก็ได้มาตั้งกระทู้ใหม่ซึ่งเป็นภาคต่อของปัญหานี้ ซึ่งดูเหมือนว่าทางเจ้าของกระทู้จะประสบปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นแทน แต่การบริการหลังการขายของ Samsung ก็ยังคงเดิม ปัญหาหน้าจอแตกเองเมื่อครั้งที่แล้วทางเจ้าของกระทู้ได้เสียค่าใช้เอง ในการซ่อมหน้าจอที่แตกเป็นรอยยาว แต่เมื่อกลับมาถึงก็พบปัญหาใหม่ เมื่อ ปุ่ม Back เกิดปัญหา หน้าจอฝั่งขวา เผยอออกมา และมีแสงไฟลอดออกมาที่มุมเครื่อง จึงได้ส่งกลับเข้าศูนย์เพื่อแก้ไขปัญหาอีกครั้ง และเมื่อถึงวันรับเครื่อง ทางศูนย์ก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาแต่อย่างใด

ทางเจ้าของกระทู้ได้โทรไปทวงถามเพื่อติดต่อประสานงานกับทาง Call Center ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการบริการที่ดีเท่าไร และหลังจากที่เจ้าของกระทู้ได้แจ้งเรื่องไว้กับ สคบ. ตั้งแต่ตอนกรณีจอด้านในแตกเอง ทางสคบ.ได้ส่งจดหมายลงทะเบียนกลับมา และได้ออกหนังสือให้ทางไทยซัมซุงเข้าชี้แจ้งข้อเท็จจริงแล้ว เราไปชมบทความภาคต่อของปัญหาดังกล่าวนี้ต่อกันเลยค่ะ

สวัสดีครับ

จากกรณี กระทู้ Samsung Galaxy Note4 หน้าจอด้านใน “แตกเอง” http://pantip.com/topic/34025976/

ผมได้เข้าไปรับเครื่องคืนที่ศูนย์สีลมเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2558 โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายเองเพื่อนำเครื่องมาใช้ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายเป็นจำนวนเงิน 2,918 บาท

ซึ่งผมรับเครื่องมาโดยที่ไม่มีเวลาตรวจเครื่องมากนัก เพราะไปตอนเวลาเกือบๆ 6โมง ซึ่งศูนย์ใกล้จะปิดแล้ว ประกอบกับเพิ่งจะเป็นวันที่ถัดจากเหตุการณ์ราชประสงค์ 1 วันด้วย

หลังจากเอาเครื่องมาแล้ว กลับมาถึงบ้าน ลองนั่งเล่นดูก็รู้สึกว่า ปุ่ม Back ไม่สามารถกดได้โดยง่าย คือแต่เดิมก่อนหน้านี้มันก็กดยากอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้กดยากยิ่งกว่าเดิม และหน้าจอทั้งแผ่นยกไปมาตามการกดหน้าจอ พอสังเกตตัวเครื่องดีๆ ปรากฏว่า หน้าจอฝั่งขวา มันเผยอขึ้นออกมา และมีแสงไฟลอดออกมาที่มุมเครื่อง

ซึ่งผมไม่มีเวลาว่างพอที่จะเอาเครื่องเข้าศูนย์อีก จึงต้องทนใช้มาเกือบๆ 1อาทิตย์ เพื่อเข้าศูนย์อีกครั้งเมื่อตอนเช้าของวันที่ 26 สิงหาคม 2558

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งกับผมว่า สามารถกลับมารับเครื่องได้ตอนประมาณบ่าย 2-3 แต่เนื่องจากผมมีธุระ จึงลากยาวจนกลับไปที่ศูนย์ตอนประมาณ 4 โมงเย็น ปรากฏว่า เครื่องยังไม่เสร็จ!!! ผมต้องรออีกครึ่งชั่วโมงเครื่องถึงจะเสร็จ เมื่อได้รับเครื่อง คราวนี้ผมตรวจเช็คอย่างละเอียด เครื่องก็ดูเหมือนจะปกติดี ปุ่ม Back ง่ายขึ้น แต่ยังรู้สึกยากแบบแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เอามาก็วางบนเบาะรถฝั่งคนนั่งปกติธรรมดา พอกลับถึงบ้าน คราวนี้ยังไม่ทันได้เล่นอะไรกับตัวเครื่องเลย ปรากฏว่า ตัวหน้าจอเผยอกลับขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นมากกว่าเดิม ปุ่ม Back ไม่สามารถใช้งานได้เลย ต้องกดแรงมากๆ เพื่อให้ใช้ได้ ซึ่งต้องแรงจนกลัวว่าหน้าจอมันจะแตก

วันที่ 28 ช่วงบ่าย ผมจึงเอาเครื่องกลับไปที่ศูนย์สีลมอีกครั้ง ครั้งนี้ผมถามกับเจ้าหน้าที่มีเนื้อหาประมาณนี้

ผม : ที่มันเป็นแบบนี้ มันเกิดจากการประกอบไม่ดีหรอครับ
เจ้าหน้าที่ : ไม่ใช่ครับ วัสดุของ Samsung แน่นหนา ไม่ได้เกิดจากการประกอบไม่ดีแน่นอน
ผม : งั้นมันเกิดจากอะไรครับ เพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มันมีปัญหาแบบนี้
เจ้าหน้าที่ : อาจจะเกิดจากการที่ “ลูกค้าเอาเครื่องไปใส่เคส”
ผม : งั้นแสดงว่าตัวเครื่องบอบบางมากถึงขนาดใส่เคสแล้วพังแบบนี้หรอครับ
เจ้าหน้าที่ : ไม่ใช่ครับ ตัวเครื่องประกอบแน่นหนามาก ใช้กาวคุณภาพสูง ตัวจอไม่สามารถหลุดได้ง่ายๆ แน่นอน ขนาดตอนแกะออกยังต้องใช้ปืนลมร้อนเป่าออก
ผม : งั้นมันเป็นเพราะอะไรล่ะครับ
เจ้าหน้าที่ : *เอาเครื่องมือวัดฉากความงอของเครื่องมาวัด* แล้วก็พูดว่า ตัวเครื่องปกติ ไม่มีบิด ไม่มีงออะไร ยังไงก็ขอเอาเครื่องไว้ตรวจสอบก่อน ซึ่งสาเหตุสันนิษฐานว่าเป็นเพราะ “ลูกค้าเอาเครื่องไปใส่เคส”

ผมรู้สึกไม่อยากถามอะไรอีก เพราะคงจะได้คำตอบว่าเพราะลูกค้าเอาเครื่องไปใส่เคสอีกครั้ง จึงยอมให้เอาเครื่องทิ้งไว้ตรวจสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเครื่องจะแล้วเสร็จวันที่ 31 สิงหาคม 2558 ซึ่งผมก็ถามย้ำว่า เสร็จทันแน่นอนนะ เพราะผมกลัวจะไม่มีเวลาไปรับเครื่องในวันอื่น เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่า เสร็จทันแน่นอน

พอถึงวันที่ 31สิงหาคม จริงๆ ปรากฏว่า ไม่มีใครจากทาง Samsungติดต่อเข้ามาหาผมเลยซักคนจนถึงช่วงบ่าย ผมจึงโทรเข้าไปที่ Call Center ทาง Call Center แจ้งผมว่า จะให้ทางศูนย์ติดต่อกลับภายในวันนั้น ซึ่งวันนั้นทั้งวันก็ไม่มีใครติดต่อกลับมาเลย

ต่อมาวันที่ 1 และวันที่ 2 ทั้งสองวัน ผมโทรเข้าไปที่ Call Center อีก และทาง Call Center ก็แจ้งผมว่า จะให้ทางศูนย์ติดต่อกลับภายในวันนั้น ซึ่งทั้งวันก็ไม่มีใครติดต่อกลับมาเลยทั้งสองวัน จนวันที่ 3 กันยายน ผมโทรไปตอนเช้า ก็ได้รับคำตอบจากทาง Call Center เหมือนเดิม จนถึงบ่ายก็ไม่มีใครติดต่อกลับ ผมเลยโทรไปที่ Call Center อีกครั้ง คราวนี้ผมขอคุยกับทางศูนย์บริการ เดี๋ยวนั้นตอนนั้นเลย Call Center ก็ทำทีเหมือนจะติดต่อทางศูนย์ให้ แล้วก็บอกว่า โทรไปที่ศูนย์แล้วไม่มีใครรับสาย แต่เดี๋ยวจะให้ศูนย์ติดต่อกลับมาโดยเร็วที่สุด แล้ววางสายไปเลย ตอนนั้นคืออึ้งไปเลยกับการเลี่ยงปัญหาแบบนี้

ยังดีที่อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ทางศูนย์โทรมาแจ้งว่าเครื่องเสร็จแล้ว ผมจึงไปเอากลับมาอีกครั้ง และใช้มาจนถึงตอนนี้ ก็พบปัญหาใหม่อีกครั้งคือ ตัวเครื่องมีเสียงก๊อกๆ เหมือนประกอบไม่สนิทซึ่งคราวนี้อาจจะทนใช้ไป เพราะคงไม่มีเวลาเอากลับไปเข้าศูนย์อีก

และล่าสุดวันที่ 4 กันยายน 2558 หลังจากที่ผมได้แจ้งเรื่องไว้กับ สคบ. ตั้งแต่ตอนกรณีจอด้านในแตกเอง ทางสคบ.ได้ส่งจดหมายลงทะเบียนกลับมาหาผมว่า ได้ออกหนังสือให้ทางไทยซัมซุงเข้าชี้แจ้งข้อเท็จจริงแล้ว

สุดท้ายนี้ อยากจะขอเตือนคนที่สนใจสินค้าของยี่ห้อนี้ว่า ถ้าจะเลือกจริงๆ อย่าคาดหวังกับบริการหลังการขายของยี่ห้อนี้ครับ

ขอบคุณครับ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ ผ่านพ้นจึงค้นพบ จาก www.pantip.com